วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สวนเกษตร “โคก–หนอง–นา โมเดล” เกษตรผสมผสาน–พอเพียง “กิน–เหลือ–ขาย”

📗 สวนเกษตร “โคก–หนอง–นา โมเดล” เกษตรผสมผสาน–พอเพียง “กิน–เหลือ–ขาย”

ไอเดียการผสมผสานทรัพยากรให้คุ้มค่า มีที่ดอน (โคก) มีแหล่งน้ำ (หนอง/สระ) และมีนาข้าว (นา) เชื่อมด้วยคันดิน–ร่องน้ำ–ถนนสวน ทำให้ ดิน–น้ำ–ป่า–คน เกื้อกูลกัน เกิดผลผลิตหลากหลาย “กินก่อน–เหลือค่อยขาย” เริ่มจาก…
.
🔰 1) สระน้ำ–เลี้ยงปลา
- สระน้ำ คือหัวใจน้ำของทั้งแปลง ใช้กักเก็บ–หมุนเวียนรดผัก/สวนผลไม้

- เลี้ยงปลาคู่ไปด้วย สร้างโปรตีนประจำบ้าน เศษพืชจากแปลงเป็นอาหารปลาได้ สร้างรายได้ได้ตลอด
.
🔰 2) นาข้าว
- แปลงนาสีเขียวติดสระ ลดต้นทุนข้าวสาร เกี่ยวข้าวแล้วเหลือฟางไว้ใช้ประโยชน์ ไว้คลุมดิน–ทำปุ๋ยหมัก

- คันนาเป็นแนวเดิน–แนวชะลอน้ำ และปลูกพืชริมคันได้อีกชั้น
.
🔰 3) สวนผลไม้
- ปลูกไม้ผลคละรุ่น (เช่น กล้วย–มะม่วง–ไม้ผลยืนต้นอื่น) ให้ร่มเงา–รายได้ระยะกลาง–ยาว

- แซมพืชดอก/พืชล่อแมลงดี ช่วยผสมเกสร
.
🔰 4) ผักให้ผลผลิต “รายวัน–รายสัปดาห์”
- แปลงยกร่องด้านล่างขวา เก็บกินทุกวัน (กูด/คะน้า/ถั่ว/เครื่องเคียง ฯลฯ)

- ถัดไปเป็นพืชรอบเก็บสั้น 1–2 สัปดาห์ เก็บขายได้ทั้งปี
.
🔰 5) เลี้ยงสัตว์ + โรงผลิตปุ๋ย
- คอกสัตว์เลี้ยง (โค–แพะ–ไก่) เพื่อเก็บมูลทำปุ๋ยหมัก/น้ำหมัก ส่งกลับสู่แปลง → ปิดวงจรธาตุอาหาร สามารถขายได้เป็นผลผลิตรายปี

- เศษพืช–ผลผลิตเกิน ที่ไม่ได้ขาย นำเล้าให้สัตว์กินลดของเสียเป็นศูนย์ กลายเป็นปุ๋ย
.
🔰 6) สวนป่า = โรงอาหาร–ธนาคารชีวิต
- แนวไม้ยืนต้นชิดขอบป่า ทำหน้าที่กันลม–กักความชื้น–เป็นที่อยู่อาศัยของแมลงดี–นก

- เก็บของป่าใช้สอย/เชื้อเพลิง ลดรายจ่ายจิปาถะ สร้างรายได้รายวัน/ลดค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับความขยัน
.
🔰 7) มะม่วง/ไม้ผลที่ชอบ
- ปลูก “ของกินที่ชอบตามแนวทาง” นำหน้าความแปลกใหม่ → ครัวเรือนอิ่มก่อน เหลือค่อยขาย
.
🔰 8) กระท่อม–ที่พักผ่อนจากการทำสวน
- ตั้งกลางงานสวน ใกล้น้ำ–ใกล้แปลง เพื่อดูแลง่าย
.
♻️ วงจร “กิน–เหลือ–ขาย” ในแปลง
- รายวัน : ผักครัว/ไข่ไก่/ปลาบางส่วน มีส่วนป่าไว้สร้างรายได้รายวันอีกมากมาย

- รายสัปดาห์ : ผักรอบเก็บ 7–14 วัน แปรรูปง่าย ๆ (น้ำพริก–ดอง–ชาใบสมุนไพร)

- รายเดือน : ลูกแพะ/โค/เห็ด/สมุนไพรแห้ง

- รายปี : ข้าว–ไม้ผลหลัก (มะม่วง/กล้วย/ลำไย ฯลฯ)
.
🧭 หลักพอเพียงที่ภาพนี้ทำอยู่
- พอประมาณ : จัดสัดส่วนพื้นที่ตามศักยภาพดิน–น้ำ–แรงงานบ้าน

- มีเหตุผล : แปลงผักอยู่ใกล้บ้าน–ใกล้น้ำ ลดแรง–ลดต้นทุน

- ภูมิคุ้มกัน : ความหลากหลายลดความเสี่ยงตลาด/อากาศ พึ่งตนเองได้เมื่อวิกฤต
.
✅ เคล็ดลัดลงมือ
- เริ่มจาก “น้ำ” ขุดสระให้พอฤดูแล้ง วางคันดินชะลอน้ำ

- ปลูกแปลงผักรายวันใกล้บ้านก่อน แล้วค่อยขยายสวนผลไม้

- เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นคอกสัตว์ติดโรงผลิตปุ๋ย ให้ของเสียวนกลับเป็นอาหารดิน

- บันทึกปฏิทินปลูก–เก็บ เพื่อล็อกกระแสเงินสดรายสัปดาห์–รายเดือน
.
นี่คือแปลงตัวอย่างของ โคก–หนอง–นา โมเดล ที่แปลงทรัพยากรธรรมชาติให้เป็น “ความมั่นคงอาหาร + รายได้หลายทาง” บนวิถีเรียบง่ายและยั่งยืน 🌾🌳🐟🐓
.
บทความโดย : เพจ เกษตร นานา

#เกษตรนานา #เกษตรผสมผสาน #โคกหนองนา #โคกหนองนาโมเดล

Google DeepMind ได้เปิดตัว Genie 3 เครื่องมือ AI ใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างโลกจำลองเสมือนจริง

[สนามเด็กเล่น] อาจเรียกได้ว่าเป็นโลกจำลองที่สั่งการได้ด้วย Prompt แบบ Realtime หลังทาง Google DeepMind ได้เปิดตัว Genie 3 เครื่องมือ AI ใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างโลกจำลองเสมือนจริง และเข้าไปเคลื่อนที่ในโลกดังกล่าวได้อิสระ
.
ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Google DeepMind ได้เปิดตัว Genie 2 บริการ AI สร้างโลก 3 มิติ โดยมาครบทั้งแสงเงาและฟิสิกส์ ถือเป็นเครื่องมือ AI ที่ล้ำยุคมาก ๆ แล้ว แต่มันยังพัฒนาต่อได้อีก จนเกิดเป็นภาคต่ออย่าง "Genie 3" นี่เอง
.
Genie 3 รอบนี้สามารถสร้างโลก 3 มิติได้คมชัดที่ 720p จากเดิมเพียง 360p กับเสถียรขึ้น ใช้ได้นานขึ้น และสร้างโลกจำลองแบบ Realtime ได้เลย โดยในที่นี้ทาง DeepMind เผยมี "World Memory" หรือตัวโลกจำลอง จะจดจำสิ่งที่สร้างผ่าน Prompt เอาไว้
.
ตัวอย่างเช่น สั่งให้ Genie 3 สร้างภาพคนทาสีกำแพงในโลกจำลอง (มุมมองบุคคลที่ 1) จากนั้นให้ลองหันไปรอบ ๆ แล้วกลับมาดูที่บริเวณทาสีอีกที ก็จะพบตัวสีที่ทาบนกำแพงเมื่อครู่ ยังคงอยู่ครบถ้วนนั้นเอง ง่าย ๆ คือ หากมีการเปลี่ยนแปลงในโลกจำลอง การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยังคงอยู่
.
และด้วยความสามารถนี้เอง ก็ทำให้ Genie 3 สามารถฝึก AI ตัวอื่นได้ด้วย เช่น สร้างสบานบินจำลองและให้มีเครื่องบินภายในนั้นด้วย ก็จะช่วยให้ฝึก AI เรียนรู้การบินได้นั้นเอง ไม่ต้องเอาไปบินบนฟ้าจริง ๆ ที่อาจมีค่าใช้จ่ายมหาศาล
.
หลังเปิดตัว Genie 3 ก็อาจทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คน (กับคู่แข่งอีกหลายราย) มองเลยว่า Google เป็นบริษัทที่มีความก้าวหน้าด้าน AI อย่างยิ่ง โดยทาง DeepMind ของ Google ก็ได้นำเสนอความสามารถที่ก้าวล้ำ นั่นคือการ "ควบคุม" และ "เปลี่ยนแปลง" ความเป็นจริงเสมือนได้ทันทีด้วยคำสั่งง่าย ๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่การสร้างวิดีโอเกม แต่คือการสร้าง "สนามฝึกซ้อม" ที่ดีที่สุด เพื่อฝึกฝน AI Agent ให้ฉลาดขึ้น , ปลอดภัยขึ้น และพร้อมสำหรับโลกแห่งความจริงในอนาคต...หรือเร็ว ๆ นี้แล้ว
.
ที่มา : https://www.techhub.in.th/deepmind-genie-create-world-3d-ai/
.
#DeepMind #Genie3 #AI #Google #techhub 
.
——————
⭐️ ติดตามอัปเดตข่าวไอที How To , Tips เทคนิคใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
ค้นหาข่าวที่อยู่ในความสนใจได้ที่ >> www.techhub.in.th
มีข้อสงสัยทัก LINE Techhub : https://lin.ee/Sietmnt

100 AI. ที่ควรรู้​

📍สาย POD (Print on Demand)
 1. Ideogram – AI สร้างลายเสื้อ + Typography สวย ๆ
 2. Playground AI – ทำ Mockup / ลาย POD ขายได้จริง
 3. Mystic POD – เครื่องมือออกแบบ + วิเคราะห์ Niche สำหรับ POD โดยเฉพาะ
 4. DALL·E 3 – ออกแบบลายเสื้อ พื้นหลังโปร่งใสได้
 5. Canva AI – ทำ Mockup + Presentation สำหรับ POD ง่าย ๆ
 6. Leonardo AI – ทำ Concept Art / Element สำหรับ POD
 7. Remove.bg – ตัดพื้นหลังไฟล์ PNG สำหรับเสื้อ/แก้ว/โปสเตอร์
 8. Fotor AI – ทำ Avatar, Logo สำหรับแบรนด์ POD
 9. Designs.ai – ออกแบบ Logo / Infographic ให้สินค้า POD
 10. AdCreative.ai – ทำ Ads Banner ขายงาน POD

📍สาย Digital Product
 11. ChatGPT – ผู้ช่วยคิด, เขียน, ทำไอเดีย eBook / Template
 12. Notion AI – จัดระบบคอร์ส/โน้ต/คอนเทนต์ Digital Product
 13. Canva AI – ทำ eBook, Infographic, Social Post
 14. Tome AI – ทำ Presentation / Digital Course สวย ๆ
 15. Murf AI – สร้างเสียงประกอบ Digital Course
 16. ElevenLabs – ทำเสียงหลายภาษา ใส่ใน eBook เสียง
 17. Descript – ตัดต่อวิดีโอคอร์ส/Workshop
 18. Opus Clip – แปลงคลิปยาวเป็น Short คอนเทนต์ขายคอร์ส
 19. Jasper AI – Copywriting สำหรับ Landing Page / Digital Product
 20. Perplexity AI – หาข้อมูลตลาด + งานวิจัยทำ Digital Product
สายธุรกิจ + Startup
21. Notion AI – บริหารงาน + Note อัจฉริยะ
 22. ClickUp AI – Project Management
 23. Motion – วางแผนเวลาอัตโนมัติ
 24. Slite AI – สรุปเอกสารทีม
 25. Tome – สร้าง Pitch Deck อัตโนมัติ
 26. Coda AI – บริหาร Workflow
 27. Airtable AI – จัดการฐานข้อมูล
 28. HubSpot AI – CRM + Marketing Automation
 29. Zapier AI – เชื่อม Workflow อัตโนมัติ
 30. Pitch – สร้างสไลด์ทีม Startup
📍สาย Productivity
 31. Claude AI – อ่านและสรุปเอกสาร
 32. Grammarly – ตรวจแกรมม่า
 33. Perplexity AI – ค้นหาข้อมูลพร้อมอ้างอิง
 34. Otter.ai – ถอดเสียงประชุม
 35. Fireflies.ai – ผู้ช่วยประชุม
 36. Tome AI – ทำพรีเซนเทชัน
 37. Motion AI – จัดตารางเวลาอัจฉริยะ
 38. Timely AI – จับเวลา + Productivity
 39. SaneBox – จัดอีเมลอัตโนมัติ
 40. Xembly – ผู้ช่วยประชุม AI
📍สาย Data & Marketing Analytics
 41. GA4 + AI Insights – วิเคราะห์เว็บ + Conversion
 42. HubSpot AI – วิเคราะห์ลูกค้า + CRM
 43. Tableau GPT – Dashboard Data
 44. Power BI Copilot – Visualization + Insight
 45. SimilarWeb – วิเคราะห์คู่แข่ง
 46. SEMrush – SEO/Ads Tools
 47. Crimson Hexagon – Social Analytics
 48. Brandwatch + AI – Social Listening
 49. MonkeyLearn – วิเคราะห์ข้อความรีวิว
 50. Jasper AI – วิเคราะห์ Content
📍สายทำภาพ
 51. MidJourney – งานอาร์ตขั้นสูง
 52. Stable Diffusion – Customize ละเอียด
 53. Adobe Firefly – เติม/รีทัชใน Photoshop
 54. Runway Gen-2 (ภาพนิ่ง) – ภาพ Cinematic
 55. Canva AI (Magic Media) – คอนเทนต์ไว ๆ
 56. Leonardo AI – Game Asset / Mockup
 57. Remove.bg – ตัดพื้นหลัง
 58. Fotor AI – Avatar / Logo
 59. Designs.ai – โลโก้อัตโนมัติ
 60. DALL·E 3 – ภาพใน ChatGPT
📍สายตัดต่อวิดีโอ & Motion
 61. Runway Gen-2 (วิดีโอ) – จากข้อความเป็นคลิป
 62. Pika Labs – ทำ Animation
 63. Kaiber AI – Music Video / Motion
 64. Descript – ตัดต่อวิดีโอ + ลบคำ
 65. CapCut AI – ตัดต่อมือถือ Auto Caption
 66. Wondershare Filmora AI – ช่วยแก้สี
 67. Adobe Premiere (Sensei AI) – Auto Cut
 68. Synthesia – วิดีโอ AI Avatar
 69. Veed.io – ตัดต่อออนไลน์
 70. Opus Clip – ตัดคลิปยาวเป็น Shorts
📍สายสุขภาพ ไลฟ์สไตล์
 71. MyFitnessPal AI – คำนวณโภชนาการ
 72. Fitbod – วางแผนออกกำลัง
 73. Calm AI – ทำสมาธิ/นอน
 74. Replika – เพื่อนคุย AI
 75. Woebot – นักบำบัด AI
 76. Youper – Mental Health Coach
 77. Wysa – โค้ชสุขภาพจิต
 78. 8fit AI – วางแผนอาหาร
 79. Lifesum AI – การกินเพื่อสุขภาพ
 80. Sleep.io – ปรับการนอน
📍สายธุรกิจ / การตลาด
 81. Salesforce Einstein – วิเคราะห์ลูกค้า
 82. Zoho Zia – ผู้ช่วย CRM
 83. Drift AI – แชทบอทขายของ
 84. Tidio AI – บอทตอบลูกค้า
 85. ManyChat – บอท Facebook/IG
 86. AdCreative.ai – ทำโฆษณาแบนเนอร์
 87. Ocoya – สร้างโพสต์โซเชียล
 88. SocialBee AI – จัดตารางโพสต์
 89. Clickable – เขียน Ads Content
 90. HubSpot AI – เขียนอีเมล
📍สายเรียนรู้ / การศึกษา
 91. Khanmigo – ติวหนังสือ
 92. Quizlet AI – Flashcard อัตโนมัติ
 93. Socratic – ถามการบ้าน
 94. Photomath – ถ่ายโจทย์คณิต
 95. Mathway – คำนวณสมการ
 96. Perplexity Scholar – ค้นคว้าวิชาการ
 97. Elicit – หางานวิจัย
 98. Scholarcy – สรุปบทความวิชาการ
 99. DeepL Write – เขียน/แปลภาษา
 100. LingQ – เรียนภาษาใหม่





วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568

วิธีแนะนำตัวใน 1 นาทีที่จะทำให้จำคุณได้ตลอดไป

วิธีแนะนำตัวใน 1 นาที
ที่จะทำให้จำคุณได้ตลอดไป
ให้พูด ชื่อ + บทบาทที่ทำ
ไม่ใช่ชื่อตำแหน่ง
.
เมื่อ Elon Musk เดินเข้าห้องประชุม SpaceX ครั้งแรกในปี 2002 เขาไม่ได้เริ่มต้นด้วยการบอกว่าตัวเองเป็น “ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี” เขากล่าวว่า “ผมอยากทำให้มนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตหลายดาวเคราะห์” จากประโยคเดียวนั้น ทุกคนในห้องจดจำเขาได้ตลอดไป
.
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford เผยว่า คนเราใช้เวลาเพียง 7 วินาทีในการตัดสินใจครั้งแรกเกี่ยวกับคนที่เพิ่งพบ และความประทับใจแรกนั้นจะจดจำเกี่ยวกับคนๆ นั้นได้ดีกว่า
.
หลายคนในตำแหน่งผู้บริหารมักพบว่าตัวเองออกจากห้องประชุมไปโดยไม่มีใครจดจำ แม้จะมีความสามารถโดดเด่นและประสบการณ์มากมาย พวกเขากลมกลืนไปกับคนอื่น เหมือนหยดน้ำในมหาสมุทร ทั้งที่ควรจะเป็นคลื่นที่สร้างความเปลี่ยนแปลง
.
เพราะอะไร ผู้บริหารส่วนใหญ่จึงไม่น่าจดจำ
.
การแนะนำตัวแบบดั้งเดิมมักเริ่มต้นด้วยตำแหน่งและคุณสมบัติ “สวัสดีครับ ผมชื่อสมชาย ผมเป็น VP Strategy ของบริษัทฟินเทค มีประสบการณ์ 15 ปีในการนำทีมข้ามสายงาน” มันถูกต้องในเชิงข้อมูล แต่น่าเบื่อในเชิงอารมณ์
.
ปัญหาของการแนะนำตัวแบบนี้คือ มันบอกเฉพาะสิ่งที่คุณทำ ไม่ได้บอกว่าทำไมมันถึงสำคัญ ไม่ได้สร้างภาพในใจผู้ฟัง และไม่ได้เชื่อมโยงทางอารมณ์ เพื่อให้คนจดจำได้ คุณต้องสร้างความรู้สึกร่วม ไม่ใช่แค่ส่งข้อมูล
.
สูตรการแนะนำตัวที่ติดใจใน 1 นาที
.
ผู้บริหารระดับสูง โค้ชส่วนตัว และวิทยากร TED ใช้กรอบ 4 ส่วนนี้ ชื่อและบทบาท ทำไมถึงทำ เรื่องราวจุดเริ่มต้น และคุณค่าที่สร้างให้ผู้อื่น
.

