วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568

รวมเทคนิค “Marketing Campaign” ร้านอาหารใช้ได้ผล!


.
ในยุคที่การแข่งขันทางการค้ารุนแรง การใช้ “โปรโมชัน” กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจแทบทุกประเภท มีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้มากที่สุด ยิ่งถ้าไปดูผลสำรวจจะทำให้เห็นว่า “โปรโมชัน” สำคัญแค่ไหน
.
✅ 87% ของผู้บริโภคชาวไทยระบุว่า “โปรโมชัน” มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ
✅ 60% ยอมเปลี่ยนแบรนด์ที่เคยซื้อ หากแบรนด์อื่นมีโปรโมชันน่าสนใจกว่า
✅ 50% สร้างการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น (Brand Awareness)
✅ 30% คือยอดลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลังที่ธุรกิจมีการใช้ Marketing Campaign
.
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เมื่อมีแคมเปญเข้ามากระตุ้นจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลได้ 10-15% และเพิ่มโอกาส 15–25% ในการดึงลูกค้าใหม่ให้กลับมาซื้อ (Repeat Rate) หลังจากจบแคมเปญ
.
อย่างไรก็ดีการใช้ Marketing Campaign ก็ไม่ต่างจากดาบสองคมถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้องแทนจะได้ผลดีอาจกลายเป็นผลเสีย เช่นลูกค้าไม่ซื้อสินค้าในช่วงเวลาปกติจะรอซื้อแค่ตอนจัดแคมเปญ หรือแคมเปญที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคก็ไม่อาจเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้เช่นกัน
.
โดยเฉพาะกับร้านอาหารที่แต่เดิมก็มี “ต้นทุน” ที่สูงจากค่าวัตถุดิบ + บริหารจัดการ ถ้าจะทำแคมเปญเพิ่มด้วยก็ต้องคิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนว่าจะกระตุ้นยอดขายได้จริงไม่ใช่ไปเพิ่มภาระให้ตัวเอง แทนที่จะได้กำไรเพิ่มอาจกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มโดยไม่จำเป็น หรือควรเลือกแคมเปญที่เหมาะสมซึ่งมีหลายแบบเช่น
.
✅ แคมเปญสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness Campaign) เน้นไปที่การสร้างการรับรู้และรู้จักแบรนด์มากขึ้น
✅ แคมเปญสะสมคะแนน (Loyalty Program) สำหรับเน้นกระตุ้นยอดขายในทันที
✅ แคมเปญส่งเสริมการขาย (Promotion Campaign) เพิ่มโอกาสในการตัดสินใจของลูกค้าในช่วงเวลานั้นได้ทันที
✅ แคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (Product Launch Campaign) การสร้างโอกาสเพิ่มการขายได้ในระยะยาว
✅ แคมเปญสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Campaign) เน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเพื่อรักษาฐานลูกค้าให้เหนียวแน่น
.
ในแวดวงธุรกิจปัจจุบันนี้ก็จะมีการเลือกใช้แคมเปญเหล่านี้แตกต่างกันไปยกตัวอย่างที่เห็นภาพง่ายสุดคือการที่โลตัส เปิดแคมเปญ HAPPY MALL STAMP สะสมแสตมป์ล่าไอเท็ม “ความสุขจากทุกใบเสร็จ สะสมง่าย แลกได้จริง ไม่ต้องลุ้น” ที่รวมรางวัลตั้งแต่ iPhone 16 Pro Max ยันตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง 
.
หรือการที่ ลัคกี้ สุกี้ ใช้เวลาแค่ 3 ปี ก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท ผ่านการใช้ THEMATIC Campaign" รักเธอไม่มีหมด" รวมไปถึงศึกเดือดในแวดวงสุกี้ที่ต่อสู้กันด้วยแคมเปญเด็ดๆ ซึ่งก็มีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดให้กับแบรนด์ได้มากที่สุด
.
แต่ถ้าจะให้แยกย่อยและเลือกรูปแบบสำหรับการทำ Marketing Campaign ในร้านอาหารก็มีอีกหลายแบบที่นำมาใช้ได้ผลจริง ได้แก่
.
1️⃣ จับคู่อร่อย คุ้มยิ่งกว่า!
.
การจัดเซตเมนูที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า และเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารได้ส่วนใหญ่เป็นการนำเมนูอาหาร 2 เมนู มารวมกันเป็น 1 เซ็ต มีผลทางจิตวิทยา ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ามากกว่าการสั่งแค่เมนูเดียว
