ยุคเอไอ นักเรียนปัจจุบันคิดว่า จะเรียนไปทำไม เอไอรวบรวมความรู้ให้หมดแล้ว ครูก็ยังใช้เอไอมาทำแผนการสอน สร้างสื่อที่สวย ออกข้อสอบ นักเรียนเห็นว่าถ้าให้เอไอทำสอบ ก็ทำได้คะแนนดี ไม่เห็นต้องเสียเวลาเรียนเลย
หลักสูตรและการเรียนการสอนก็ยังเหมือนเดิม ใช้มานานไม่เปลี่ยนแปลง เรียนวัดผลกันที่สอบ การศึกษาไทยจึงไล่ตามโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน
ผมมักยกตัวอย่างหลายครั้งว่า ถ้าเรารู้ว่า ม้าวิ่งเร็ว เราจะวิ่งแข่งกับม้าหรือไม่
คอมพิวเตอร์ทำงานเร็ว เราจะแข่งการคำนวณกับคอมพิวเตอร์ไหม เอไอทำข้อสอบให้เราได้ เราจะสอบแข่งกับเอไอไหม ทำไมเราไม่เรียนวิธีการบังคับม้า ขี่ม้า การเรียนการสอนเราจะแข่งกับเอไอไหม เราจะใช้เอไอทำงานแทนเราจนบทบาทเราไม่เหลือเลยไหม
การเรียนการสอนในยุคนี้ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมาก สังคมเรากำลังเปลี่ยนจากยุค Knowledge base era ไปสู่ Conciousness era ยุคแห่งการใช้จิตสำนึก มีสติ สมาธิ สร้างปัญญา แก้ปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เรายังเหนือกว่าเอไอ
ผมได้ยกตัวอย่างเรื่องระบบเอไอแปลภาษา ปัจจุบันเอไอเข้าใจในระดับ Semantics หรือ Context ได้ดี แต่ยังลงไปเหมือนมนุษย์ในระดับลึกทางจิตสำนึกไม่ได้ สามารถเชื่อมโยงบริบทของข้อความ ได้ แต่ก็ยังใช้บนฐานของข้อมูลที่มี ที่เรียนรู้ เช่น ผมลองให้แปล Somchai bring a telescope from his home . He saw a women with a telescope. เอไอแปลว่า สมชายนำกล้องโทรทรรศน์มาจากบ้าน เห็นผู้หญิงถือกล้องโทรทรรศน์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะประโยคกำกวม เอไอจะเลือกตามข้อมูลสถิติที่เรียนรู้จากข้อมูลที่พบ มนุษย์ยังเหนือกว่าในเรื่องจิตสำนึก ที่อยู่ในระดับลึกสุด
ผมจัดกิจกรรมให้นักเรียนทั้งระดับ ประถม และมัธยมทุกครั้ง ผมเน้นเรื่อง การคิด ความเข้าใจ สร้างทัศนคติให้เห็นว่าเป็นของง่าย สนุก ลงมือทำ สร้างประสบการณ์ เกิดทักษะจากการลงมือทำ ค่าย Cubic Science Explorer น้องประถม เช่นเรื่องฟิสิกส์พื้นฐาน กลศาสตร์ ผมให้เข้าใจตั้งแต่ มวล แรง น้ำหนัก แรงดึงดูด หัวใจหลักของกฎนิวตันสามข้อ โดยไม่จำเป็นต้องลงลึกเพื่อทำโจทย์คำนวณ แต่ให้นักเรียนได้ทดลอง หรือทำโครงงาน เรียนรู้ สำรวจ แสวงหา หรือค้นความรู้มาประกอบได้เอง เป็นการเรียนรู้แบบง่ายที่สนุก
สำหรับค่ายที่เกี่ยวกับเอไอ ผมเน้นให้เข้าใจว่าเอไอทำงานได้อย่างไร ให้ทดลองเพื่อให้เห็นความสำคัญของข้อมูล ML ที่ใช้ข้อมูล การแยกแยะจัดกลุ่ม สามารถคิดต่อยอดสร้างนวัตกรรม ประยุกต์จากการใช้เอไอ ML
สรุปอนาคตเราจะต้องอยู่ร่วมกับเอไอ เป็นยุคที่การศึกษาต้องปรับตัวมาสู่ยุคแห่งจิตสำนึก ฝึกชีวิตให้มีสติตั้งมั่น มีวิจารณญาณ รู้เท่าทัน เรียนรู้แบบเข้าใจ มีสมาธิไม่ฟุ้งซ่าน ที่จะทำให้เกิดปัญญา รู้ชัดเห็นชัด คิดได้ สร้างสรรค์ ประยุกต์ แก้ปัญหา ตามหลักพุทธศาสนา
สำหรับการออกแบบกิจกรรมการศึกษาที่ทำในค่าย ผมเน้นทักษะที่มนุษย์ต้องมีในยุคเอไอ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร การทำงานร่วมกับคนอื่น และการเข้าใจอารมณ์ตัวเองและผู้อื่น (emotional intelligence) สิ่งเหล่านี้อยู่ในระดับ Conciousness ที่เอไอยังไม่สามารถทำแทนมนุษย์ได้
การนำเสนอมานี้เป็นมุมมองของผม เพียงจุดเล็กๆ ที่อยากเห็นการศึกษาไทยดีขึ้นF
ที่มา Fb ยืน ภู่วรวรรณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น