ส่วนแรกคือชื่อและบทบาท ใช้เวลา 5 วินาที ข้ามศัพท์เฉพาะไป พูดให้เป็นมนุษย์ “ผมชื่อสมชาย ผมเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฟินเทค” รวดเร็ว ชัดเจน เข้าใจง่าย
.
ส่วนที่สองคือทำไมถึงทำ ใช้เวลา 10-15 วินาที อธิบายแรงผลักดันที่ลึกกว่าตำแหน่งงาน “ผมหลงใหลการช่วยให้บริษัทเติบโตได้โดยไม่สูญเสียสิ่งที่ทำให้พวกเขายอดเยี่ยมตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ความไว้วางใจ หรือนวัตกรรม” สิ่งนี้แสดงความฉลาดทางอารมณ์ ไม่ใช่แค่ความสามารถในงาน
.
ส่วนที่สามคือเรื่องราวจุดเริ่มต้น ใช้เวลา 20-30 วินาที เล่าว่าคุณมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร “ผมเริ่มต้นจากงานที่ปรึกษา เห็นทีมเก่งๆ หลายทีมล้มเหลว ไม่ใช่เพราะขาดกลยุทธ์ แต่เพราะสื่อสารกันไม่ได้และปรับตัวช้า นั่นทำให้ผมหันมาศึกษาจิตวิทยาทีมและการปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์” ตอนนี้คุณเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ใช่แค่รายการคุณสมบัติ
.
ส่วนสุดท้ายคือคุณค่าที่สร้างให้ผู้อื่น ใช้เวลา 10-15 วินาที “ตอนนี้ผมช่วยทีมผู้นำเติบโตอย่างชัดเจน เพื่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ทำงานสอดคล้องกัน และไม่ทำให้คนเก่งที่สุดหมดไฟ” นี่คือสิ่งที่คนจะจดจำ
.
ตัวอย่างการแนะนำตัวที่สมบูรณ์

“สวัสดีครับ ผมชื่อ โอ ผมเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฟินเทค ผมหลงใหลการช่วยให้องค์กรเติบโตได้โดยไม่สูญเสียสิ่งที่ทำให้พวกเขายอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ความไว้วางใจ และนวัตกรรม ผมเริ่มต้นจากงานที่ปรึกษาและเห็นทีมฉลาดๆ หลายทีมพังทลายภายใต้เป้าหมายที่ไม่ชัดเจนและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า นั่นทำให้ผมหันมาศึกษาการปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์และประสิทธิภาพทางพฤติกรรม ตอนนี้ผมช่วยทีมผู้นำเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ยั่งยืน เพื่อให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายใหญ่โดยไม่ทำให้คนเก่งที่สุดหมดไฟ”
.
ตอนนี้โอไม่ใช่แค่ตำแหน่งงานอีกต่อไป เขาเป็นภารกิจที่มีชื่อ เป็นคนที่มีเรื่องราว มีจุดยืน และมีคุณค่าที่ชัดเจน
.
วิธีสร้างแผนการแนะนำตัวของคุณใน 15 นาที

เริ่มด้วยการตอบคำถาม ผมช่วยแก้ปัญหาอะไรที่ผมใส่ใจอย่างลึกซึ้ง อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของคุณ คุณอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบไหนมากขึ้น
.
จากนั้นค้นหาช่วงเวลาแห่งจุดเริ่มต้น ช่วงเวลาส่วนตัวใดที่อธิบายได้ว่าผมมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อาจเป็นลูกค้าที่คุณเคยช่วย ความผิดพลาดที่เรียนรู้ หรือการเปลี่ยนมุมมองต่องานของคุณ
.
สุดท้ายกำหนดความโดดเด่นเฉพาะตัว ผลลัพธ์ที่แท้จริงที่ผมช่วยให้ผู้คนหรือธุรกิจสร้างขึ้นคืออะไร ไม่ใช่แค่งานที่ต้องทำ แต่คือผลลัพธ์ คือการเปลี่ยนแปลง
.
ทำไมการแนะนำตัวที่ดี ถึงจะทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป
.
หลังจากที่คุณนำการแนะนำตัว 1 นาทีไปใช้ ผู้คนจะเริ่มจดจำคุณในห้องที่แออัด คุณจะถูกขอให้ขึ้นพูดในการประชุมผู้นำ ชื่อเสียงภายในจะเปลี่ยนจากคนทำงานเงียบๆ สู่พันธมิตรทางความคิดเชิงกลยุทธ์ คุณจะเริ่มเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่นและได้รับการโปรโมตเร็วขึ้น
.
นี่ไม่ใช่เพราะคุณทำงานหนักขึ้น แต่เป็นเพราะคุณกลายเป็นคนที่มองเห็นได้ มีคุณค่า และกล้าแสดงออก คุณสามารถใช้การแนะนำตัวนี้ได้ทุกที่ ตั้งแต่การประชุมทีมผู้นำ การโทรหานักลงทุน งานประชุมอุตสาหกรรม จนถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำ
.
การแนะนำตัวที่ติดใจไม่ใช่แค่เครื่องมือภายนอก มันกลายเป็นกระจกสะท้อนตัวตน เมื่อคุณพูดมันบ่อยๆ คุณก็จะใช้ชีวิตตามนั้น มันจะกลายเป็นเลนส์ที่คุณใช้กรองเวลา พลังงาน และการตัดสินใจ
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน

33 กลยุทธ์จิตวิทยา เอาชนะสงครามชีวิตที่โคตรใช้ได้ในชีวิตจริง


“ชีวิตก็เหมือนสนามรบ ชนะได้ด้วยสมอง”
---
สรุป 33 ข้อคิดจากสนามรบชีวิต
.
1. อย่าลงรบทุกศึก เลือกศึกที่คุ้มจะสู้
2. ชนะใจตัวเองก่อนชนะใคร
3. ศัตรูที่อันตรายที่สุดคือความลังเลในหัวเรา
4. ปล่อยให้คนอื่นเคลื่อนไหวก่อน เพื่ออ่านเกม
5. ใช้ความเงียบเป็นอาวุธ
6. ทำให้ศัตรูคิดว่าเขาควบคุมเกม
7. สร้างภาพลวงตาให้คู่แข่งประมาท
8. อย่าแสดงไพ่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น
9. ทำให้คู่แข่งเหนื่อยล้า ก่อนลงมือจริง
10. สร้างจังหวะและควบคุมเวลา
11. ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณ “คาดเดาไม่ได้”
12. ใช้ศัตรูบางคนเป็นเครื่องมือ
13. สร้างพันธมิตร แม้จะไม่ถูกกัน
14. ใช้ข้อมูลเล็กน้อย สร้างผลลัพธ์ใหญ่
15. ให้คู่แข่งติดกับดักที่เขาเลือกเอง
16. สร้างภาพลักษณ์ว่าแข็งแกร่งแม้ในวันที่อ่อนแอ
17. ใช้ความกลัวเป็นเกราะป้องกัน
18. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอยเพื่อกลับมาชนะ
19. สร้าง “สนามรบ” ที่คุณถนัดเอง
20. ทำให้คู่แข่งตัดสินใจผิดด้วยข้อมูลไม่ครบ
21. ใช้จังหวะโต้กลับแทนการเปิดเกม
22. ทำให้คนอื่นต่อสู้กันเอง
23. ใช้ความอดทนชนะความเร่งรีบ
24. ให้รางวัลเล็กเพื่อดึงสิ่งใหญ่
25. ทำให้คู่แข่งเสียสมดุลทางอารมณ์
26. ซ่อนเจตนาที่แท้จริง
27. อย่าให้ใครรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่
28. สร้างแรงกดดันจนคู่แข่งพลาด
29. ปกป้องจุดอ่อนของตัวเองเหมือนชีวิต
30. ใช้ความไม่แน่นอนเป็นเครื่องมือ
31. ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวมีเป้าหมาย
32. อย่าติดอยู่กับแผนเดียว ปรับตลอดเวลา
33. ชนะโดยไม่ต้องสู้ คือชัยชนะสูงสุด

Cr.อ่านไปเรื่อยๆ

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568

คลื่นไหนดีที่สุด !!?



1. คลื่นรบกวนในชีวิตประจำวัน
ทุกวันนี้รอบตัวเรามีคลื่นวิทยุเต็มไปหมด เช่น

มือถือ (700, 900, 1800, 2100, 3500 MHz)

Wi-Fi, Bluetooth (2400 MHz, 5000–6000 MHz)

คลื่นพวกนี้คือ “เสียงรบกวนในอากาศ” ที่ร่างกายเราหลีกเลี่ยงไม่ได้

2. คลื่นแม่
คลื่นแม่ เช่น 144, 177, 188 MHz (รวมถึงตัวอื่นๆ เช่น 333, 432, 443 ฯลฯ) คือ “ความถี่อ้างอิง” ที่มีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ มันหารลงตัวกับคลื่นรบกวน

👉 พูดง่ายๆ เหมือน “แม่กุญแจ” ที่เข้ากับ “ลูกกุญแจ” ของคลื่นรบกวนพอดี

3. ฮาร์มอนิก (คลื่นลูก)
เวลาเอาคลื่นแม่ไปเทียบกับคลื่นรบกวน บางครั้งมันจะ “ลงตัวแบบพอดี” หรือ “ใกล้เคียงมาก” → อันนี้เรียกว่าเกิด ฮาร์มอนิก

ผลคือ คลื่นแม่สามารถเข้าไปสั่นตาม หรือดึงพลังงานของคลื่นรบกวนออกมาได้ (เหมือนเครื่องดนตรีที่จูนคีย์ตรงกัน จะสั่นตอบสนองกันเอง)

4. ประโยชน์คืออะไร?

144, 177, 188 MHz → ครอบคลุมทั้งมือถือ, Wi-Fi, 5G

432, 443 MHz → ตรงกับ Wi-Fi/5G แบบใกล้เคียงมาก

333, 764 MHz → เด่นใน Wi-Fi เจนใหม่ (5–6 GHz)

133 MHz → เด่นในมือถือ (900/1800 MHz)

👉 สรุปง่ายๆ: แต่ละคลื่นเหมือน “เครื่องมือ” ที่ทำงานกับสัญญาณรบกวนคนละกลุ่ม

5. ทำไมต้องหลายคลื่น?
เพราะแต่ละคลื่นแม่ทำหน้าที่ต่างกัน

เหมือนมียาหลายขนาน → ตัวไหนแก้หวัด, ตัวไหนแก้ปวด, ตัวไหนแก้แพ้

ดังนั้น “ไม่มีตัวเดียวที่ดีที่สุด” แต่ 144, 177, 188 ถือว่าครอบจักรวาลสุด เพราะมันเชื่อมโยงกับทั้งมือถือและ Wi-Fi ที่เราใช้เยอะที่สุด

✅ ถ้าจะอธิบายกับคนทั่วไป ให้พูดสั้นๆ ว่า:

> คลื่นแม่คือคลื่นพื้นฐานที่จูนพอดีกับคลื่นรบกวนในชีวิตประจำวัน พอจูนตรงกันมันก็ไปหักล้าง หรือดึงเอาพลังงานรบกวนออกมาได้ คลื่น 144, 177, 188 MHz ถูกใช้เพราะมันครอบคลุมมือถือและ Wi-Fi ซึ่งเราต้องเจอทุกวัน

#ความรู้จากrb22

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2568

พูดยังไงให้เข้าหู


1. พูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น
เขาเข้าใจว่าคนฟังไม่ได้ต้องการแค่ คำแต่ต้องการความรู้สึก
ที่แฝงมากับน้ำเสียง เขาจึงไม่พูดด้วยความรีบเร่งหรืออารมณ์ แต่ใช้โทนเสียงสงบ ฟังแล้วอุ่นใจ เหมือนเวลาพ่อแม่ปลอบลูกให้หยุดร้อง คำพูดที่มาพร้อมความใจเย็นจึงเข้าถึงหัวใจได้ง่าย

2. พูดด้วยสายตาที่จริงใจ
เขารู้ว่าคำพูดที่ไม่มีสายตาสนับสนุนก็เหมือนจดหมายที่ไม่มีลายเซ็น เขาจึงมองตาคนตรงหน้าเสมอเมื่อพูด ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าได้รับความสำคัญ เหมือนเวลาคนที่เรารักพูดกับเราโดยไม่ละสายตา มันจึงซึมลึกมากกว่าคำพูดธรรมดา

3. พูดด้วยภาษาง่ายๆ
เขาไม่ใช้ถ้อยคำซับซ้อนเพื่ออวดความรู้ แต่เลือกใช้ภาษาธรรมดาที่ใครก็เข้าใจ เพราะเขารู้ว่าความหมายสำคัญกว่าความหรูหรา เหมือนเพื่อนที่อธิบายเรื่องยากให้เราเข้าใจได้
ในไม่กี่คำ คำพูดแบบนี้จึงเข้าหูมากกว่าการพูดให้ดูฉลาด

4. พูดด้วยการเล่าเรื่อง
เขาไม่โยนข้อมูลก้อนใหญ่ให้ฟัง แต่เล่าผ่านเรื่องราวที่คน
เห็นภาพและเชื่อมโยงได้ทันที เหมือนนักเล่าที่ทำให้คนหัวเราะ ร้องไห้ และอินไปกับเหตุการณ์ เรื่องเล่าคือสะพานที่ทำให้ข้อความเดินทางตรงเข้าสู่ใจคนฟัง

5. พูดด้วยการฟังกลับ
เขาไม่เอาแต่พูดเพื่อตัวเอง แต่ฟังเพื่อเข้าใจอีกฝ่ายด้วย 
แล้วจึงตอบกลับด้วยความใส่ใจ ทำให้บทสนทูกลายเป็นสองทาง เหมือนเวลาคุยกับคนที่พยักหน้า รับฟัง และทวนสิ่งที่เราเพิ่งพูด ความรู้สึกที่ได้รับการฟังนั้นมีค่ามากกว่าการพูดให้เก่งเสียอีก

6. พูดด้วยการยกตัวอย่าง
เขาไม่พูดลอยๆ แต่เสริมด้วยตัวอย่างที่จับต้องได้เหมือนการบอกว่า เก็บเงินวันละ 100 วันละปีคุณจะมี 36,500 บาท
คนฟังจึงเห็นภาพจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎีที่ลอยไปในอากาศ

7. พูดด้วยความจริงใจ
เขาไม่เสแสร้ง ไม่พูดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่พูดตรงไปตรงมา เพราะเขารู้ว่าความจริงใจคือภาษาสากลที่ทุกคนเข้าใจได้ คนฟังจึงสัมผัสได้ทันทีว่า นี่คือคำที่มาจากใจ ไม่ใช่การแสดง

8. พูดด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ว่ารอยยิ้มคือเครื่องปรุงของทุกบทสนทนาคำพูดที่อาจ
ฟังดูธรรมดาก็กลายเป็นอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อมีรอยยิ้มประกอบ เหมือนพนักงานที่ทักทายลูกค้าด้วยความยิ้มแย้ม จนคำพูดธรรมดากลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาอีกครั้ง

