.
1. ลอกความคิดก่อนลอกการกระทำ
คนที่สำเร็จไม่ได้เริ่มจากทำเหมือนแต่เริ่มจากคิดให้เหมือนเขาเห็นโอกาสในจุดที่คนอื่นมองไม่เห็น มองปัญหาเป็นสนามฝึก และไม่ปล่อยให้ความกลัวมาหยุดการลงมือ เราควรถอดรหัสความคิดเขามากกว่าก็อปพฤติกรรม เพราะความคิดคือรากฐานที่พาเขาไปถึงจุดนั้น
2. เอากลยุทธ์มาปรับไม่ใช่มาแปะ
การลอกแบบที่ฉลาดไม่ใช่เอาของเขามาใช้ทั้งดุ้นแต่คือเอา โครงมาปรับให้เข้ากับเรา เช่น เขาใช้การเขียนสร้างตัวตนเราอาจไม่ต้องเขียนเหมือนกันแต่ใช้คลิปหรือเสียงแทนได้ เพราะสิ่งสำคัญคือกลยุทธ์ ไม่ใช่รูปแบบ
3. เข้าใจเบื้องหลังความสำเร็จ
อย่าดูแค่ภาพปลายทางแต่ให้ดูว่ากว่าจะถึงตรงนั้นเขาผ่านอะไรมา ต้องล้มกี่ครั้ง ต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดไม่ใช่ผลลัพธ์แต่คือวิธีคิดเมื่อยังไม่สำเร็จที่ทำให้เขาก้าวไปต่อได้เสมอ
4. ถามตัวเองว่าเขาคิดยังไงเวลาล้ม
คนที่สำเร็จไม่ได้ไม่เคยล้มแต่ทุกครั้งที่ล้มเขาจะไม่ถามว่า ทำไมฉันถึงแพ้แต่ถามว่าฉันจะเรียนรู้อะไรได้จากสิ่งนี้ถ้าเราเริ่มมองความล้มเหลวแบบเดียวกัน ทุกครั้งที่พลาดจะกลายเป็นบันไดก้าวใหม่ทันที
5. เริ่มจากสิ่งเล็กเหมือนที่เขาเคยทำ
ไม่มีใครสำเร็จในวันเดียว คนที่เก่งที่สุดก็เริ่มจากก้าวเล็กๆ เช่นเดียวกัน ลอกเขาในสิ่งเล็กก่อน เช่น สร้างนิสัย อ่านวัน
ละหน้า ลงมือวันละ 10 นาที แล้วเราจะค่อยๆ มีวินัยและแรงส่งเหมือนเขาในที่สุด
6. ลอกความสม่ำเสมอไม่ใช่แค่แรงฮึด
สิ่งที่พาคนธรรมดาไปไกลไม่ใช่พรสวรรค์แต่คือความสม่ำเสมอ คนสำเร็จไม่ทำเพราะมีแรงบันดาลใจแต่เพราะมันคือหน้าที่ ถ้าเราเปลี่ยนอยากทำให้กลายเป็นต้องทำความสำเร็จก็หนีไม่พ้น
7. เรียนรู้วิธีตัดสินใจของเขา
เขาไม่ได้ตัดสินใจจากอารมณ์ แต่จากข้อมูลความเสี่ยง
และผลระยะยาว เช่น ถ้าต้องเลือกระหว่างได้เงินเร็วหรือสร้างคุณค่าถาวร เขาจะเลือกอย่างหลังเสมอ เพราะรู้ว่าของที่ยั่งยืนจะพาไปได้ไกลกว่า
8. ใช้สิ่งที่เขาใช้แก้ปัญหา
แทนที่จะมองว่าทำไมเขาไม่ท้อให้ดูว่าเขาใช้อะไรสู้กับปัญหา เช่น บางคนใช้การเขียนเพื่อระบาย บางคนใช้การเดินเพื่อคิด เราก็เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้เช่นกัน เพราะอาวุธสำคัญไม่ใช่ความแข็งแกร่งแต่คือวิธีคิด
9. สังเกตนิสัยที่เขาทำทุกวัน
ความสำเร็จซ่อนอยู่ในสิ่งเล็กๆ ที่ทำซ้ำ เช่น อ่านทุกเช้าเขียนทุกวัน วางแผนทุกคืน ลองเลือกนิสัยเล็กๆ มาหนึ่งข้อแล้วทำให้ได้ต่อเนื่อง 30 วัน เราจะเริ่มเข้าใจว่าความสำเร็จไม่ใช่โชคแต่คือระบบ
10. มองคนที่เหนือกว่าเป็นครูไม่ใช่คู่แข่ง
แทนที่จะเปรียบเทียบแล้วรู้สึกแพ้ ให้ดูเขาเป็นหนังสือเล่ม