.
2️⃣ เมนูใหม่ ราคาพิเศษ
.
การจัดโปรโมชัน เมนูใหม่ ราคาพิเศษ ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากรู้ อยากลอง ซึ่งหากเมนูนั้นอร่อยถูกใจ ก็จะกลายเป็นเมนูที่ลูกค้าจะสั่งต่อไปในครั้งหน้าได้ด้วย
.
3️⃣ แลกซื้อราคาพิเศษ
.
คือการจูงใจให้ลูกค้าสั่งเมนูอาหารที่เรากำหนดไว้ เพื่อแลกซื้ออีกเมนูในราคาพิเศษ เช่น สั่งข้าวพัดกระเพรา 1 จาน รับสิทธิ์แลกซื้อน้ำอัดลมราคาพิเศษ 15 บาท เป็นต้น
.
4️⃣ ส่วนลดพิเศษตามเทศกาล
.
การจัดเมนูพิเศษหรือมอบส่วนลดให้เหมาะสมกับแต่ละเทศกาล และอาจเป็นการโฆษณาผ่านโซเชี่ยลได้แบบฟรีไม่ต้องเสียเงินจากโพสต์ของลูกค้าเอง
.
5️⃣ ฉลองเปิดร้านหรือครบรอบเปิดร้าน
.
กลยุทธ์ครอบรอบเปิดร้านเช่น ครบรอบ 1 ปี , ครบรอบ 2 ปี การใส่โปรโมชันก็ต้องให้สอดคล้องและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่พิเศษจริงๆ เช่นอาจมีเมนูพิเศษ หรือจัดกิจกรรมแจกของรางวัลสำหรับลูกค้า เป็นต้น
.
6️⃣ จัดเซตอาหารกลางวัน – อาหารเย็น
.
เช่นการจัดเซตอาหารกลางวัน เป็นแฮปปี้มีลด์ที่ควรใส่เมนูให้เหมาะสม + เครื่องดื่ม จำหน่ายในราคาพิเศษ สามารถทำได้ทั้งอาหารกลางวัน และอาหารเย็น 
.
7️⃣ เมนูพิเศษฉลองวันเกิดลูกค้า
.
สำหรับร้านอาหารที่มีระบบสมาชิกจะมีข้อมูลลูกค้า ซึ่งการจัดเมนูพิเศษฉลองวันเกิดให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกคือหนึ่งแคมเปญที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ผลดีคือการที่ลูกค้าจะนำไปบอกต่ออันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ร้านอาหารมีโอกาสที่คนอื่นจะเข้ามาเป็นลูกค้าประจำได้มากขึ้นด้วย
.
และถ้าดูในมุมของรายได้ที่มีข้อมูลว่า Marketing Campaign ช่วยให้มีลูกค้าเพิ่ม 30% เพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลได้ 10-15% นั่นหมายความว่าถ้าแต่เดิมร้านเรามีฐานลูกค้าต่อเดือนที่ 1,000 คน ยอดขาย 300,000 / เดือน หลังจบ Marketing Campaign เราจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 1,000 เป็น 1,300 คน มีบิลเฉลี่ยเพิ่มจาก 300 เป็น 350 และมียอดขายใหม่เท่ากับ 1,300 × 350 = 455,000 หรือมียอดขายเพิ่มมาจากเดิม 51%  
.
แต่ตัวเลขนี้คือประมาณการให้เห็นภาพว่ามีผลต่อยอดขาย ซึ่งถ้าจะให้ได้ผลดีจริงร้านอาหารควรเลือกโปรที่ “เพิ่มยอดโดยไม่ตัดกำไรตรง ๆ” ก็คือการไม่ลดราคาสินค้าหรืออาหารโดยตรง (เช่น ลด 30–40%) เพราะวิธีนั้นจะทำให้กำไรต่อจานหายไปทันทีแต่หันมาใช้วิธีที่ กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อเพิ่ม โดยที่กำไรต่อจานยังปลอดภัย
.
ทั้งนี้เรื่องน่ารู้ก่อนคิดแคมเปญให้กับร้านอาหารมีหลักการสำคัญ 3 ข้อที่ควรรู้คือ
.
✅กำหนดเป้าหมาย (Goals) ที่ชัดเจนว่าจัดโปรโมชันเพื่ออะไร เช่น เพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่ หรือต้องการดึงลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ
.
✅รู้จักสินค้า และบริการของธุรกิจตนเอง (Context) เพื่อจัดทำ Sales Promotion ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นๆ ได้
.
✅วิเคราะห์ เลือกไอเดียทำโปรโมชัน (Make it happen) เพื่อให้การทำโปรโมชันนั้นมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ในสิ่งที่ร้านต้องการได้มากที่สุด หากทำโปรที่ผิดวิธีอาจเป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสีย
.
.
#MarketingCampaign #ร้านอาหาร #เพิ่มยอดขาย #การตลาด #การทำโปรโมชัน #กำหนดเป้าหมาย #Context #เลือกไอเดียทำโปรโมชัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความดื้อ กับ ความพยายามต่างกันยังไง?

. เพิ่งอ่านบทความนึงมาครับของ Paul graham ว่าด้วยความต่างระหว่าง “ความพยายาม” (Persistence) กับ “ความดื้อรั้น” (Obstinacy) ฟังดู...