9. พูดด้วยความกระชับ
เขาไม่เอาคำพูดมาถ่วงเวลา แต่สื่อสารตรงประเด็นฟังแล้วเข้าใจในทันที คนจึงอยากฟังจนจบ เหมือนหัวหน้าที่ประชุมเพียง 5 นาที แต่ทีมได้ใจความครบถ้วนมากกว่าประชุมทั้งชั่วโมง

10. พูดด้วยการใส่อารมณ์พอดี
เขาไม่พูดเรียบเสียจนจืด และไม่โอเวอร์เกินจนดูแสดง 
แต่เล่าให้มีน้ำหนักพอดี ทำให้ผู้ฟังอินตาม เหมือนนักพูดที่ใช้โทนเสียงสูงต่ำสอดคล้องกับเนื้อหา คำพูดจึงติดหูและติดใจ

11. พูดด้วยการเลือกจังหวะ
เขาเข้าใจว่าคำพูดที่ถูกต้อง แต่พูดผิดเวลา ก็กลายเป็นไร้ค่า เขาจึงเลือกพูดเมื่อบรรยากาศเหมาะสม เหมือนการบอกข่าวดีในช่วงที่คนพร้อมจะยิ้ม และเลือกเงียบเมื่ออีกฝ่ายยังไม่พร้อมฟัง

12. พูดด้วยคำชมก่อนตักเตือน
เขาไม่รีบบอกข้อผิดพลาดทันที แต่เริ่มด้วยคำชื่นชมเล็กๆ 
เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี จากนั้นค่อยให้คำแนะนำอย่างอ่อนโยน เหมือนครูที่บอกว่า เธอทำได้ดีมาก แต่ถ้าเพิ่มตรงนี้จะสุดยอดไปเลยคนฟังยอมรับด้วยรอยยิ้มมากกว่าการต่อต้าน

13. พูดด้วยการยอมรับความรู้สึก
เขาไม่รีบปฏิเสธความคิดต่าง แต่เริ่มด้วยการบอกว่าฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไงก่อนจะเสนอความเห็นของตัวเอง คำพูดแบบนี้ทำให้คนฟังรู้สึกว่าตัวเองมีค่า และพร้อมจะฟังต่อ

14. พูดด้วยการใช้คำถาม
เขาไม่พูดแบบยัดเยียด แต่ถามกลับให้คนคิดตาม เช่น แล้วคุณคิดว่าแบบไหนเวิร์กกว่ากันการตั้งคำถามทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม และเปิดใจมากกว่าการถูกสั่ง

15. พูดด้วยการลดอัตตา
เขาไม่พูดในแบบที่ทำให้ตัวเองเหนือกว่า แต่ใช้คำที่เสมอภาค ฟังแล้วไม่รู้สึกถูกกดทับ เหมือนเพื่อนที่คุยกันอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เจ้านายสั่งลูกน้อง คนจึงยอมฟังโดยไม่รู้สึกต่อต้าน

16. พูดด้วยความมั่นใจ
เขาไม่พูดแบบสั่นคลอน แต่ใช้โทนที่หนักแน่นและมั่นคง 
ทำให้ผู้ฟังเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนผู้นำที่ประกาศแผน
การอย่างชัดเจน จนทุกคนพร้อมเดินตามโดยไม่ลังเล

17. พูดด้วยความเคารพ
เขาไม่พูดห้วน ไม่พูดดูถูก แต่ใช้ถ้อยคำสุภาพแม้จะเห็นต่าง เพราะเขารู้ว่าความเคารพคือรากฐานของการสื่อสารถ้อยคำสุภาพจึงกลายเป็นเกราะป้องกันความขัดแย้ง

18. พูดด้วยความสม่ำเสมอ
เขาไม่ได้พูดดีเฉพาะตอนอยากได้ประโยชน์ แต่พูดด้วยท่าทีจริงใจแบบเดียวกันทุกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป คนฟังจึงเชื่อว่า คำพูดของเขามีค่าเพราะมันไม่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์

แนะนำให้อ่าน 
https://s.shopee.co.th/10sm4GgnGn
https://s.lazada.co.th/s.zbVOS?cc

#พูดยังไงให้เข้าหู

คน 10 ประเภท หลีกเลี่ยง ถ้าอยากรวย



1. คนที่บ่นตลอดเวลา
เขามองแต่ปัญหา ไม่เคยเห็นโอกาส อยู่ใกล้แล้วคุณจะหมดไฟและเชื่อว่าทุกอย่าง "เป็นไปไม่ได้"

2. คนที่แก้ตัวเก่ง
มีเหตุผลร้อยแปดเพื่อไม่เริ่มต้น สุดท้ายชีวิตไม่เดินหน้า ถ้าคุณเชื่อแบบเขา คุณก็จะติดอยู่ที่เดิม

3. คนที่ชอบดูถูกความฝัน
เขาจะหัวเราะใส่เป้าหมายของคุณ และทำให้คุณสงสัยในตัวเอง ความฝันของคุณควรถูกปกป้อง ไม่ใช่ถูกเหยียบย่ำ

4. คนใช้เงินเกินตัว
หาเท่าไรก็ไม่พอ เพราะใช้ก่อนคิด อยู่ใกล้แล้วคุณจะซึมซับนิสัยติดหนี้แบบไม่รู้ตัว

5. คนดูดพลัง (Energy Vampire)
พวกนี้ไม่เคยให้ แต่จะดูดเอาเวลา แรงใจ และทรัพยากรจากคุณไปจนหมด เหลือแต่ความเหนื่อยล้า

6. คนที่พูดเยอะแต่ไม่เคยทำ
เสียงดังแต่ไร้ผลงาน ถ้าคุณฟังมากไป คุณจะเสียเวลาโดยไม่ได้อะไรกลับมา

7. คนขี้อิจฉา
เขาไม่อยากเห็นคุณโต ถ้าคุณก้าวหน้า เขาจะดึงคุณลงมาให้ต่ำเท่าเดิม

8. คนที่ชอบเอาเปรียบ
คิดแต่จะได้ ไม่เคยให้ อยู่กับเขานาน ๆ คุณจะเสียทั้งเงินและใจ

9. คนที่กลัวการเปลี่ยนแปลง
เขาจะบอกให้คุณ "อยู่เฉย ๆ ดีกว่า" ทั้งที่โลกกำลังหมุนไปข้างหน้า ถ้าคุณเชื่อเขา คุณจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

10. คนไม่ซื่อสัตย์
คนแบบนี้พร้อมหักหลังทุกเมื่อ เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ถ้าอยู่ใกล้เกินไป คุณจะเสียทั้งโอกาส ชื่อเสียง และอนาคต

#ทุนน้อยร้อยล้าน #coachnatt
#รวย #ความสำเร็จ #ความสุข

เทคโนโลยี LiDAR ตาที่สามของหุ่นยนต์ เลเซอร์เปลี่ยนโลก

เทคโนโลยี LiDAR ตาที่สามของหุ่นยนต์ เลเซอร์เปลี่ยนโลก
.
LiDAR เทคโนโลยีใช้แสงเลเซอร์ที่หลายคนคุ้นจากภาพในภาพยนตร์ปล้นเพชร เช่น James Bond หรือ Ocean’s Eleven แม้อาจไม่ใช่ระบบเดียวกันเสียทีเดียว แต่ LiDAR กำลังถูกพัฒนาให้เป็น “ดวงตาที่สาม” ของหุ่นยนต์ โดยครั้งหนึ่งเคยถูกใช้ยิงเลเซอร์วัดระยะถึงดวงจันทร์
.
เมื่อ AI ผสานกับ LiDAR จะช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้และเข้าใจกฎทางฟิสิกส์ในรูปแบบใหม่ที่มนุษย์ไม่เคยคาดคิด ทำหน้าที่เป็นดวงตาเสริมให้หุ่นยนต์มองเห็นโลกกายภาพในมิติ ตื้น–ลึก–หนา–บาง ได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่ามนุษย์ เสมือนวิวัฒนาการที่สิ่งมีชีวิตลืมตาครั้งแรกเพื่อมองโลกใบใหม่
.
นี่คือจังหวะสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรมองหาโอกาสต่อยอด LiDAR สู่ธุรกิจและนวัตกรรมรูปแบบใหม่
.
Secret Science ชวนพูดคุยกับ ดร.สุขุม สัตตรัตนามัย อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ วรนุช จันทร์สุริย์ นักภูมิสารสนเทศชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ติดตาชมมได้ในเอพิโสดนี้
.
#LiDAR #AI #หุ่นยนต์ #TheSecretSauce

7 ทักษะที่คุณสามารถควรมี​ฝึกได้

ในยุคที่โลกหมุนเร็วแบบนี้ Soft Skills ไม่ใช่แค่ “ของดีที่ควรมี” แต่กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมที่อยากทำงานให้เวิร์ก และวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง แต่หลายครั้งการอบรมทั่วไปกลับไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมจริง นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมแนวทาง Culture-Based Training ถึงตอบโจทย์ เพราะมันออกแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและค่านิยมที่องค์กรอยากสร้างขึ้นจริง ๆ⁣
ลองมาดู 7 ทักษะที่คุณสามารถเริ่มฝึกได้ในวันละแค่ 15 นาที และแต่ละอย่างนี้เข้ากับแนวคิดของ Culture-Based Training อย่างไรบ้าง:⁣
────⁣
✦ 1. จัดการความขัดแย้ง⁣
Culture-Based Training มองว่าความขัดแย้งไม่ได้เกิดจาก “คน” แต่เกิดจาก “ช่องว่างทางวัฒนธรรม” ถ้าเราเคลียร์ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ และหันไปโฟกัสผลลัพธ์ร่วมกัน มากกว่าจะเอาชนะกัน มันจะช่วยให้ทีมเราทำงานบนพื้นฐานของความเคารพ และร่วมมือกันได้ดีขึ้น⁣
ลองทำดู: เริ่มบทสนทนาด้วย “เราสองคนอยากเห็นผลลัพธ์อะไรเหมือนกัน?” แทนที่จะถามว่าใครผิด⁣
✦ 2. นิ่งและรับมือได้เมื่อมีแรงกดดัน⁣
วิธีที่ผู้นำแสดงออกในช่วงที่กดดัน มันส่งผลต่อทั้งทีมเลยนะ แค่หายใจลึก ๆ 3 ครั้งก่อนตอบอีเมล หรือค่อย ๆ ลดน้ำเสียงเมื่ออีกฝ่ายเริ่มเสียงแข็ง ก็ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของความนิ่งและเป็นมืออาชีพได้แล้ว⁣
เทคนิคจาก Culture-Based Training: ผู้นำที่ฝึกเรื่องอารมณ์ จะกลายเป็นแบบอย่างเรื่องวุฒิภาวะทางอารมณ์ให้ทั้งทีม⁣
✦ 3. รู้ทันอารมณ์ตัวเอง⁣
แค่ตั้งชื่อให้อารมณ์ที่เรากำลังรู้สึก ก็ทำให้เรารับมือกับมันดีขึ้นแล้วนะ ลองสังเกตสัญญาณจากร่างกาย เช่น กรามตึง หายใจไม่ลึก บอกเราว่าอารมณ์กำลังมา⁣
ฝึกประจำ: ถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า “ตอนนี้เรารู้สึกอะไร? แล้วมันมาจากอะไร?”⁣
✦ 4. ฟังให้คนรู้สึกว่าเขาสำคัญ⁣
Culture-Based Training สอนให้ฟังแบบเข้าใจ ไม่ใช่แค่ฟังเพื่อโต้ตอบ ลองพูดว่า “เล่าเพิ่มให้เราฟังหน่อย” หรือสรุปสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก่อนให้ความคิดเห็น แค่นี้ก็สร้างความรู้สึกปลอดภัยและไว้ใจกันได้แล้ว⁣
✦ 5. ให้ Feedback อย่างสร้างสรรค์⁣
คำพูดเดียวสามารถทำลายวัฒนธรรมได้ ถ้าให้ Feedback แบบกล่าวหา ลองเปลี่ยนจาก “คุณทำผิดอีกแล้ว” เป็น “เราสังเกตว่า...” จะทำให้ Feedback เป็นโอกาสในการเรียนรู้แทนที่จะรู้สึกถูกตำหนิ⁣
✦ 6. สร้างความไว้ใจ⁣
ทำสิ่งเล็ก ๆ ที่เราสัญญาไว้ให้สำเร็จ ชมในที่สาธารณะ ติในที่ลับ พฤติกรรมพวกนี้ถ้าทำสม่ำเสมอจะค่อย ๆ สร้างวัฒนธรรมที่ไว้ใจกันได้จริง⁣
✦ 7. พูดว่า “ไม่” อย่างนุ่มนวล⁣
Culture-Based Training ช่วยให้ผู้นำกล้าปฏิเสธอย่างมืออาชีพ เช่น “ขอบคุณที่คิดถึงเรานะ แต่ตอนนี้เรามีสิ่งที่ต้องโฟกัสอยู่แล้ว” เป็นการปฏิเสธที่ให้เกียรติทั้งสองฝ่าย⁣
______⁣
📍 ทำไม Culture-Based Training ถึงเวิร์ก?⁣
ต่างจากเทรนนิ่งทั่ว ๆ ไป Culture-Based Training เริ่มจากแก่นขององค์กรก่อน แล้วออกแบบการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่องค์กรอยากเห็นจริง ๆ เชื่อมโยงกับกลยุทธ์ และฝึกให้ทำได้จริง ไม่ใช่แค่เข้าใจ⁣
⁣ที่มา
Ayla Capability Lab⁣
────⁣

‘Productivity’ ไม่ใช่การทำเยอะ แต่คือการทำ ‘สิ่งที่สำคัญ’ใน ‘เวลาที่สมควรทำ’


.
“ฉันต้องทำงานทั้งวัน เพื่อมี Productivity”
.
นี่คือ ความเข้าใจผิดที่หลายคนมีเกี่ยวกับ "การมีประสิทธิภาพ" หรือ Productivity
.
ที่มักจะคิดกันว่า "ยิ่งทำมาก = ยิ่งมีประสิทธิภาพมาก" แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย
.
คุณอาจจะใช้เวลาทั้งวันในการทำงาน แต่ผลลัพธ์ของงานที่ได้ออกมาจริงๆ อาจใช้เวลาของคุณแค่ 4 ชั่วโมง
.
”เวลาในการทำงาน” ไม่ได้สะท้อนถึง “ผลลัพธ์ของงาน”
.
Peter Drucker นักบริหารระดับโลก เคยกล่าวไว้ว่า "There is nothing so useless as doing efficiently that which should not be done at all"
.
แปลได้ว่า "ไม่มีอะไรที่ไร้ประโยชน์ไปกว่าการทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ให้มีประสิทธิภาพ”
.
ความสำเร็จไม่ได้วัดจากจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน แต่วัดจากผลลัพธ์ที่สร้างขึ้น และเส้นทางสู่ผลลัพธ์ที่ดีคือ การเลือกทำ "สิ่งที่สำคัญ" ใน "เวลาที่เหมาะสม” พร้อมกับยึดหลักการทำงานต่อไปนี้
.
1.หลักการ 80/20 หรือ กฎพาเรโต
.
มีงานวิจัยพบว่า 80% ของผลลัพธ์มาจากการทำงานเพียง 20% เท่านั้น หมายความว่า ในงานทั้งหมดที่คุณทำ มีแค่ 20% เท่านั้นที่สร้างผลลัพธ์ถึง 80%
.
ดังนั้น แทนที่จะพยายามทำทุกอย่าง คุณควรค้นหาว่างานไหนคือ 20% ที่ให้ผล 80% แล้วทุ่มเทกับมันให้มากที่สุด
.
2.เวลาที่มีคุณภาพสูงสุด (Peak Hours)
.
แต่ละคนมีช่วงเวลาที่สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดไม่เท่ากัน บางคนทำงานได้ดีในตอนเช้า บางคนกลับมีความคิดสร้างสรรค์ในตอนกลางคืน
.
การรู้จักช่วงเวลา Peak Hours ของตัวเองและจัดสรรงานสำคัญให้ตรงกับช่วงเวลานั้น คือกุญแจสำคัญของ Productivity ที่แท้จริง
.
3..กฎ 1-3-5
.
แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างในวันเดียว ลองใช้กฎ 1-3-5 คือ ในแต่ละวัน ตั้งเป้าทำงานใหญ่ 1 งาน งานขนาดกลาง 3 งาน และงานเล็ก 5 งาน เท่านั้น
.
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้จะทำให้คุณรู้สึกสำเร็จมากกว่าการตั้งเป้าหมายมากเกินไปแล้วทำไม่สำเร็จสักอย่าง
.
Productivity ที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของ "ปริมาณ" แต่เป็นเรื่องของ "คุณภาพ" และ "การเลือก"
.
สิ่งที่จะทำให้คุณก้าวหน้าไปได้ไกลที่สุดคือ การรู้ว่าอะไรสำคัญจริงๆ สำหรับคุณ และเมื่อไหร่คือ เวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำมัน
.
จำไว้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่ทำงานหนักที่สุด แต่เป็นคนที่รู้จักเลือกทำงานที่สำคัญที่สุดในเวลาที่เหมาะสมที่สุดต่างหาก
.
> แจกฟรี! 10 Self-reflect Question Template มองเห็นเส้นทางของตัวเองชัดขึ้น ภายใน 10 คำถาม
.
รับลิงก์ Template นี้ได้ที่: [ คอมเมนต์ใต้โพสต์ ]
.
.
เขียนโดย #วิชานอกห้อง
| ปลดล็อกตัวเองไปให้ไกล

