.
1. แยกปัญหาออกเป็นชิ้นเล็ก
เขารู้ว่าปัญหาทั้งก้อนดูน่ากลัว แต่พอแบ่งออกเป็นขั้นเล็กๆ เหมือนหั่นเค้กเป็นชิ้น มันกลับจัดการง่ายขึ้น เหมือนการเก็บบ้านทั้งหลัง เริ่มจากมุมเล็กๆ แล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆ
2. มองหาส่วนที่สำคัญที่สุดก่อน
เขาเลือกโฟกัสที่จุดที่มีผลกระทบมากที่สุด แทนที่จะพยายามแก้ทุกจุดพร้อมกัน เพราะเหมือนซ่อมเรือที่มีรอยรั่วใหญ่ก่อน ไม่ใช่ไปนั่งขัดสีราวจับ
3. เขียนทุกอย่างออกมา
เขาเอาปากกากับกระดาษมาวาง แล้วระบายปัญหาทั้งหมดออกมาให้เห็นภาพชัด เหมือนการเอาก้อนฝุ่นในหัวมากองไว้ตรงหน้า จะได้รู้ว่าก้อนไหนควรเก็บก่อน
4. ปรึกษาคนที่เคยผ่านมาก่อน
เขาเชื่อว่าประสบการณ์ของคนอื่นคือแผนที่ลัดที่จะพาเราเดินเร็วขึ้น เหมือนปีนเขาแล้วมีคนบอกว่าทางซ้ายมีน้ำตกสวย
แต่ทางขวามีงู
5. หยุดคิดซ้ำๆ แล้วลงมือทำ
เขารู้ว่าบางทีเราติดอยู่ในวงวนความคิดมากไป
จนไม่ได้ขยับ การก้าวเล็กๆ ในวันนี้ดีกว่าการนั่งกังวลทั้งปี
6. ลองใช้มุมมองคนนอก
เขาทำเหมือนเป็นเพื่อนของตัวเอง แล้วถามว่า ถ้าเป็นคุณ
คุณจะแก้ยังไงวิธีนี้มักทำให้เห็นคำตอบที่ง่ายกว่าที่คิด
7. ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก
เขาเลิกทำสิ่งที่ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาดีขึ้น เหมือนเก็บกระเป๋า
เดินทาง ตัดของที่ไม่จำเป็นออก จะได้เดินเบาและเร็วขึ้น
8. ตั้งเวลาให้ตัวเอง
เขากำหนดเวลาแก้ปัญหา ไม่ให้ตัวเองจมอยู่กับมันทั้งวัน เหมือนทำข้อสอบที่มีเวลาจำกัด มันช่วยให้คิดกระชับ
และตัดสินใจได้เร็ว
9. ใช้กฎ 80/20
เขามองหาว่า 20% ของสิ่งที่ทำให้เกิดผล 80% อยู่ตรงไหน แล้วลงแรงตรงนั้นก่อน เหมือนร้านอาหารที่ขายดีเพราะเมนู
ซิกเนเจอร์เพียงไม่กี่อย่าง
10. พักแล้วกลับมาใหม่
เขารู้ว่าบางปัญหายิ่งจ้องนานยิ่งตื้อ การพักไปเดินเล่น
หรือฟังเพลง ช่วยให้สมองเชื่อมโยงคำตอบใหม่ๆ ได้เอง
11. ทำให้เป็นเกม
เขาเปลี่ยนการแก้ปัญหาให้เหมือนเล่นเกม มีคะแนน
มีเวลา มีด่านย่อย ทำให้รู้สึกสนุกและอยากทำต่อ
12. มองหาโอกาสซ่อนอยู่ในปัญหา
เขาเชื่อว่าปัญหาคือครูที่ซ่อนบทเรียนไว้ ถ้าเจอเรื่องยาก
อาจมีทางที่ทำให้เราเก่งขึ้นหรือได้โอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิด
13. ใช้ตัวช่วยจากเทคโนโลยี
เขาไม่พยายามทำทุกอย่างด้วยมือ ถ้ามีเครื่องมือ แอป
หรือระบบที่ช่วยย่นเวลาได้ เขาก็ใช้ เหมือนใช้ GPS แทนการเปิดแผนที่กระดาษ
14. ถามตัวเองว่าจริงๆมันยากแค่ไหน
เขารู้ว่าหลายครั้งความยากอยู่ในหัวมากกว่าความจริง
พอเอามาวัดจริงๆ กลับพบว่ามันใช้แรงน้อยกว่าที่กลัว
15. ยอมรับว่าบางอย่างไม่ต้องสมบูรณ์
เขาไม่รอให้ทุกอย่างเป๊ะ เพราะบางที เสร็จดีกว่าสมบูรณ์
แบบเหมือนบ้านที่ทาสีเสร็จแล้วค่อยมาเก็บรายละเอียดทีหลัง
16. เรียนรู้จากความผิดพลาดเล็กๆ
เขาไม่กลัวลองผิด เพราะผิดเล็กๆ วันนี้ จะช่วยป้องกัน
ปัญหาใหญ่วันหน้า เหมือนซ้อมดับเพลิงก่อนเกิดเหตุจริง
17. หาเพื่อนช่วยคิด
เขารู้ว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว การมีเพื่อนคุย ช่วยโยน
ไอเดีย หรือแม้แต่ฟังเฉยๆ ก็ทำให้เรามองปัญหาชัดขึ้น
18. ให้รางวัลตัวเองเมื่อผ่านได้
เขาฉลองแม้จะเป็นการแก้ปัญหาเล็กๆ เพราะมันสร้างพลัง
ให้ลุยต่อ เหมือนการเก็บดาวในเกม ที่ทำให้เราอยากไปด่านต่อไป
แนะนำให้อ่าน
https://s.shopee.co.th/3Va22mBFmy
https://s.lazada.co.th/s.BCbUw?cc
#วิธีแก้ปัญหายากให้ง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น