หนึ่งที่เรากำลังอ่านอยู่ ทุกความสำเร็จของเขาคือบทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้และใช้สร้างเวอร์ชันที่ดีกว่าของตัวเองได้ทุกวัน
11. ใช้แรงอิจฉาเป็นแรงผลัก
คนที่สำเร็จไม่ใช่ไม่อิจฉาแต่เขาเปลี่ยนอารมณ์นั้นให้กลาย
เป็นพลัง เขาไม่ได้ถามว่าทำไมเขามีแล้วฉันไม่มีแต่ถามว่าฉันต้องทำอะไรถึงจะมีแบบนั้นแล้วลงมือทันที แรงอิจฉาที่ถูกใช้ถูกทางคือเชื้อไฟของการเติบโต
12. วิเคราะห์การเลือกของเขาในแต่ละช่วง
เขาไม่ได้เลือกทุกอย่าง เขาเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ เช่น ตอนเริ่มต้นโฟกัสแค่หนึ่งอย่างจนสำเร็จแล้วค่อยขยาย เราก็ทำแบบเดียวกันได้ แทนที่จะทำหลายอย่างแล้วไม่ไป
ไหนเลย
13. ให้เวลากับสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ
ถ้าเขาให้เวลากับการอ่านวันละ 1 ชั่วโมงเราก็ทำได้ถ้าเขา
ใช้เวลาคิดก่อนลงมือ เราก็ทำได้เหมือนกัน เพราะเวลาที่เรา
ใช้สะท้อนสิ่งที่เราให้ค่า และสิ่งนั้นเองที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา
14. เลียนแบบความกล้าที่เขามี
ทุกคนกลัว แต่คนที่สำเร็จเลือกจะเดินทั้งที่กลัวเขาไม่รอให้พร้อม 100% แล้วค่อยเริ่ม แต่เริ่มก่อนแล้วเรียนรู้ระหว่างทาง เราก็ทำได้เหมือนกัน แค่ยอมก้าวแม้จะยังไม่พร้อม ความกล้าจะสร้างผลลัพธ์
15. เข้าใจวิธีที่เขารับมือกับคำวิจารณ์
เขาไม่ปล่อยให้คำพูดของคนอื่นมาทำลายความเชื่อเขาเลือกหยิบเฉพาะสิ่งที่ช่วยให้ดีขึ้นและทิ้งสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราทำได้แบบนั้น ความเห็นรอบตัวจะกลายเป็นครู ไม่ใช่กำแพง
16. เรียนรู้วิธีที่เขาใช้เวลา
เขาไม่ใช้เวลาหมดไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญเขาเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์เป้าหมายก่อนเสมอ ถ้าเรากล้าเลือกตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต เราก็จะมีพื้นที่ให้สิ่งที่พาเราไปข้างหน้ามากขึ้น
17. เข้าใจว่าเขาไม่ได้ทำคนเดียว
ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากความพยายามล้วนๆแต่เกิดจากทีม แรงสนับสนุน และเครือข่าย เขาเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พาให้เติบโต เราก็ทำได้เหมือนกัน แค่เลือกอยู่ใกล้คนที่พาเราไปข้างหน้า
18. ลอกความเชื่อที่เขายึดถือ
เหนือกลยุทธ์ใดๆคือความเชื่อที่ขับเคลื่อนชีวิตเขาเชื่อว่า
ทำได้จึงลงมือ เขาเชื่อว่าล้มคือบทเรียนจึงไม่ถอย ถ้าเราเปลี่ยนความเชื่อแบบเดียวกัน ทุกอย่างในชีวิตก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น
#Joeakara #mindset #ความคิด #แรงบันดาลใจ #พัฒนาตัวเอง #ทัศนคติ #เธรด #พลังบวก #ลอกความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น