สร้างหนังสือ ระบบสุริยะจักรวาล จำนวน 20 หน้า สวยมากครับ​ ลองดู​ครับ​

สร้างหนังสือ ระบบสุริยะจักรวาล จำนวน 20 หน้า สวยมากครับ
สร้างแบบกำหนดหน้า โดยใช้ Gemini ในการสร้าง Prompt
ตัวอย่างหนังสือ https://g.co/gemini/share/edaa8f500747
วิธีสร้าง
1. เปิด Gemini https://gemini.google.com
2. เลือก สำรวจ Gem => Storybook
3. วาง Prompt แล้วก็รอ
4. ถ้าไม่ได้ 25 หน้า ให้วาง Prompt อีกรอบ
========================
Prompt : สร้างหนังสือเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลสำหรับเด็กและผู้ที่สนใจทั่วไป เน้นภาพประกอบสวยงาม สีสันสดใส และเนื้อหาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้อ่านได้เรียนรู้เรื่องราวของดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ บริวาร และวัตถุต่างๆ ในระบบสุริยะได้อย่างสนุกสนาน
โครงสร้างหนังสือ:
หน้าปก (หน้า 1):ชื่อหนังสือ: ระบบสุริยะจักรวาล
ภาพ: ดวงอาทิตย์ที่สว่างสดใสอยู่ตรงกลาง และมีดาวเคราะห์ทั้ง 8 โคจรอยู่รอบๆ อาจมีภาพนักบินอวกาศหรือยานอวกาศประกอบเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
คำนำ (หน้า 2):ข้อความต้อนรับผู้อ่านสู่การเดินทางสำรวจระบบสุริยะจักรวาล เกริ่นนำว่าเราจะพาไปรู้จักกับดาวดวงต่างๆ ในระบบสุริยะของเรา
ระบบสุริยะคืออะไร? (หน้า 3):คำอธิบายสั้นๆ ว่าระบบสุริยะคืออะไร มีอะไรบ้าง และทำไมถึงเรียกว่าระบบสุริยะ
ดวงอาทิตย์ ศูนย์กลางของระบบสุริยะ (หน้า 4):ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับดวงอาทิตย์: เป็นดาวฤกษ์ที่ให้ความร้อนและแสงสว่าง
ภาพประกอบ: ดวงอาทิตย์ที่กำลังลุกโชนอย่างยิ่งใหญ่
ดาวพุธ: (หน้า 5) ข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับดาวพุธ: เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด และมีขนาดเล็กที่สุด
ดาวศุกร์: (หน้า 6) ข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับดาวศุกร์: เป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดและมีท้องฟ้าเป็นสีส้มเหลือง
โลก: (หน้า 7) ข้อมูลเกี่ยวกับโลก: เป็นดาวเคราะห์ที่เราอาศัยอยู่ มีน้ำและอากาศ
ดาวอังคาร: (หน้า 8) ข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับดาวอังคาร: มีสีแดง และมีภูมิประเทศคล้ายทะเลทราย
เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย (หน้า 9): อธิบายว่าคืออะไร และอยู่ที่ไหน
ดาวพฤหัสบดี: (หน้า 10) ข้อมูลสั้นๆ: เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด และมีพายุขนาดใหญ่ที่เรียกว่าจุดแดงยักษ์
ดาวเสาร์: (หน้า 11) ข้อมูลสั้นๆ: มีวงแหวนที่สวยงามและโดดเด่น
ดาวยูเรนัส: (หน้า 12) ข้อมูลสั้นๆ: มีลักษณะเอียงและมีสีน้ำเงินจางๆ
ดาวเนปจูน: (หน้า 13) ข้อมูลสั้นๆ: เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลที่สุดและมีลมพายุที่รุนแรงที่สุด
ดาวเคราะห์แคระและวัตถุอื่นๆ (หน้า 14):
ดวงจันทร์: (หน้า 15) อธิบายว่าคืออะไร และยกตัวอย่างดวงจันทร์ของโลก
ดาวหางและดาวเคราะห์น้อย: (หน้า 16) อธิบายความแตกต่างของทั้งสองอย่าง พร้อมภาพประกอบ
อุกกาบาต: (หน้า 17) อธิบายว่าคืออะไร และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การเดินทางในอวกาศ (หน้า 18):เรื่องราวเกี่ยวกับนักบินอวกาศ ยานอวกาศ และการสำรวจอวกาศ
สรุปและคำถาม (หน้า 19):สรุปความรู้ที่ได้เรียนรู้ไป
หน้าสุดท้าย (หน้า 20):ภาพรวมของระบบสุริยะทั้งหมด พร้อมคำขอบคุณและเชิญชวนให้ผู้อ่านเรียนรู้เรื่องอวกาศต่อไป

โทนการเขียน: เป็นมิตร สนุกสนาน และให้ความรู้ เหมาะสำหรับเด็กและผู้เริ่มต้น
ภาพประกอบ: ภาพการ์ตูนสีสดใส มีชีวิตชีวา และให้ความรู้สึกเหมือนกำลังท่องอวกาศจริงๆ
#สร้างสื่อด้วยAI #เรียนรู้AIไปกับครูหนุ่ม

มีแฟนพันธุ์​แท้เพียง​ 1,000 คนก็พลิกชีวิตธุรกิจได้ ("1,000 True Fans" ไอเดียสร้างธุรกิจให้ยั่งยืน)​

✨ แค่ 1,000 คนก็พลิกชีวิตธุรกิจ "1,000 True Fans" ไอเดียสร้างธุรกิจให้ยั่งยืน
.
ลองจินตนาการ…
คุณกำลังเริ่มธุรกิจ หรือกำลังสร้างแบรนด์ของตัวเอง
แต่พอหันไปมองรอบตัว — เจอแต่แบรนด์ใหญ่ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน
คุณเริ่มถามตัวเองว่า…
“ถ้าเราไม่มีคนติดตามขนาดนั้น แล้วจะไปรอดได้ยังไง?”

แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น…
เสียงจาก Kevin Kelly ผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสาร Wired ที่บอกว่า
“คุณไม่จำเป็นต้องมีแฟนเป็นล้าน เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่ได้
แค่มี แฟนพันธุ์แท้ 1,000 คน ก็พอ” (Kevin Kelly, The Technium, 2008)

📌แฟนพันธุ์แท้ คือใคร?
คือคนที่ไม่เพียงแค่ “ซื้อ” แต่ เชื่อ ในตัวคุณ
พวกเขาจะ…
- ซื้อทุกสินค้าที่คุณทำ
- รอคอยผลงานใหม่เหมือนรอซีรีส์โปรด
- เดินทางไกลเพื่อมาหาคุณ
- จ่ายเงินซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเขาอยากสนับสนุนคุณจริงๆ

💡 Kelly คำนวณให้ดูง่ายๆ
ถ้าแฟนพันธุ์แท้แต่ละคนจ่ายให้คุณปีละ $100 (ประมาณ 3,600 บาท)
เพียง 1,000 คน คุณก็มีรายได้ $100,000 ต่อปี (ประมาณ 3.6 ล้านบาท)
— มากพอจะเลี้ยงชีพและขยายธุรกิจ

ทำไมแนวคิดนี้ถึงทรงพลังในยุคนี้?
- เศรษฐกิจครีเอเตอร์บูม — ใครก็เป็นผู้สร้างได้
- ตลาด Niche เปิดกว้าง — อินเทอร์เน็ตพาเราไปถึงคนที่สนใจเฉพาะทางได้ทั่วโลก
- ความจริงใจคือพลัง — ผู้คนโหยหาความสัมพันธ์จริงมากกว่าโฆษณาแมส

🎯 แล้วจะสร้าง 1,000 True Fans ได้ยังไง?
- เจาะสิ่งที่คุณถนัดและรัก — ยิ่งเฉพาะ ยิ่งดึงดูด
- ให้คุณค่าอย่างต่อเนื่อง — ทำให้คนจดจำและรอคอย
- สร้างความสัมพันธ์ตรง — เก็บอีเมล สร้างชุมชนของตัวเอง
- เปิดช่องทางให้สนับสนุน — สินค้าดิจิทัล, คอร์ส, สินค้า Limited, โมเดลสมาชิก

บทสรุป:
อย่าไล่ตัวเลขผู้ติดตามแบบไร้ทิศทาง
เพราะสิ่งที่ทำให้ธุรกิจยั่งยืน
ไม่ใช่ “คนมาก” แต่คือ “คนที่รักและเชื่อในคุณมากพอ”

และบางที…
คุณอาจต้องการแค่ 1,000 คนเท่านั้น

#ABM #KevinKelly #1000TrueFans 
#ไอเดียสร้างธุรกิจ #แนวคิดธุรกิจ

9​AI.​ที่ต้องมีติดมือถือ

1. Gemini
ข้อความ + ภาพ + วิดีโอเป็น AI ผู้ช่วยของ Google ที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Gmail, Google Maps และ Google Docs เพื่อช่วยจัดการข้อมูลส่วนตัวได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิเคราะห์ภาพ, สร้างรูปภาพจากคำสั่ง และตอบคำถามจากข้อมูลล่าสุดบนอินเทอร์เน็ตได้

2. ChatGPT
เป็น AI ที่หลากหลายและใช้งานง่ายที่สุด มีความสามารถในการจำบทสนทนาเก่า (Memory) ทำให้เข้าใจผู้ใช้ได้ดีขึ้น เก่งด้านการเขียนโค้ด, การวิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างเนื้อหา และการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ มีฟีเจอร์ Deep Research สำหรับงานวิจัยเชิงลึกและสามารถสร้างภาพด้วย DALL-E ได้

3. Claude
เป็น AI ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนและการวิเคราะห์เอกสารยาวๆ สามารถรับข้อมูลได้มากถึง 200,000 คำในครั้งเดียว เหมาะสำหรับการสรุปเอกสาร, การเขียนเนื้อหาคุณภาพสูง, การวิเคราะห์โค้ด และการทำงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง โดดเด่นในด้านการให้คำตอบที่มีคุณภาพและรอบคอบ

4. Copilot
เป็น AI ของ Microsoft ที่ผสานรวมกับ Microsoft 365 ได้อย่างสมบูรณ์ สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบ Real-time ผ่าน Bing Search ช่วยงานใน Word, Excel, PowerPoint และ Outlook ได้โดยตรง เหมาะสำหรับการทำงานในองค์กรและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานประจำวัน นอกจากนี้ copilot ยังสามารถสร้างภาพ ข้อความ ได้เหมือนกับ ChatGPT อีกด้วย

5. Canva AI (Magic Studio)
เป็นชุดเครื่องมือ AI ครบวงจรสำหรับการออกแบบ ประกอบด้วย Magic Design สำหรับสร้างดีไซน์จากข้อความ, Magic Edit สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI, Magic Write สำหรับเขียนเนื้อหา และ Magic Switch สำหรับเปลี่ยนรูปแบบดีไซน์ รองรับการสร้างวิดีโอสั้น โปสเตอร์ และสื่อการตลาดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากกนี้ยังมี Canva code สำหรับสร้างแอพหรือโปรแกรมง่ายๆเพียงแค่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงไปก็จะได้แอพที่ท่านต้องการตามจินตนาการ

6. CapCut AI
เป็นเครื่องมือตัดต่อวิดีโอ AI ที่ทรงพลังและใช้งานฟรี มีฟีเจอร์ Auto-Cut ที่ตัดต่อวิดีโออัตโนมัติ, Background Remover สำหรับลบพื้นหลัง, Text-to-Speech สำหรับสร้างเสียงพากย์ และการเพิ่มซับไตเติ้ลอัตโนมัติ เหมาะสำหรับ Content Creator และผู้ที่ต้องการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงอย่างรวดเร็ว

7. Meta AI
เป็น AI ที่ผสานรวมกับแพลตฟอร์ม Meta ทั้งหมด (Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger) สามารถสนทนาด้วยเสียง (Voice Chat) ที่เป็นธรรมชาติ แก้ไขวิดีโอและภาพได้ และปรับแต่งคำตอบตามข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ มีฟีเจอร์การแปลภาษาและการสร้าง Background สำหรับ Stories

8. Grok
เป็น AI ที่อ้างว่าฉลาดที่สุดในโลก (Grok 4) พัฒนาโดย xAI ของ Elon Musk มีการเข้าถึงข้อมูล Real-time จาก X (Twitter) และ Native Tool Use ที่สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ได้ มี Think Mode สำหรับการคิดอย่างละเอียดและ Voice Chat โดดเด่นด้านการให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาและมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์

9. Perplexity AI
เป็น Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้คำตอบที่แม่นยำพร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน มี Deep Research สำหรับการวิจัยเชิงลึกที่ใช้เวลาหลายนาทีในการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง มี Focus Mode สำหรับค้นหาเฉพาะแหล่งข้อมูลที่ต้องการ และสามารถสร้าง Pages เพื่อแชร์ผลการค้นหาได้
#AI #ปัญญาประดิษฐ์ #เทคโนโลยี #นวัตกรรม
#ChatGPT #Gemini #Claude #Copilot #CanvaAI

อย่าพูด แต่จงเป็น.....(ทำให้​เห็น)​


1. ขยัน
เขาไม่เคยต้องบอกใครว่าตัวเองเป็นคนขยัน แต่ทุกเช้าที่คนอื่นยังหลับ เขาตื่นมาลงมือทำสิ่งเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ วันแล้ววันเล่าเล็กน้อยเหล่านี้รวมกันจนกลายเป็นพลังใหญ่ที่ผลักดันชีวิตไปข้างหน้า คนรอบตัวเห็นแล้วซึ้งใจโดยไม่ต้องอธิบายอะไรเลย

2. ใจดี
เขาไม่จำเป็นต้องบอกว่าตัวเองใจดี เพราะทุกครั้งที่มีคนล้ม เขายื่นมือช่วยอย่างจริงใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้จะไม่มีใครเห็น แต่ความเมตตาเล็กๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้โลกน่า
อยู่ขึ้น และมันคือคุณค่าที่ไม่ต้องพูดแต่ทุกคนสัมผัสได้

3. ซื่อสัตย์
เขาไม่อวดว่าตัวเองซื่อสัตย์ แต่เพียงแค่คืนเงินทอนที่เกินมาไม่กี่บาท ก็ทำให้คนขายเชื่อมั่นและยิ้มออกมาได้ ความจริงใจที่เล็กน้อยแบบนี้แหละที่ทำให้ใครต่อใครไว้ใจมากกว่าคำพูดที่สวยหรู

4. สุขภาพ
เขาไม่เคยพูดว่ารักสุขภาพ แต่ทุกวันเขาเลือกเดินแทนการขึ้นลิฟต์ ดื่มน้ำมากกว่ากาแฟ และไม่ลืมออกกำลังกาย แม้จะเป็นการดูแลเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตา แต่สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความเคารพในตัวเองชัดเจนยิ่งกว่าคำใดๆ

5. ครอบครัว
เขาไม่เคยประกาศว่ารักครอบครัว แต่เขากลับบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส ทานข้าวกับพ่อแม่ พูดคุยถามไถ่เพียงเล็กน้อย แต่มันกลับเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนในบ้าน คำว่า รักอาจพูดได้ง่าย แต่การกระทำคือของขวัญที่มีค่ามากที่สุด

6. เก่ง
เขาไม่บอกว่าตัวเองเก่ง แต่ทุกผลงานที่ออกมาคือหลักฐานที่ดังพอที่จะพูดแทนตัวเอง ความตั้งใจที่ลงแรงไปทำให้ทุกอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้คำอวดอ้าง

7. ฝัน
เขาไม่จำเป็นต้องพูดถึงฝันสวยหรู แต่เขากล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่เชื่อ แม้มันยากและไม่มีใครสนับสนุน แต่การลงมือทีละก้าวทำให้ฝันกลายเป็นจริง และเมื่อวันหนึ่งสำเร็จ คนรอบข้าง
ก็จะเชื่อโดยไม่ต้องใช้คำอธิบาย

8. อดทน
เขาไม่เคยบอกว่าเข้มแข็ง แต่เมื่อชีวิตถาโถมเรื่องหนัก เขายังเลือกยืนหยัดสู้ต่อ แม้จะเหนื่อยและท้อ แต่เขาไม่ยอมแพ้ การกระทำนี้ต่างหากคือเครื่องหมายที่บอกว่าเขาแข็งแรงกว่าที่เห็น

9. กตัญญู
เขาไม่เคยพูดว่าตัวเองกตัญญู แต่เขาโทรหาพ่อแม่เสมอ 
แค่คำถามง่ายๆ อย่างทานข้าวหรือยังก็ทำให้คนที่เลี้ยงดูเขายิ้มได้ ความใส่ใจเล็กๆ เหล่านี้มีค่ามากกว่าคำพูดอันยิ่งใหญ่

