เทรนด์การใส่ใจสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน กำลังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยาวและซับซ้อน
ในขณะที่คน 1 ใน 3 ของโลกขาดอาหาร ก็มีคนจำนวนมากที่กินเกินจนป่วยเป็นโรคอ้วน ยิ่งไปกว่านั้น ระบบอาหารยังเป็นภาระต่อโลก สร้าง Carbon Footprint ถึง 1 ใน 4 ของทั้งหมด
อาหารจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกินบนโต๊ะอีกต่อไป แต่กลายเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่ต้องเร่งเปลี่ยนผ่าน ทั้งเพื่อธุรกิจ และโลกทั้งใบ
🟡 โอกาสมูลค่า 5 แสนล้านบาทของ Food Tech
Food Tech คือการนำไบโอเทค หรือ Food Science มาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริโภคอาหาร
Food Tech ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของอาหารที่เราคุ้นเคย แต่มีคอนเซปต์สำคัญคือ ทำให้เรามีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น ที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ และดีต่อโลก ทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนา ‘อาหารแห่งอนาคต (Future Food)’ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยกำลังผลักดัน
มูลค่าการส่งออกอาหารแห่งอนาคตของไทยคิดเป็นเกือบ 10% ของมูลค่าการส่งออกอาหารรวมทั้งหมด (1.6 ล้านล้านบาท) และมีการตั้งเป้าหมายว่าตลาด Future Food ของไทยจะสามารถไปถึง 500,000 ล้านบาท ภายในปี 2570
การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นการที่ SME และเกษตรกรสามารถปรับแนวคิดและใช้เทคโนโลยี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของตนเอง หากไม่ปรับตัว ธุรกิจอาจต้องเผชิญกับกฎระเบียบและการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง
🟡 ภูมิปัญญาสู่เทคโนโลยีและตลาดโลก
ตัวอย่างของความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ Future Food คือกรณีของ ‘เห็ดแครง’ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวสวนยางที่ภาคใต้
ผู้ประกอบการเริ่มต้นจากฐานที่รู้ว่าการทำสวนยางแบบเดิมไปต่อไม่ได้ จึงหันมาสนใจเห็ดแครงที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในสวนยาง
จากการวิจัยร่วมกับนักวิจัย พบว่าเห็ดแครงมีโปรตีนสูงถึง 17% ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาเห็ด และยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สามารถพัฒนาไปเป็นสารสกัด หรือแม้แต่ยาได้ จึงพัฒนาจากเห็ดแครงแห้งแบบ OTOP ไปสู่การเป็น Whole Food Plant-Based Meat ที่ใช้คุณสมบัติ Texture ที่ดีและเนื้อนวลกรุบเหมือนเนื้อสัตว์ของเห็ดแครง ในการผลิตเบอร์เกอร์และหมูปิ้ง
🟡 6 เฟรมเวิร์ก SMEs ลุยตลาด Future Food
ผู้ประกอบการ นักวิจัย และ SME ต้องหาจุดร่วมในการพัฒนาใน 6 แกนหลัก เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารแห่งอนาคต
🔸1. การสร้างนวัตกรรมใหม่ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ เช่น การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การหมัก การวิจัยพืช เห็ดราสาหร่ายสายพันธุ์ใหม่เพื่อให้ได้โปรตีนหรือรสชาติที่ดี
🔸2. การปรับปรุงระบบการผลิต เช่น ใช้เทคโนโลยี AgTech, Vertical Farming, หรือระบบการเลี้ยงสัตว์ เพาะปลูกอัจฉริยะ เพื่อให้การผลิตตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน
🔸3. การปกปักรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ การทำเกษตรแบบฟื้นฟู และการใช้เทคโนโลยี IoT ในการวัดและจัดการคาร์บอน/ของเสีย
🔸4. การสร้างโรงงานผลิตที่เอื้อต่อความยั่งยืนและการผลิตอาหารทางเลือก เช่น โรงงานผลิต Plant-Based Food รวมถึงการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรม
🔸5. การสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือช่องทางการเข้าถึงที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึง Future Food ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
🔸6. การพัฒนาบริการ เทคโนโลยี และรูปแบบที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถบริโภคได้อย่างยั่งยืน เช่น นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และระบบขนส่งที่ลดขยะ
หากไทยไม่ก้าวเข้าสู่ Food Tech ประเทศที่ขาดทรัพยากรอย่างสิงคโปร์หรืออิสราเอลจะแซงหน้าด้วยเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการไทย
เรายังสามารถทำงานร่วมกับประเทศที่เป็น Hub ด้านนวัตกรรมอย่างสิงคโปร์ได้ ในขณะที่สิงคโปร์เป็นแล็บสำหรับนวัตกรรมอาหาร แต่ไทยคือฟาร์ม และพื้นที่ทดลองที่อุดมสมบูรณ์ การนำงานวิจัยที่ดีและเทคโนโลยีจากทั่วโลกมาขยายผลในประเทศจึงเป็นหนทางที่จะทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของ Food Tech ในเอเชียอย่างแท้จริง
#TheSecretSauce #SecretScience
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น