10. เพื่อนแท้
เขาไม่เคยอวดว่าตัวเองเป็นเพื่อนแท้ แต่เมื่อถึงวันที่คุณล้ม 
เขาอยู่ตรงนั้นข้างๆ โดยไม่ต้องนัดหมาย เพื่อนจริงไม่ต้องพูด แต่การอยู่เคียงข้างคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

11. มั่นใจ
เขาไม่พูดว่ามั่นใจ แต่ทุกการตัดสินใจของเขาเต็มไปด้วย
พลัง แววตาที่แน่วแน่ทำให้คนรอบตัวเชื่อมั่นตามไปด้วย ความมั่นใจที่แท้จริงไม่ต้องอธิบาย มันมาจากการลงมือและการยืนหยัด

12. ถ่อมตัว
เขาไม่เคยพูดว่าตัวเองถ่อมตัว แต่เขารับฟังทุกคำ
แนะนำโดยไม่อวดดี ยอมเรียนรู้แม้จากคนที่อายุน้อยกว่า 
ความถ่อมตนนี้คือสะพานที่พาเขาเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

13. รักการอ่าน
เขาไม่บอกใครให้หันมาอ่านหนังสือ แต่เขาเปิดมันทุกคืน 
เติมพลังใจและความรู้ให้กับตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไป คนที่เห็นเขาเปลี่ยนแปลงจะอยากทำตามมากกว่าการฟังคำสั่ง

14. ใจเย็น
เขาไม่เคยโอ้อวดว่าใจเย็น แต่ในวันที่ใครพยายามยั่วยุ 
เขากลับเลือกยิ้มและเงียบ ความสงบที่แผ่ออกมาทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที นั่นคือพลังที่เหนือกว่าคำพูด

15. วินัย
เขาไม่พูดว่ามีวินัย แต่เขาตื่นเช้า เข้านอนตรงเวลา ทำสิ่งเล็กๆ ซ้ำๆ โดยไม่บ่น สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ หล่อหลอมตัวเขาให้เป็นคนที่เชื่อถือได้ และนั่นคือพลังของวินัยที่แท้จริง

16. มองไกล
เขาไม่ประกาศว่ามองการณ์ไกล แต่เขาเก็บออมทุกเดือน
แม้เพียงเล็กน้อย เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าไม่แน่นอน ความคิดนี้คือเกราะป้องกันที่ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นโดยไม่ต้องโอ้อวด

17. รักงาน
เขาไม่พูดว่ารักงาน แต่ทุกวันที่ลงมือทำ เขาใส่ใจรายละเอียดและตั้งใจเต็มที่ ผลงานที่ออกมาคือเครื่องยืนยันว่าเขารักสิ่งที่ทำจริงๆ

18. จริงใจ
เขาไม่เคยบอกใครว่าตัวเองจริงใจ แต่ทุกครั้งที่ได้เจอ 
เขามอบรอยยิ้ม คำพูด และการกระทำที่ออกมาจากหัวใจ 
จนใครๆ ก็สัมผัสได้ทันทีโดยไม่ต้องอธิบาย

แนะนำให้อ่าน
https://s.shopee.co.th/20lJJjMTuF
https://s.lazada.co.th/s.zb6XJ?cc

#อย่าพูดแต่จงเป็น 

รวมคอร์ส AI เรียนฟรีจาก Google , Microsoft , IBM , HarvardX


.
1. Google Prompting Essentials
หลักสูตรการเขียนพรอมต์ขั้นพื้นฐานจาก Google 
O เรียนรู้การเขียนพรอมต์ที่มีประสิทธิภาพใน 5 ขั้นตอน 
O นำเทคนิคการเขียนพรอมต์ไปใช้ในงานประจำวันได้จริง 
O ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างงานนำเสนออย่างรวดเร็ว 
O ออกแบบพรอมต์เพื่อสร้าง AI Agent สำหรับบทสนทนาและรับฟีดแบ็กจากผู้เชี่ยวชาญ 
.
O 4 บทเรียน 
O ใช้เวลาเรียน 6 ชั่วโมง 
O รายละเอียดเพิ่มเติม → https://www.coursera.org/google-specializations/prompting-essentials-gwg
.
2. Google AI Essentials Specialization 
หลักสูตรพื้นฐาน AI จาก Google 
O ใช้เครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาไอเดียและเนื้อหา ตัดสินใจอย่างมีข้อมูล และเร่งความเร็วในงานประจำวัน 
O เขียนพรอมต์ที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ และนำเทคนิคการเขียนพรอมต์ไปใช้ในการสรุปและสร้าง Tag Line 
O ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ โดยระบุอคติที่อาจเกิดขึ้นจาก AI และหลีกเลี่ยงอันตราย 
O พัฒนากลยุทธ์เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ AI ที่เกิดขึ้นใหม่ 
.
O 5 บทเรียน 
O ใช้เวลาเรียน 5 ชั่วโมง 
O รายละเอียดเพิ่มเติม → https://www.coursera.org/specializations/ai-essentials-google
.
3. Microsoft: AI for Workplace Productivity
วิธีใช้ AI แบบ Microsoft เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 
O เรียนรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ AI และการประยุกต์ใช้งานจริงในบริบทธุรกิจ 
O ใช้เครื่องมือ AI ที่เป็นประโยชน์เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจและทำงานซ้ำๆ ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ 
O เข้าใจความสามารถของ Microsoft Power BI และการสร้างรายงานและแดชบอร์ด 
O เรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของ Microsoft Power Platform และการทำงานของเทคโนโลยี 
.
O เรียน 1 สัปดาห์
O ใช้เวลาเรียน 2-3 ชั่วโมง 
O รายละเอียดเพิ่มเติม -> https://www.edx.org/learn/computer-science/microsoft-learning-path-work-smarter-with-ai
.
4. IBM: AI for Everyone: Master the Basics
เรียนรู้ AI ขั้นพื้นฐาน สำหรับทุกคนจาก IBM
O เข้าใจว่า AI คืออะไร การประยุกต์ใช้งาน และกรณีการใช้งาน รวมถึงวิธีที่ AI เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา 
O อธิบายคำศัพท์เช่น Machine Learning, Deep Learning และ Neural Networks 
O อธิบายประเด็นปัญหาและความกังวลด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI 
O ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเรียนรู้และเริ่มต้นอาชีพด้าน AI 
.
O เรียน 4 สัปดาห์ 
O ใช้เวลาเรียน 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 
O รายละเอียดเพิ่มเติม -> https://www.edx.org/learn/artificial-intelligence/ibm-ai-for-everyone-master-the-basics
.
5. HarvardX: Machine Learning and AI with Python 
แมชชีนเลิร์นนิ่งและ AI ด้วย Python จาก HarvardX
O เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลขั้นสูงผ่าน Decision Trees, Random Forests และ Machine Learning Models 
O ฝึกโมเดลเพื่อทำนายวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการปัญหา 
O ตรวจสอบผลลัพธ์ของ Machine Learning รู้จักอคติของข้อมูล และหลีกเลี่ยง Underfitting หรือ Overfitting 
O สร้างพื้นฐานการใช้ Python Libraries ใน Machine Learning และ AI เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ต่อ 
O สร้างพื้นฐานจากประสบการณ์ Python เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพด้าน Data Science ขั้นสูง 
.
O เรียน 6 สัปดาห์
O ใช้เวลาเรียน 4-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 
O รายละเอียดเพิ่มเติม -> https://www.edx.org/learn/machine-learning/harvard-university-machine-learning-and-ai-with-python
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#Business
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน

ผมอยากสนับสนุนให้ทุกคนมี AIที่เป็นติวเตอร์ คุยด้วยทุกวัน


.
Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI ได้ออกมาให้คำแนะนำที่อาจจะเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของคนทั้งโลก นั่นคือการมี AI เป็นครูสอนพิเศษส่วนตัว
.
ตามรายงานจากการสัมภาษณ์ในรายการ "Huge Conversations" ของนักข่าว Cleo Abram, หวงเล่าว่า "ผมมีครูสอนพิเศษ AI อยู่กับผมตลอดเวลา และผมคิดว่าความรู้สึกแบบนี้ควรจะเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน" เขาแนะนำว่าหากมีสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนทำ นั่นคือรีบไปหาครู AI มาเป็นของตัวเองทันที
.
หวงเปิดเผยว่าเขาใช้ Perplexity เป็นเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเรียกว่าเป็น "เครื่องมือที่ช่วยได้จริง" ในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ รวมถึงดิจิทัลไบโอโลยี โดยเขาใช้เครื่องมือนี้ทุกวัน ซึ่งเหมือนกับ AI หลายตัวอื่นๆ ที่มีทั้งแบบฟรีและแบบสมัครสมาชิกรายเดือน
.
นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม AI อื่นๆ ที่ออกแบบมาเป็นครูสอนพิเศษโดยเฉพาะ เช่น Sizzle ซึ่งให้บริการสอนฟรี และ Khanmigo AI tutor ของ Khan Academy ที่เสียค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 132 บาท
.
หวงอธิบายว่า "โปรแกรม AI สามารถสอนสิ่งต่างๆ ให้คุณได้ สอนอะไรก็ได้ที่คุณชอบ ช่วยเขียนโปรแกรม ช่วยเขียน ช่วยวิเคราะห์ ช่วยคิด ช่วยให้เหตุผล สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกมีพลังและผมคิดว่านั่นจะเป็นอนาคตของเรา"
.
แม้ว่าเทคโนโลยี AI จะมาพร้อมกับข้อจำกัด เช่น การทำความผิดพลาดเรื่องข้อเท็จจริงบ่อยครั้ง และผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้เป็นเครื่องมือช่วยงานเท่านั้น ไม่ใช่ให้ทำงานแทนทั้งหมด หวงก็ยังคงมองในแง่บวก เขาใช้ AI ในการร่างงานเขียนฉบับแรกของตัวเอง และเชื่อว่าใน 10 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้คนส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ง่ายและเร็วขึ้นในเกือบทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน
.
"ผมคิดว่าในทศวรรษหน้า ความฉลาด ไม่ใช่ทุกเรื่อง แต่บางเรื่อง จะกลายเป็นระดับเหนือมนุษย์" หวงกล่าว "เราจะกลายเป็นซูเปอร์ฮิวแมน ไม่ใช่เพราะเรามีพลังพิเศษ แต่เพราะเรามี AI ระดับซูเปอร์"
.
แม้จะมีความกังวลจากการสำรวจของ Gallup ในเดือนสิงหาคม 2024 ที่พบว่าอเมริกันประมาณ 75% กังวลว่า AI จะทำให้งานของมนุษย์ลดลง และการศึกษาของ McKinsey ในปี 2023 ชี้ว่า AI อาจจะแทนที่กิจกรรมการทำงานของมนุษย์ได้ประมาณครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 แต่หวงมองต่างออกไป
.
ในฐานะซีอีโอของ Nvidia ที่ทำงานร่วมกับพนักงานฉลาดหลายพันคน หวงเล่าว่า "ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ทำให้ผมคิดว่า 'ผมไม่จำเป็นอีกต่อไป' แต่กลับทำให้ผมรู้สึกมีพลังและมั่นใจที่จะไปสู้กับสิ่งที่ท้าทายและใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ"
.
เขาใช้ตรรกะเดียวกันกับ AI โดยบอกว่า "สมมติว่าตอนนี้ทุกคนถูกล้อมรอบด้วย AI ระดับซูเปอร์ที่เก่งในเรื่องเฉพาะต่างๆ นั่นจะทำให้คุณรู้สึกยังไง มันจะทำให้คุณมีพลัง มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ"
.
นี่คือวิสัยทัศน์ของผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เชื่อว่า AI ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นเครื่องมือที่จะยกระดับความสามารถของมนุษย์ให้สูงขึ้น การมี AI เป็นครูสอนพิเศษส่วนตัวอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้แบบใหม่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน

แนะ ครูรีบต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ และคุรุสภา เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานวิชาชีพครู โดยกำหนดให้ครูผู้สอนทุกคนต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่มีใบอนุญาต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาได้ ข้อมูลล่าสุดจากคุรุสภาพบว่า 
]ขณะนี้มีครูกว่า 25,000 รายทั่วประเทศที่ยังไม่ได้ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และจำเป็นต้องดำเนินการต่ออายุให้ทันในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ที่จะถึงนี้
 
นายคารม กล่าวต่อว่า มาตรการที่ทุกโรงเรียนต้องปฏิบัติตาม ภายใต้การรณรงค์ของคุรุสภา “เปิดเทอมนี้ เด็กทุกคนต้องเรียนกับครูที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ” โดยจะมีการพัฒนาฐานข้อมูลและเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีการอบรมพัฒนาสมรรถนะครูและการใช้มาตรการ 5 ต: ตระหนัก - ตื่นตัว - แจ้งเตือน - ติดตาม - ติดตรา ซึ่งมุ่งเน้นให้นักเรียนได้รับการเรียนการสอนจากครูที่มีคุณภาพและจรรยาบรรณวิชาชีพ รวมถึงการพัฒนาระบบการกำกับดูแลที่ทันสมัยและตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพครูและการศึกษาของชาติ รวมถึงการพัฒนาระบบการกำกับดูแลที่ทันสมัยและตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมในคุณภาพครูและการศึกษาของชาติ

ทั้งนี้ ขอให้สถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดเร่งตรวจสอบรายชื่อครูที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพใกล้หมดอายุ หรือยังไม่ได้ดำเนินการต่ออายุ โดยสามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ครูสามารถปฏิบัติหน้าที่สอนได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่กระทบต่อการเรียนของนักเรียน 
 
“ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในการตรวจสอบสถานะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน รวมทั้งดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
 โดยสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตได้ที่ https://www.ksp.or.th/service/license_search.php
 และดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตผ่านระบบ KSP Self-Service ได้ที่ https://selfservice.ksp.or.th/ksp-esv/index.jbx

นายคารม กล่าว

ลักษณะคน EQ ต่ำ(การควบคุมจัดการอารมณ์ของตัวเอง)



1. ชอบอารมณ์เสียใส่คนอื่น 
ทั้งๆที่คนอื่นพูดดีๆด้วย เหมือนพึ่งทะเลาะกับผัว / กับเมียที่บ้าน 

2. โทษคนอื่นไว้ก่อน 
ตัวเองไม่เคยผิด คนอื่นผิดไว้ก่อน

3. คนที่ไม่รักษาน้ำใจ ความรู้สึกของผู้อื่น 
พูดไม่แคร์คนอื่นว่าคนอื่นจะเสียใจไหม

4. ไม่ชอบใครที่มาขัดใจ 
ใครไม่เห็นด้วยกับตัวเองจะมองว่าผิดหมด

5. โกรธง่าย โมโหง่าย 
แม้กับเรื่องเล็กๆ ก็สามารถโมโหให้เป็นเรื่องใหญ่โตได้

6. พูดเร็ว แต่พูดไม่คิด 
นึกอะไรได้ก็พูดๆ พูดเอาไว้ก่อน

7. เป็นบุคคลที่ชอบพูดมากกว่าฟัง 
และไม่เคยเป็นผู้ฟังที่ดี มักจะชอบพูดแทรก

8. ไม่รู้จักคำว่า ถ้อยทีถ้อยอาศัย 
อะลุ้มอล่วยให้กับอะไรไม่ได้เลย 

9. ไม่เก็บอารมณ์ โมโหอะไร ไม่พอใจอะไร 
แสดงออกมาหมด

10. ไม่ชอบพูดคำว่า ขอโทษ
ไม่ว่าตัวเองจะผิด แต่มักให้คนอื่น ขอโทษก่อนเสมอ

#บทความเพจการเดินทาง

AI รู้แทบทุกเรื่องได้ยังไง?


AI รู้แทบทุกเรื่องได้ยังไง? เปิด 10 เว็บไซต์ที่ถูกใช้เป็นแหล่งข้อมูลมากที่สุด

AI รู้แทบทุกเรื่องได้ยังไง? เปิด 10 เว็บไซต์ที่ถูกใช้เป็นแหล่งข้อมูลมากที่สุด

Semrush เผย 10 เว็บไซต์ที่ AI ใช้เป็นแหล่งข้อมูล นำโดย Reddit, Wikipedia, YouTube และ Google ชี้ AI พึ่งพาข้อมูลและคอนเทนต์จากชาวเน็ต ส่วนใหญ่มาจากความคิดเห็นและข้อมูลรวมถึงเนื้อหาที่สร้างขึ้นใหม่ในโลกออนไลน์

ในยุคที่ AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือค้นหาข้อมูล แต่ทำหน้าที่ “สรุป ตีความ และนำเสนอคำตอบ” แทนเรา การรู้ว่า AI ดึงข้อมูลจากที่ไหนกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแหล่งที่มาของข้อมูลคือหัวใจสำคัญที่กำหนดคุณภาพและมุมมองของคำตอบที่เราจะได้รับ

ล่าสุดข้อมูลจาก Statista ที่อ้างอิงถึง Semrush เปิดเผยถึง 10 เว็บไซต์ที่ AI อ้างอิงมากที่สุด ผ่านการวิเคราะห์การอ้างอิงกว่า 150,000 ครั้งจากคีย์เวิร์ดแบบสุ่ม 5,000 คำ  โดยพบว่า AI ที่เราใช้ทุกวันนี้พึ่งพาข้อมูลและคอนเทนต์จากชาวเน็ตสูงมาก โดยส่วนใหญ่ล้วนเป็นความคิดเห็นและข้อมูลรวมถึงเนื้อหาที่สร้างขึ้นใหม่ในโลกออนไลน์

นำโดย Reddit ที่ก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งข้อมูลอันดับหนึ่ง ครองสัดส่วนสูงถึง 40.1% สูงกว่า Google, YouTube และ Wikipedia หลังจากทำข้อตกลงกับ Google ในปี 2024 มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปิดทางให้โมเดล LLMs เข้าถึงฐานข้อมูลการสนทนาจำนวนมหาศาลของ Reddit ได้โดยตรง ทำให้ AI สามารถเรียนรู้จากบทสนทนาที่มีหลากหลายมุมมอง ลึก และเฉพาะทางมากขึ้น โดยมีรายงานว่าไตรมาสแรกของปี 2025 Reddit มีผู้ใช้งานประจำต่อวันทั่วโลกกว่า 108 ล้านคน ซึ่งข้อมูลที่เกิดขึ้นทุกวันได้ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างคำตอบโดยแชตบอทและเสิร์ชเอนจิน AI

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญกับผู้ใช้ AI ทุกคน

เดิมทีผู้ใช้มักค้นหาข้อมูลจากเสิร์ชเอนจินแล้วเลือกเว็บไซต์ที่ต้องการอ่าน แต่ในยุค AI-first search ทำให้พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของผู้คนเปลี่ยนไป ผู้ใช้อาจไม่ต้องคลิกเข้าเว็บต้นทาง เพราะได้คำตอบจาก AI โดยตรง สามารถเข้าถึงข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรงทั่วโลกในเวลาไม่กี่วินาที 

อย่างไรก็ตาม “คำตอบ” ที่ได้อาจเป็นการสรุปแบบสำเร็จรูปจากข้อมูลหลายแหล่ง ทำให้ความเสี่ยงด้านความถูกต้องและอคติของข้อมูลสูงขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วข้อมูลจากผู้ใช้ในโลกออนไลน์อาจมีข้อมูลผิดพลาดหรือความคิดเห็นส่วนตัวแฝงอยู่ เช่น ข้อมูลบน Reddit เป็นความคิดเห็นจากผู้ใช้ ซึ่งอาจไม่ถูกต้องเสมอไป

ในฐานะผู้ใช้อย่างเราต้องอย่าลืมว่าข้อมูลที่โพสต์สาธารณะอาจกลายเป็นวัตถุดิบให้ AI เรียนรู้และนำไปใช้ โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นการเข้าใจว่า AI ดึงข้อมูลจากไหนช่วยให้ผู้ใช้ประเมินความน่าเชื่อถือและข้อจำกัดของข้อมูลได้ดีกว่าเดิม ให้เราใช้ AI ได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัย และได้ประโยชน์สูงสุด

ที่มาข้อมูล Statista 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -  

https://www.facebook.com/ThairathMoney 

ร่างกายกำลังส่งสัญญาณ… อย่ามองข้ามวิตามินเหล่านี้

ร่างกายกำลังส่งสัญญาณ… อย่ามองข้ามวิตามินเหล่านี้
ที่มา

#tenanatara #พัฒนาตัวเอง #แรงบันดาลใจ #รักตัวเอง #selflove #selfesteem #selfimprovement #mindset #ความสําเร็จ #Success #เติบโต #พลังบวก

ทำไมถึงเลือกความมั่นคงมากกว่าอิสรภาพ


1. เงินเดือนแน่นอน
เพราะความรู้สึกว่ามีรายได้เข้าทุกสิ้นเดือนทำให้ใจนิ่งขึ้น 
เขาจึงยอมรับกติกาเวลาและงานที่ซ้ำเดิม เพื่อแลกกับการนอนหลับสบายตอนสิ้นเดือน แม้ลึกๆ จะอยากลองงานเสริมที่ยังไม่รู้ผลลัพธ์ก็ตาม

2. ภาระครอบครัว
เพราะยังมีบ้านให้ผ่อน มีพ่อแม่ให้ดูแล และมีลูกที่ต้องวางแผนการศึกษา เขาจึงเลือกเส้นทางที่คาดการณ์ได้ก่อน แม้ใจจะอยากเริ่มร้านเล็กๆ ก็ยังขอรอจนฐานะพร้อม เพื่อไม่ให้คนที่รักต้องเสี่ยงไปกับเขา

3. บาดแผลจากอดีต
เพราะเคยลองทำอิสระแล้วเจ๊ง เคยติดหนี้และเคยเสียหน้า 
เขาจึงเลือกกลับสู่ที่ปลอดภัยและค่อยๆ เก็บเงินใหม่ โดยหวังว่าถ้าวันหนึ่งกลับไปลองอีกครั้ง จะมีบทเรียนมากพอให้เดินอย่างมั่นคงกว่าเดิม

4. ความกลัวไม่แน่นอน
เพราะภาพ รายได้เหวี่ยงทำให้หัวใจหวิว เขาจึงเลือกงาน
ที่รู้ตาราง รู้โบนัส และรู้เพดานเติบโต แม้มันอาจไม่หวือหวา 
แต่ความคาดเดาได้ช่วยให้ตื่นเช้ามาทำงานด้วยใจที่ไม่หวาดเสียวเกินไป

5. วัฒนธรรมรอบตัว
เพราะสังคมที่บ้านบอกว่า งานประจำคนรับผิดชอบเขาจึงอยากให้ครอบครัวภูมิใจและสบายใจ แม้เพื่อนบางคนจะไปทางอิสระแล้วสนุกมาก แต่เขาขอสร้างเครดิตที่บ้านก่อน 
แล้วค่อยเปิดฝั่งความฝันทีละช่อง

6. ทุนเริ่มต้นยังน้อย
เพราะเงินเก็บยังไม่มากพอให้ล้มแล้วลุกได้หลายรอบ เขาจึงเลือกสะสมทุนในงานมั่นคงเพื่อซื้อโอกาสในอนาคต แม้อิสระจะเรียกหา แต่เขาอยากมีกันชนที่หนากว่าคำว่ากล้าลุยอย่างเดียว

7. ต้องการโครงสร้าง
เพราะทำงานได้ดีเมื่อมีกรอบ เวลา และกติกาชัดเจน เขาจึงเลือกองค์กรที่มีระบบและทีมสนับสนุน แม้ความอิสระจะให้อิสระคิด แต่การมีเฟรมเวิร์กช่วยให้เขาโฟกัสและส่งมอบงานได้คงเส้นคงวากว่าเดิม

8. คุณค่าเรื่องความมั่นคง
เพราะเติบโตมากับคำสอนว่ามั่นคงคือความรักรูปแบบหนึ่งเขาจึงอยากเป็นเสาหลักให้คนที่บ้าน แม้บางวันจะอิจฉาคนเที่ยววันธรรมดาได้ แต่เขาเลือกเติมความสุขผ่านความอุ่นใจของคนทั้งครอบครัว

9. ความเหนื่อยจากการตัดสินใจ
เพราะการเป็นอิสระต้องคิดทุกอย่างเอง ตั้งราคาทำการตลาด ปิดการขาย เขาจึงเลือกงานที่แบ่งบทบาทชัด ลดภาระสมอง เพื่อเก็บพลังไว้พัฒนาทักษะลึกๆ ที่ตัวเองถนัดแทนการวิ่งทุกเลนพร้อมกัน

10. ชอบเติบโตแบบขั้นบันได
เพราะรู้สึกดีกับการไต่ระดับ ตำแหน่งชัด สวัสดิการเพิ่มโบนัสปลายปี เขาจึงเลือกเส้นทางที่เห็นเส้นกราฟขึ้นแบบนิ่งๆ แม้ช้าแต่มั่นใจได้ว่าจะไปถึง ไม่ใช่พุ่งแรงแล้วตกฮวบจากพายุชั่วคราว

11. เครือข่ายทรัพยากร
เพราะที่ทำงานมีเครื่องมือ ทีมเก่ง เมนเทอร์ และโครงการที่ใหญ่เกินกว่าจะทำคนเดียว เขาจึงเลือกอยู่ในระบบเพื่อเรียนรู้ให้เต็มที่ แล้วค่อยย้ายความรู้ไปต่อยอดในโปรเจกต์ส่วนตัวเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

12. ความชอบชีวิตเป็นแพตเทิร์น
เพราะตารางเช้า เย็นช่วยให้จัดการสุขภาพ ความสัมพันธ์ 
และเวลาครอบครัวได้ดี เขาจึงเลือกงานที่ล็อกเวลา แม้อิสระ
จะให้ยืดหยุ่น แต่สำหรับเขา ความสม่ำเสมอคือสูตรใจที่ทำให้มีแรงไปต่อทุกวัน

13. ภาพลักษณ์และเครดิต
เพราะชื่อเสียงองค์กรและประวัติการทำงานที่แข็งแรงช่วยเปิดประตูหลายบาน เขาจึงเลือกสร้างเรซูเม่ให้แน่นก่อน แล้วค่อยสปริงบอร์ดไปทำสิ่งที่รัก เพื่อให้เวลาออกไปลุย คนเชื่อมือได้ตั้งแต่วันแรก

14. รับมือความเสี่ยงแบบมีแผน
เพราะไม่ได้กลัวเสี่ยง แต่ต้องการเสี่ยงอย่างมีข้อมูล เขาจึงเก็บสถิติ รายได้เสริม ทดสอบตลาดเป็นตอนเย็น จนตัวเลขนิ่งค่อยขยับ แม้อิสระจะชวนกระโดด แต่เขาขอปีนเชือกที่ผูกแน่นอย่างตั้งใจ

15. ความสงบทางใจ
เพราะใจที่ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายพื้นฐานทำให้ยิ้มง่ายและโอบกอดวันธรรมดาได้ดี เขาจึงเลือกมั่นคงเป็นฐาน แล้วค่อยเติมงานเสริมเล็กๆ เพื่อไม่ให้ไฟและฝันดับไปในพายุความจริง
ของชีวิต

16. บริบทเศรษฐกิจ
เพราะช่วงนี้ราคาแพง งานผันผวน และโอกาสบางอุตสาหกรรมยังช้า เขาจึงเลือกจอดเรือที่อ่าวปลอดภัยรอคลื่นลมสงบและสกิลพร้อมกว่าเดิม แล้วค่อยแล่นสู่ทะเลกว้างด้วยแผนที่ที่อ่านทะลุ

17. รู้จักตัวเองว่าชอบลึกไม่ชอบกว้าง
เพราะอยากเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่ได้อยากทำทุกอย่างในครั้งเดียว เขาจึงเลือกอยู่ในบทบาทที่ชัด เพื่อขัดเกลาทักษะ
ให้แหลม ก่อนจะหยิบความชำนาญนั้นไปแลกอิสรภาพที่คุ้มค่าในวันที่สุกงอม

18. มั่นคงวันนี้เพื่ออิสระพรุ่งนี้
เพราะรู้ว่าอิสรภาพแบบยั่งยืนต้องมีฐานการเงินวินัยและเครือข่ายรองรับ เขาจึงเลือกสร้างรากก่อนยอด แม้วันนี้จะดูนิ่ง 
แต่กำลังวางท่อส่งพลังให้ พรุ่งนี้มีทั้งทางเลือก เวลา และหัวใจ
ที่เบาสบาย

แนะนำให้อ่าน
https://s.shopee.co.th/9KXpV9Nzaf
https://s.lazada.co.th/s.BCAE4?cc

#อิสระภาพทางเวลา
#อิสระทางความคิด

ชีวิตไม่เคยปิดประตูใส่คนที่ไม่ยอมแพ้

บางครั้งชีวิตอาจไม่ได้มอบสิ่งที่เราต้องการให้เราทันที
อาจเป็นงานในฝัน ความสัมพันธ์ที่หวัง หรือเป้าหมายที่ตั้งไว้
แต่ก็ใช่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีวันเป็นจริง การไม่ได้ทุกอย่างในตอนนี้
ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีวันได้มันเลย
.
หลายคนรู้สึกท้อเมื่อพยายามแล้วแต่ยังไม่เห็นผลลัพธ์
หลายคนอาจตั้งคำถามว่าความพยายามที่ผ่านมามันสูญเปล่าหรือไม่
แต่แท้จริงแล้ว ทุกความพยายามคือการสะสมพลังให้พร้อม
สำหรับโอกาสที่จะมาถึงในวันข้างหน้า ตราบใดที่เรายังไม่ถอดใจ
เรายังมีโอกาสอยู่เสมอ
.
ชีวิตไม่เคยปิดประตูใส่คนที่ไม่ยอมแพ้
มันอาจแค่กำลังทดสอบความแน่วแน่ของเรา
ว่าเราพร้อมแค่ไหนที่จะเดินต่อแม้ไม่มีแสงสว่างในทันที
หลายครั้ง โอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต จะปรากฏในเวลาที่เราคาดไม่ถึง
และมอบสิ่งที่มากกว่าที่เราคาดหวังไว้
.
หัวใจของความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การเดินถูกทาง
แต่คือการไม่ยอมแพ้แม้วันที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ
ตราบใดที่เรายังเชื่อ ยังลงมือทำ ยังลุกขึ้นใหม่
ชีวิตจะตอบแทนเราด้วยบางสิ่งบางอย่างที่คู่ควรกับเราเสมอ
.
อย่าให้การรอคอยทำให้เราหมดหวัง แต่ให้มันเป็นช่วงเวลาที่จะเติบโต
แข็งแกร่ง และพร้อมยิ่งขึ้น เมื่อโอกาสผ่านเข้ามา 
เราจะคว้าวันได้อย่างมั่นใจ เพราะเราไม่เคยหยุดเชื่อในตัวเอง 
.
จงจำไว้ว่า ชีวิตไม่เคยลืมคนที่ยังสู้ต่อ ขอแค่อย่าถอดใจ
เพราะทันทีที่เรายังยืนหยัดอยู่ โอกาสก็ยังอยู่กับเราด้วยเช่นกัน 
.
.
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER 
#theinsider #inspiration #โอกาส #opportunity

การวางแผนทำธุรกิจ​ให้เป็น​ระบบ

อยากมีระบบเพราะทุกวันนี้ปวดหัว
จัดการลูกน้องไม่ได้ สอนไปก็ไม่ฟัง
จะสร้างระบบแบบไหนมาควบคุม
.
คนส่วนใหญ่มักพูดถึงคำว่าระบบว่า
ถ้ามีแล้วจะช่วยทำให้ชีวิตสบายขึ้น
แต่คนส่วนมากก็ยังไม่เข้าใจจริงๆอยู่ดีว่า
ระบบที่ดีคืออะไร
.
วันนี้มี 10 ตัวอย่างการสร้างระบบ
มาเล่าให้ฟังเป็นความรู้ติดตัว
.
1. #วางระบบโครงสร้างองค์กร
ก่อนเปิดร้านเราชอบคิดว่าจะจ้างพนักงานกี่คน
แต่ความจริงระบบโครงสร้างองค์กร
จะช่วยทำให้เรารู้ว่า งานที่มีทำอะไรบ้าง
และงานเหล่านั้นต้องใช้คนกี่คน
.
พูดง่ายๆก็คือการเอางานขึ้นมานำคน
ไม่ใช่การเอาคนมานำงาน
การทำแบบนี้จะทำให้เราไม่ยึดติดกับ
พนักงานคนใดคนนึง
.
2. #วางระบบว่าใครต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง
หรือที่เรียกว่า Job Description
มีเนื้องานที่ชัดเจนให้กับพนักงานทราบก่อน
หลายคนคิดว่า JD มักเขียนกว้างๆไว้ก่อน
แต่ความจริงมันคือการกำหนดขอบเขตงานว่า
พนักงานในตำแหน่งเริ่มต้น
กับพนักงานในตำแหน่งหัวหน้า
ทำงานแตกต่างกันอย่างไร
.
เพราะเจ้าของร้านบางคนยังมองว่า
ผู้จัดการร้านยังต้องไปช่วยเสิร์ฟ
ทั้งที่จริงงานหลักของเขาคือการบริหาร
เพื่อทำให้ร้านมีกำไรมากขึ้น
.
3. #ระบบการสอบวัดผลการทำงาน
ควรจัดให้มีการสอบทุก 3 เดือน
เพื่อวัดว่าพนักงานคนนี้ทำงานดีหรือไม่
โดยทำข้อสอบทั้งทฤษฎีและปฎิบัติ
.
ซึ่งเราจะทำให้ข้อสอบเกิดขึ้นได้นั้น
เราเองต้องเข้าใจงานทั้งหมดก่อน
.
4. #ระบบการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
จัดให้มีการสอบคัดเลือกทุก 6 เดือน
สำหรับคนที่อยากเติบโตก้าวหน้า
โดยต้องมีเกณฑ์การวัดผลที่ชัดเจน
.
จะไม่ทำให้พนักงานที่ได้ปรับตำแหน่ง
โดนเพื่อนอิจฉา เพราะทุกคนมีสิทธิ์
ได้สอบเท่าเทียมกันทุกคนถ้าผ่านเกณฑ์
เท่ากับว่าคนที่ได้ปรับเลื่อนขั้นต้องเก่งจริง
.
5. #ระบบจัดการวัตถุดิบ
จัดเรียงสินค้าให้เป็นหมวดหมู่
การจัดอุปกรณ์ให้มีมาตรฐาน
มีเครื่องมือทันสมัยเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วย
ให้พนักงานทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
.
6. #ระบบทำต้นทุนคิดสูตรอาหารต่อจาน
เพื่อนำมาตั้งราคาขายไม่ให้ขาดทุน
ต้องรู้ว่าวัตถุดิบที่ซื้อมาตัดแต่งทิ้งเท่าไร
และระบบตรวจสอบตั้งแต่การรับของ
นับของ เช็คของ สั่งของ ตามพาร์สั่งของ
จะช่วยทำให้เราบริหารจัดการดีขึ้น
.
7. #ระบบบัญชีรายรับรายจ่ายต่อวัน
แยกเงินร้านกับเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากกัน
ตรวจสอบยอดขายทุกวัน กันเงินรั่วไหล
ป้องกันการทุจริต ใช้เงินไม่เกินรายได้แต่ละเดือน
.
8. #ระบบตรวจเช็คการขาดลามาสาย
กล้องวงจรปิด บัตรตอกพนักงาน
การสร้างคู่มือวัดผลการเข้างาน
เพื่อนำไปสู่สวัสดิการที่มากขึ้นกว่าเดิม
จะทำให้การขาดลามาสายลดน้อยลง
.
9. #ระบบสร้างมาตรฐานในการทำงาน
การมีกฎระเบียบที่เจ้าของร้านไม่เอาจริง
ก็เหมือนกับกฎที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์
ที่พนักงานพร้อมจะแหกไม่ทำตาม
เพราะคิดว่าเราแค่ขู่ บ่นไปสักพักก็เหนื่อย
เลิกบ่นเพราะคิดว่าพูดไปแล้วก็ไม่ทำตาม
.
เจ้าของร้านต้องเลิกคิดเช่นนี้
แล้วหันไปเคารพกฎที่ตัวเองสร้างขึ้นมา
ด้วยการติดตามผลงานพนักงานทุกคน
.
10. #ระบบคัดคนไม่ดีออกจากร้าน
หากเก็บปลาเน่า หรือคนไม่ดีไว้
มีแต่จะทำให้การเติบโตเป็นไปได้ช้า
ให้ลองคิดว่าการทำธุรกิจคือเน้นที่
คนดีต้องอยู่รอด คัดคนไม่ดีออกไป
หาคนใหม่เข้ามาที่ดีวิสัยทัศน์ดี
สร้างระบบขั้นตอนการทำงานที่ง่ายกว่าเดิม
.
ลองถามตัวเองว่าสาเหตุที่แท้จริง
ที่ธุรกิจไม่ก้าวหน้าเป็นเพราะว่า
เราขาดคนเก่งมาทำงาน หรือแท้จริงแล้ว
เราแค่ยังไม่ได้สร้างระบบให้คนดีอยากทำงานกับเรา
.
หากคุณอยากได้ไฟล์เอกสารคู่มือเหล่านี้
ทางเพจรวบรวมคู่มือบทสรุปที่ดีที่สุด
เอาไว้ภายใต้ชื่อ 20 บทสรุป SOP
ขายดีไม่ต้องเฝ้าร้าน (ไม่ได้ขาย)
.
แต่จะอยู่ในคลาสที่มีชื่อว่า
แสนแตก * พร้อมเนื้อหาบทเรียน
อีก 7 บทสำหรับร้านอาหาร
ที่อยากขายดีมีระบบและ
ไม่อยากเฝ้าร้านอีกต่อไป
.
เราทำเพื่อเจ้าของร้านอาหารที่ต้องการสร้างระบบไม่อยากต้องนั่งเฝ้า ไม่มีเวลาเฝ้าร้านเองสูตรอาหารไม่นิ่ง คิดต้นทุนอาหารไม่เป็น
พนักงานไม่เชื่อฟังคำสั่ง จะเปลี่ยนจากคนที่ไม่มีคู่มือการทำงานมาสร้างให้สำเร็จได้
.
พร้อมตัวอย่างจากร้านหอมมันข้าวมันไก่
ที่ทางเพจได้ทดลองเปิดขายจริง
ทำยอดขายสูงสุดมากกว่า 1,600,000 บาท/เดือน
.
พิมพ์ สนใจ ให้แอดมินดูแลได้เลยครับ
.
#ขายดีไปด้วยกัน
ดีขึ้นวันละ 1%

ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่คนส่วนใหญ่ทำในตอนนี้...คือการมองว่ามันคือสงคราม "คุณ VS. AI"

ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่คนส่วนใหญ่ทำในตอนนี้...คือการมองว่ามันคือสงคราม "คุณ VS. AI"

...ผิดถนัด!
นี่ไม่ใช่สงคราม...แต่มันคือการ "ติดเทอร์โบ" ให้กับสมองของคุณต่างหาก! กรอบความคิดที่ถูกต้องคือ "คุณ ยกกำลัง AI" (You^AI)... และนี่คือ 5 บทเรียนสำคัญที่จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะในสนามรบนี้

ผมจะสรุปบทเรียน 5 ข้อที่จะเปลี่ยนเกมของคุณไปตลอดกาล:

บทเรียนที่ 1: เปลี่ยนกรอบความคิดเป็น "คุณ ยกกำลัง AI"
AI ไม่ได้จะมาแย่งงานที่คุณทำอยู่... แต่จะมาปลดล็อกให้คุณทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน คุณไม่ได้มีคุณค่าน้อยลงเพราะใช้เครื่องคิดเลขแทนการหารยาวด้วยมือใช่ไหมครับ? AI ก็เช่นกัน...มันคือเครื่องมือที่มา "คูณ" ความสามารถของคุณ

บทเรียนที่ 2: ใช้ AI ทุกวัน (ไม่มีข้อยกเว้น!)
นี่คือกฎเหล็ก: ทุกวัน...คุณต้องเปิด ChatGPT (หรือ AI ตัวอื่น) ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ทุกครั้งที่คุณกำลังจะลงมือทำอะไร...ให้ลองโยนโจทย์นั้นให้ AI ทำก่อน เหมือนคุณมี "เด็กฝึกงานที่จบปริญญาเอกทุกสาขา" อยู่ข้างตัว การทำแบบนี้ทุกวันจะสร้าง "สัญชาตญาณ" ให้คุณรู้ว่า AI ทำอะไรได้และไม่ได้

บทเรียนที่ 3: มอบ "ซูเปอร์พาวเวอร์" ให้ AI ด้วยข้อมูลของคุณ
คนส่วนใหญ่ใช้ AI เหมือน Google ที่ฉลาดขึ้น... แต่พลังที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อคุณ "ป้อนข้อมูล" ส่วนตัวหรือธุรกิจของคุณให้มัน ด้วยเทคนิคอย่าง RAG มันเหมือนกับการที่คุณจ้างเด็กฝึกงานอัจฉริยะมา...แล้วยื่นเอกสาร 5หน้าที่สำคัญที่สุดให้เขาอ่านก่อนเริ่มงาน ผลลัพธ์ที่ได้จะเฉียบคมและแตกต่างจากการถามคำถามทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

บทเรียนที่ 4: เลิกคิดว่าเป็น "เครื่องมือ" ให้คิดว่าเป็น "เพื่อนร่วมทีม"
ตอนนี้เราใช้ AI เป็น "เครื่องมือ"... แต่อนาคตคือการมองมันเป็น "เพื่อนร่วมทีม" ในอนาคตทุกบริษัทจะมีทีมงานแบบ Hybrid ที่ประกอบด้วยมนุษย์และ AI Agent แต่เราจะคาดหวังให้มันทำงานได้ดีได้อย่างไร ถ้าเราไม่เคย "Onboard", "สอนงาน", หรือ "ให้ฟีดแบค" มันเลย?

บทเรียนที่ 5: หา "ช่องว่าง" ที่ AI "เกือบจะ" ทำได้ในวันนี้
นี่คือกลยุทธ์สำหรับผู้สร้าง: จงหาว่าวันนี้ AI "เกือบจะ" ทำอะไรได้แล้ว...แต่ยังทำได้ไม่ดีพอ
ถ้าวันนี้ AI "พอจะ" ทำอะไรบางอย่างได้แบบกระท่อนกระแท่น... จงเดิมพันกับสิ่งนั้นเลย! เพราะกราฟการพัฒนาของมันสูงชันมาก อีก 6-12 เดือนข้างหน้า...มันจะทำสิ่งนั้นได้อย่างน่าทึ่ง หน้าที่ของคุณคือสร้างแบรนด์, สร้างฐานลูกค้า, และอยู่รอดให้ได้นานพอที่จะ "โต้คลื่น" การพัฒนาของ AI ลูกนั้นให้ทัน

หัวใจสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่... การปฏิวัติ AI ครั้งนี้เป็นเรื่อง "ส่วนบุคคล"

คนที่เปลี่ยนกรอบความคิดเป็น "คุณ ยกกำลัง AI", ใช้มันทุกวัน, ป้อนข้อมูลให้มัน, ปฏิบัติกับมันเหมือนเพื่อนร่วมทีม, และวางตำแหน่งตัวเองให้ถูกที่...คือคนที่จะมีความได้เปรียบแบบทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆ

คำถามไม่ใช่ว่า AI จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของเราหรือไม่...คำถามคือ "คุณจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง...หรือเป็นแค่ผู้ตาม?" คุณเริ่มใช้ AI ทุกวันแล้วหรือยัง? มาแชร์กันครับ!

#MewSocial #AI #Productivity #FutureOfWork #ChatGPT #Mindset

20​สูตร​ลับ ใช้Chat​ GPT. แบบมืออาชีพ​



1. สูตรตั้งชื่อดีไซน์ดูดลูกค้า – GPT ช่วยคิดชื่อและคีย์เวิร์ด SEO สำหรับลายเสื้อ → เอาไปทำ Title และ Mockup ใน Canva
 2. สูตรออกแบบลายเสื้อพร้อมขาย – GPT คิดไอเดีย + คำบนเสื้อ / Canva ออกแบบลายขนาด 4500×5400 px → อัปโหลดขายบน Amazon Merch

3. สูตร Planner & Template – GPT คิดโครงแพลนเนอร์ / Canva ออกแบบ → ขายบน Etsy, Creative Market
 4. สูตร Wallpaper ดูดทรัพย์ – GPT คิดธีม + คำ Quote / Canva ทำดีไซน์ → ขาย Apple Watch, Desktop, Mobile

5. สูตรเทมเพลตโซเชียล – GPT คิดหมวด + ข้อความ / Canva ออกแบบ Social Media Template
 6. สูตร Preset + คู่มือแต่งรูป – GPT เขียนคู่มือสั้น / Canva ทำ PDF อธิบาย Preset Lightroom

7. สูตร Audio Affirmation – GPT เขียนสคริปต์ / Canva ทำปกไฟล์เสียง → ขายบน Etsy หรือ Gumroad
 8. สูตร Mindmap ความรู้ – GPT สรุปเนื้อหา / Canva ทำ Mindmap → ขายเป็นไฟล์ PDF

9. สูตร Resume Template – GPT เขียนตัวอย่างเนื้อหา / Canva ออกแบบ CV Template
 10. สูตร Cheat Sheet – GPT สรุปขั้นตอน / Canva ออกแบบ Quick Guide → ขายสายธุรกิจหรือสายเรียน

11. สูตร Digital Scrapbook Kit – GPT คิดธีม / Canva ออกแบบองค์ประกอบ Scrapbook → ขายเป็น Bundle
 12. สูตรคู่มือเริ่ม Etsy – GPT เขียนเนื้อหา / Canva ทำ Workbook หรือ Guide → ขายพร้อมสร้างอีเมลลิสต์

13. สูตรสื่อสอนเด็ก – GPT สร้างเนื้อหาเรียนรู้ / Canva ออกแบบ Worksheet → ขายบน TeachersPayTeachers

14. สูตร Quote Poster ทำกำลังใจ – GPT สร้างชุดคำคมสร้างแรงบันดาลใจ / Canva ออกแบบโปสเตอร์แนว Minimal → ขายบน Etsy, Redbubble

15. สูตร Digital Journal – GPT คิดหัวข้อเขียนบันทึก + คำถามสะท้อนความคิด / Canva ออกแบบหน้า Journal → ขายเป็นไฟล์ Printable
 16. สูตร Recipe Card สายกิน – GPT เขียนสูตรอาหารแบบสั้น / Canva ออกแบบการ์ดสวย ๆ → ขายเป็น Pack บน Etsy
17. สูตร Business Toolkit – GPT ทำ Checklist + Template เอกสารธุรกิจ / Canva ออกแบบให้ดูโปร → ขายให้สาย Startup หรือ SME
 18. สูตร Vision Board Kit – GPT ช่วยสร้างธีม + คำอธิบายเป้าหมาย / Canva ออกแบบบอร์ดและองค์ประกอบ → ขายเป็น Printable Set

19. สูตร Social Challenge Pack – GPT คิดกิจกรรมชาเลนจ์ 7–30 วัน / Canva ทำตารางและคู่มือ → ขายสาย Healthy, Self-Improvement
 20. สูตร Coloring Pages – GPT สร้างคำอธิบายภาพ / Canva ใช้ภาพวาดเส้นพร้อมจัดหน้า → ขายชุดระบายสีสำหรับเด็กและผู้ใหญ่



วิธีแก้ปัญหายาก…ให้ง่าย18 วิธีการ

วิธีแก้ปัญหายาก…ให้ง่าย
18 วิธีที่จะทำให้เรื่องซับซ้อน กลายเป็นเรื่องที่คุณจัดการได้
.
.
1. มองภาพรวมก่อนลงลึกในรายละเอียด
.
2. ตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวออกไปก่อน
.
3. ถามตัวเองว่าปัญหานี้…ต้องแก้วันนี้จริงๆ หรือไม่
.
4. เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดก่อนเสมอ โฟกัสไปที่ขั้นแรก
.
5. หาคนที่เคยผ่านปัญหาแบบนี้แล้วคุยด้วย
.
6. แยกปัญหาเป็นส่วนย่อย แล้วแก้ทีละส่วน
.
7. เลิกมองว่าต้องแก้ให้ “สมบูรณ์แบบ”
.
8. ใช้คำถามง่ายๆ เช่น “อะไรสำคัญที่สุดตอนนี้”
.
9. หยุดคิดสักพักเพื่อให้สมองได้รีเซ็ต
.
10. หาวิธีแก้ที่ใช้พลังงานน้อยที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุด
.
11. อย่าเอาความรู้สึกมาผสมกับข้อเท็จจริงมากเกินไป
.
12. ลองทำสิ่งตรงข้ามกับวิธีที่เคยทำแล้วไม่เวิร์ก
.
13. เปลี่ยนสถานที่หรือบรรยากาศตอนคิดแก้ปัญหา
.
14. มองหาสัญญาณเล็กๆ ว่าอะไรเริ่มขยับแล้ว
.
15. ยอมให้บางอย่างคลี่คลายเองตามเวลา
.
16. ใช้มุมมองของคนนอกที่ไม่มีอารมณ์ร่วม
.
17. ตั้งเส้น หรือ deadline ให้ตัวเองหยุดแก้ ถ้าเกินนั้นให้พักก่อน
.
18. จำไว้ว่า “ง่าย” คือการตัดสิ่งเกินออก ไม่ใช่เพิ่มสิ่งใหม่เข้าไป
.
.

73 คำสั่ง​ ใช้Chat GPT-5.​ ในทุกอาชีพ​

🧠 หมวด 1: วางแผน & คิดกลยุทธ์ธุรกิจ
 1. วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง (SWOT) ของ [ธุรกิจ/อาชีพ]
 2. เขียนแผนธุรกิจ 1 ปี สำหรับ [สินค้า/บริการ] พร้อมแผนการตลาดออนไลน์
 3. สร้าง Business Model Canvas สำหรับ [ไอเดียธุรกิจ]
 4. ช่วยออกไอเดียสินค้า/บริการที่ขายได้ใน [ตลาด/ประเทศ]
 5. วิเคราะห์คู่แข่ง [ชื่อธุรกิจ] จุดเด่น-จุดด้อย และโอกาสแซง
 6. เขียนแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ ให้ดังใน 30 วัน
 7. ทำตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง [สินค้า A] กับ [สินค้า B]
 8. ช่วยสร้างข้อเสนอ Unique Selling Point (USP) สำหรับ [ธุรกิจ]
 9. ออกแบบแพ็กเกจราคา (Pricing Strategy) ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า
 10. วิเคราะห์แนวโน้มตลาดในปี [พ.ศ./ค.ศ.] ของ [สินค้า/บริการ]

📢 หมวด 2: การตลาด & โซเชียลมีเดีย
 11. ช่วยคิด 30 พาดหัวโฆษณา Facebook ให้ปัง สำหรับ [สินค้า/บริการ]
 12. เขียนสคริปต์ TikTok ความยาว 30 วิ สำหรับขาย [สินค้า]
 13. สร้างปฏิทินคอนเทนต์ 30 วัน สำหรับเพจ [ชื่อเพจ]
 14. เขียนแคปชันขายของสไตล์ Storytelling
 15. ทำโพสต์รีวิวสินค้าให้น่าเชื่อถือ
 16. เขียนสคริปต์ Live สดขายของ ให้จบการขายได้ใน 10 นาที
 17. ช่วยคิด 50 แฮชแท็กที่เหมาะกับ [สินค้า/บริการ]
 18. เขียนโฆษณา Google Ads ให้ CTR สูง สำหรับ [สินค้า/บริการ]
 19. ทำสคริปต์วิดีโอ YouTube ความยาว 10 นาทีเกี่ยวกับ [หัวข้อ]
 20. ช่วยออกไอเดีย Viral Content ที่แชร์เยอะสำหรับ [กลุ่มเป้าหมาย]

✍️ หมวด 3: งานเขียน & สร้างเนื้อหา
 21. เขียนบทความ SEO ความยาว 1,500 คำ เรื่อง [หัวข้อ]
 22. ทำโครงร่างเนื้อหาหนังสือ E-book ชื่อ [ชื่อหนังสือ]
 23. ช่วยเขียนบทพูด (Script) สำหรับพอดแคสต์ตอน [หัวข้อ]
 24. สรุปบทความยาว 5,000 คำ ให้เหลือใจความสำคัญ 500 คำ
 25. เขียนอีเมลขายของให้ปิดการขายได้
 26. ช่วยเขียนเนื้อหา Landing Page สำหรับ [สินค้า/บริการ]
 27. ปรับข้อความให้เป็นสำนวนทางการ สำหรับเอกสารราชการ
 28. เขียนเนื้อหาแบบโน้มน้าวใจสำหรับโฆษณา
 29. เขียนโพสต์แรงบันดาลใจให้คนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ
 30. แปลงข้อความยาวให้เป็น Bullet Point อ่านง่าย

🎓 หมวด 4: การสอน & การศึกษา
 31. ออกแบบแผนการสอนวิชา [ชื่อวิชา] สำหรับนักเรียน [ระดับชั้น]
 32. สร้างข้อสอบ 20 ข้อ พร้อมเฉลย เรื่อง [หัวข้อ]
 33. อธิบายหัวข้อ [เนื้อหา] ให้เข้าใจง่ายเหมือนสอนเด็กมัธยม
 34. สรุปเนื้อหาหนังสือ [ชื่อหนังสือ] ให้เข้าใจใน 5 นาที
 35. ทำ Mindmap เรื่อง [หัวข้อ]
 36. ช่วยสร้างใบงาน/แบบฝึกหัด เรื่อง [หัวข้อ]
 37. ยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาที่ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์
 38. อธิบายความแตกต่างระหว่าง [คำศัพท์/ทฤษฎี] ด้วยตาราง
 39. ออกแบบคอร์สเรียนออนไลน์ [หัวข้อ] ความยาว 4 สัปดาห์
 40. ช่วยคิดกิจกรรมในห้องเรียนที่ใช้สื่อดิจิทัล

📊 หมวด 5: งานวิจัย & วิเคราะห์ข้อมูล
 41. ช่วยตั้งโจทย์วิจัยเรื่อง [หัวข้อ] ให้เหมาะสมกับการตีพิมพ์ Scopus Q1
 42. สรุปวรรณกรรมปัจจุบันเกี่ยวกับ [หัวข้อ]
 43. ช่วยสร้างแบบสอบถามสำหรับเก็บข้อมูล [หัวข้อ]
 44. อธิบายขั้นตอนการทำ Structural Equation Modeling (SEM)
 45. วิเคราะห์ข้อมูลสถิติจากชุดข้อมูล CSV
 46. ทำตารางเปรียบเทียบงานวิจัย [หัวข้อ]
 47. เขียนบทคัดย่อ (Abstract) ภาษาอังกฤษสำหรับงานวิจัย
 48. ช่วยตีความค่า R และ R² ในการวิเคราะห์ถดถอย
 49. แปลงบทความวิชาการให้เป็นภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจ
 50. ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของสมมติฐานทางสถิติ

💻 หมวด 6: โปรแกรมเมอร์ & AI
 51. เขียนโค้ด Python สำหรับ [งาน/โจทย์]
 52. แปลงโค้ดจาก Python เป็น JavaScript
 53. ช่วยดีบักโค้ดที่มีปัญหา
 54. อธิบายการทำงานของโค้ด [โค้ดที่ให้มา]
 55. เขียน Prompt ให้ Stable Diffusion วาดภาพ [คำอธิบาย]
 56. สร้าง Workflow อัตโนมัติด้วย [แพลตฟอร์ม เช่น Zapier, Make]
 57. ออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูลสำหรับ [ระบบ]
 58. สร้าง AI Chatbot สำหรับ [ธุรกิจ]
 59. ช่วยเขียน Regular Expression สำหรับ [เงื่อนไข]
 60. สร้างสคริปต์ดึงข้อมูลจาก API [ชื่อ API]

🛠 หมวด 7: งานเอกสาร & การจัดการ
 61. สร้าง Template เอกสาร [ประเภทเอกสาร]
 62. ช่วยเขียน SOP (Standard Operating Procedure) สำหรับ [งาน]
 63. ทำเช็กลิสต์ตรวจสอบงาน [ประเภทงาน]
 64. แปลงข้อมูลจากไฟล์ Excel ให้เป็นสรุปภาพรวม
 65. ช่วยจัดทำรายงานประชุมให้สั้นและชัดเจน
 66. เขียนจดหมายสมัครงานให้ดูมืออาชีพ
 67. ปรับเรซูเม่ให้เหมาะกับตำแหน่ง [ตำแหน่งงาน]
 68. ช่วยสร้างตารางติดตามโครงการ
 69. เขียนบันทึกช่วยจำ (Memo) เรื่อง [หัวข้อ]
 70. จัดทำโครงร่างโครงการพร้อมงบประมาณ


🚀 หมวด 8: พัฒนาตัวเอง & Mindset
 71. ช่วยทำตารางพัฒนาทักษะ [ทักษะ] ใน 30 วัน
 72. ให้คำแนะนำการจัดการเวลาแบบนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
 73. เขียนแผนชีวิต 1 ปี ที่เน้นทั้งงาน รายได้ และสุขภาพ


อายุยืน 101 เพราะมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ทุกวันและลดพลังลบในตัว


.
คิดว่าอะไร ถึงทำให้คนเราอายุยืน และมีความสุขในชีวิต?
Babette Hughes เป็นนักเขียน ที่มีอายุถึง 101 ปี ได้มาเล่าถึงความลับของการมีชีวิตที่ยาวนานและมีความสุข
.
ถึงแม้เธอจะเกิดในปี 1922 ที่เป็นยุคห้ามจำหน่ายเหล้า แต่พ่อของเธอเป็นผู้ลักลอบขายเหล้าเถื่อนและถูกฆ่าตายในสงครามแย่งชิงอาณาเขตกับมาเฟีย ตอนที่เธออายุเพียง 2 ขวบ 
.
แม้จะผ่านชีวิตที่ยากลำบาก และไม่ได้ราบรื่น เธอยังคงเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ โดยตีพิมพ์หนังสือเล่มที่ 9 ของเธอเมื่อต้นปีนี้ที่อายุ 101 ปี ซึ่งบทเรียนชีวิต 8 ข้อที่ช่วยให้เธอมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ คือ
.
1. อย่าเชื่อว่าคุณ "หมดประโยชน์" แล้ว
มีแนวคิดผิดๆ ในวัฒนธรรมของเรา ว่าชีวิตจบลงเมื่อคุณอายุถึงจุดหนึ่ง
.
Babette เชื่อว่ามีความเข้าใจผิดในสังคมเราที่คิดว่าชีวิตจบลงเมื่ออายุถึงจุดหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว "ปีทองของคุณ อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต" 
.
เธอเล่าว่าผู้คนยอมแพ้กับชีวิตเร็วเกินไป เมื่อจิตใจของเราจดจ่อกับสิ่งที่วัฒนธรรมสอนเรา - ว่าเรา 'หมดประโยชน์' เมื่ออายุเลยจุดหนึ่งไปแล้ว - มันจะฝังลึกเข้าไปในความรู้สึกของตัวเอง หากความรู้สึกของเราคือการอยู่คนเดียว เศร้า และไร้ประโยชน์เมื่อเราอายุ 70, 80, 90 ปี เราก็จะเชื่อเช่นนั้น 
.
แทนที่จะยอมจำนนกับความคิดเหล่านี้ Babette แนะนำให้คุณท้าทายมัน และมองหาคุณค่าและความหมายในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะอายุเท่าไร
.
2. พูดคุยกับเพื่อนทุกช่วงวัย
เพื่อนๆ เป็นแหล่งปัญญา พลังงาน และความจริงแท้ที่ยอดเยี่ยม
.
Babette มีเพื่อนที่อายุน้อยกว่าเธอสองถึงสามรุ่น เธอได้เรียนรู้จากพวกเขา และเชื่อว่าพวกเขาก็ได้เรียนรู้จากเธอเช่นกัน "แต่ละทศวรรษสอนอะไรเราบางอย่างที่แตกต่างกัน" 
.
เธอกล่าวว่า "มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเป็นคนอายุ 30 หรือ 40 กับการเป็นคนอายุ 90 หรือ 100 ปี แต่กระนั้น เมื่อเรามารวมตัวกัน มันก็ยอดเยี่ยมได้ เพราะเราทุกคนมีสิ่งมากมายที่จะสอนซึ่งกันและกัน มันให้มุมมองใหม่ในการคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ" 
.
มิตรภาพข้ามรุ่นไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าใจมุมมองที่แตกต่าง แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับโลกที่กว้างขึ้นและความคิดใหม่ๆ "เมื่อฉันได้พบกับเพื่อนๆ เราส่วนใหญ่จะพูดคุยกัน การพูดคุยเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเมื่อมันดี"
.
3. ปล่อยให้เรื่องเล็กๆ ทำให้วันของคุณมีความสุข
ไม่ใช่ยอดเขาที่ทำให้เรามีความสุข แต่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ
.
Babette ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมของเรามักบอกว่าความสำเร็จคือสิ่งใหญ่โต เป็นความพยายามอย่างมาก เกี่ยวกับผลตอบแทนมหาศาล "แต่มันไม่ได้ผล ฉันไม่แน่ใจว่ายอดเขามีอยู่จริงหรือไม่ แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ มีอยู่จริง และพวกมันยอดเยี่ยมมาก" 
.
เราต้องเข้าใจตัวเองเพื่อที่จะเป็นตัวของตัวเองและค้นพบสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้เรามีความสุข สำหรับเธอ หนึ่งในนั้นคือการอ่าน อีกอย่างคือการอยู่กับคนที่เธอห่วงใยอย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจเป็นครอบครัวหรือเพื่อน "มันเป็นเรื่องของการโทรศัพท์ การเยี่ยมเยียน ความคิด ความกังวลที่แบ่งปัน" 
.
ความสุขแท้จริงมักจะพบในช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เป้าหมายใหญ่หรือความสำเร็จที่น่าตื่นเต้น
.
4. มีความกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
ความกล้าหาญคือพื้นฐานสำคัญ ของการรู้จักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง
.
"ความกล้าหาญเป็นพื้นฐานสำหรับฉัน ต้องใช้ความกล้าที่จะมองตัวเองอย่างชัดเจน รู้จักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง" Babette บอก
.
แต่มันให้พลังงาน ความมั่นใจ และความเข้าใจทั้งตัวเองและผู้อื่น ในระยะยาว เธอเชื่อว่าการเป็นตัวของตัวเอง - เช่น การไม่เห็นด้วยกับใครบางคน - ทำให้แม้แต่ความสัมพันธ์ที่ยากลำบากแข็งแกร่งขึ้น 
.
การเป็นตัวของตัวเองไม่ได้มาง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง แต่มันคุ้มค่า เพราะทำให้คุณเป็นคนที่จริงแท้และมีความสุขมากขึ้น
.
5. ทำสิ่งที่คุณรัก 
เมื่อฉันเขียนหนังสือ ฉันรู้สึกแตกต่าง
รู้สึกดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมั่นใจมากขึ้น
.
Babette เล่าว่า "เมื่อฉันเขียน ฉันรู้สึกแตกต่าง ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ฉันรู้สึกมั่นคงมากขึ้น ฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้น" นักเขียนคนอื่นๆ ที่เธอรู้จักบอกว่าพวกเขารู้สึกเช่นเดียวกัน "มีบางอย่างที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ แน่นอน มันไม่ใช่เวทมนตร์ มันเป็นการแสดงออกของจิตวิญญาณมนุษย์" 
.
ความสุขที่คุณได้รับจากการทำสิ่งสร้างสรรค์ที่คุณรักเชื่อมโยงกับส่วนของตัวตนที่ไม่ได้พร้อมใช้งานหรือรู้สึกตัวเสมอไป 
.
"มันย้อนกลับไปที่การรู้จักตัวเองและเป็นตัวของตัวเอง วิธีที่ฉันเข้าถึงสิ่งนั้นคือการเขียน สำหรับคนอื่นอาจเป็นการวาดภาพหรือเต้นรำ บางครั้งฉันจะกลับมาและเห็นบางสิ่งที่ฉันเขียนและคิดว่า 'นั่นดีนะ' นั่นหมายความว่ามันเปิดจิตใต้สำนึกของฉัน นั่นคือที่ที่เพชรพลอยอยู่"
.
6. ขยับร่างกาย พักจิตใจ
การออกกำลังกายไม่ใช่แค่ความคิดที่ดี มันจำเป็นสำหรับการมีชีวิตที่ยืนยาว
.
เป็นเวลาประมาณเจ็ดปีที่ Babette ได้ออกกำลังกายกับเทรนเนอร์สัปดาห์ละสองครั้ง สำหรับคนอายุ 101 ปี เธอแข็งแรงมาก เธอสามารถยกน้ำหนัก 10 ปอนด์และลุกออกจากเก้าอี้ขณะถือน้ำหนัก "ฉันภูมิใจในสิ่งนั้นมาก" 
.
เมื่อเธอเป็นโรคปอดบวมและอยู่ในโรงพยาบาล มีคนบอกเธอว่าการออกกำลังกายของเธอน่าจะช่วยชีวิตเธอไว้ "ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ความคิดที่ดี - มันจำเป็น" 
.
ในขณะเดียวกัน คุณต้องพักผ่อนให้มาก "สมองต้องการการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู" การดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีชีวิตที่สมดุลและมีสุขภาพดี
.
7. อย่าติดอยู่กับความคิดด้านลบ
ความคิดเชิงลบเป็นเรื่องปกติ และมันเป็นตัวทำลายชีวิต
.
"ทำไมบางคนรู้สึกมองโลกในแง่ดีและบางคน ไม่ว่าจะพูดอะไร ก็ออกมาในแง่ลบ? มันเป็นวิธีที่เราเกิดมา ฉันเชื่ออย่างนั้น เรามาเกิดในโลกเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือคนมองโลกในแง่ร้าย บางคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในชีวิตของพวกเขา หากคนมองโลกในแง่ร้ายจะถามว่า 'ทำไมต้องเป็นฉัน?' ฉันจะพูดว่า 'ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?'" 
.
"มันยากมากที่จะเอาชนะความคิดเชิงลบ แต่เท่าที่เราทำได้ เราต้องยอมรับสิ่งดีๆ และพยายามก้าวไปข้างหน้าด้วยการมองโลกในแง่ดี" กลยุทธ์หนึ่งคือการจดจ่อกับสิ่งดีๆ ในชีวิตคุณ แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และฝึกฝนการมองหาโอกาสแทนที่จะมองหาเหตุผลที่จะยอมแพ้
.
8. ทำสิ่งที่คุณรู้ว่าคุณต้องทำ
ไม่มีความลับในการมีอายุยืน มีแต่ช่องว่างระหว่างสิ่งที่เรารู้และสิ่งที่เราทำ
.
"เมื่อฉันอายุมากขึ้น ฉันมักถูกถามว่า 'อะไรคือความลับของคุณ?' ฉันไม่มีความลับ" 
"การมีอายุยืนเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าจริง เราทุกคนรู้ เช่น การออกกำลังกาย อาหารที่ดี ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับคู่ครอง ความเข้าใจในตัวเอง อาชีพที่ดีสำหรับคุณ - เหล่านี้คือกุญแจสู่ชีวิตที่มีความสุข" 
.
"แต่มีช่องว่างระหว่างสิ่งที่เรารู้และสิ่งที่เราทำ ปัญหาสำหรับคนมากมายคือการลงมือทำ และนั่นเป็นเรื่องลึกลับเกินกว่าที่ฉันจะอธิบายได้"
.
บทเรียนจาก Babette Hughes แสดงให้เห็นว่าการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกสิ่งที่เราทำทุกวัน การเป็นตัวของตัวเอง การทำในสิ่งที่เรารัก และการมองโลกในแง่ดีเพียงเท่านี้เอง
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
 ——— 
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน 
อ้างอิง
https://bit .ly/4lfL3HQ

สวนเกษตร “โคก–หนอง–นา โมเดล” เกษตรผสมผสาน–พอเพียง “กิน–เหลือ–ขาย”

📗 สวนเกษตร “โคก–หนอง–นา โมเดล” เกษตรผสมผสาน–พอเพียง “กิน–เหลือ–ขาย” ไอเดียการผสมผสานทรัพยากรให้คุ้มค่า มีที่ดอน (โคก) มีแหล่งน้...