วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568

18 เทคนิคตัดสินใจเร็ว 🌈☀️

.
1. ฟังหัวใจตัวเอง
เขาเคยเสียเวลาฟังเสียงจากคนรอบข้างมากเกินไปจนสับสนและไม่กล้าเลือก แต่เมื่อเขาเริ่มเงียบและถามตัวเองว่าจริงๆ แล้วฉันอยากไปทางไหนเสียงเล็กๆ ข้างในก็บอกชัดเจนเสมอว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข การเชื่อหัวใจตัวเองไม่เพียงทำให้ตัดสินใจเร็วขึ้น แต่ยังทำให้ไม่เสียเวลาอยู่บนเส้นทางที่ไม่ใช่ของตัวเอง

2. จำกัดเวลาในการคิด
เขาเคยปล่อยให้สมองวนเวียนเป็นชั่วโมงจนเหนื่อยแต่พอลองตั้งเวลา 10 นาทีให้คิดและเลือก เขากลับพบว่าคำตอบมักจะชัดตั้งแต่นาทีแรกๆ เสมอ การมีเดดไลน์เล็กๆ ให้กับตัวเองช่วยตัดวงจรความลังเล และทำให้ก้าวต่อได้เร็วขึ้น

3. ใช้กฎ 80/20
เขาไม่เสียเวลาไปกับรายละเอียดทุกอย่าง แต่เลือกโฟกัส
เพียงไม่กี่ประเด็นที่ส่งผลมากที่สุด เหมือนตอนเลือกสมัครงาน 
เขาไม่ได้อ่านทุกบริษัทในโลก แต่เลือกแค่ที่ตรงกับทักษะและความฝัน ผลคือการตัดสินใจที่แม่นและเร็ว โดยไม่จมอยู่กับข้อมูลเกินจำเป็น

4. เลือกสิ่งที่ง่ายกว่า
เขาเลิกพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อนที่สุดเพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำได้เลยมักจะสำคัญกว่าสิ่งที่วางแผนไว้แต่ไม่เริ่ม เช่น เขาเลือกลงมือเขียนบทความสั้นๆ ก่อน แทนที่จะมัวแต่วางแผนทำหนังสือใหญ่ การเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ทำให้เขาเดินหน้าได้เสมอ

5. ถามว่าถ้าแย่ที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น
เขาเคยกลัวการเริ่มธุรกิจเล็กๆ จนไม่กล้าลงมือแต่เมื่อถามตัวเองว่าถ้าเจ๊งที่สุดจะเสียอะไรเขาพบว่ามีเพียงเวลาและเงินก้อนเล็กที่แลกมากับบทเรียนใหญ่ การมอง Worst Case Scenario แบบนี้ทำให้ใจเบาลง และตัดสินใจได้เร็วขึ้นมาก

6. เชื่อสัญชาตญาณแรก
เขาเลิกย้อนกลับไปเปลี่ยนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะค้นพบว่า สัญชาตญาณแรกมักตรงกับสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา เหมือนการทำข้อสอบ ที่คำตอบแรกมักถูกต้องมากกว่าการแก้ไขในภายหลัง

7. แบ่งเป็นใช่หรือไม่ใช่
เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองจมกับตัวเลือกมากมาย แต่ถามแค่คำถามเดียวว่าสิ่งนี้ใช่สำหรับฉันไหมการแบ่งเป็นขาวกับดำแม้อาจดูง่าย แต่ทำให้หัวใจบอกชัดว่า ควรเดินหน้าหรือควรถอย

8. เริ่มจากสิ่งเล็ก
เขาไม่ได้รีบตัดสินใจครั้งใหญ่ทันทีแต่เลือกลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน เหมือนเวลาอยากเปลี่ยนงาน เขาไม่ได้ลาออกทันที แต่ลองหาคอร์สเรียนหรือทำโปรเจกต์เล็กๆ ข้างนอก แล้วค่อยรู้ว่าเส้นทางไหนเหมาะที่สุด การเริ่มเล็กๆ ทำให้การตัดสินใจใหญ่เบาลง

9. ใช้กฎ 5 วินาที
เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองคิดจนพลาดโอกาส แต่เมื่อต้องเลือก 
เขานับถอยหลัง 5…4…3…2…1 แล้วลงมือทันที วิธีนี้ทำให้เขากล้าลุกไปคุยกับคนที่อยากรู้จัก กล้าที่จะยกมือในห้องประชุม และไม่ปล่อยให้ความลังเลดึงเขากลับไปนั่งเงียบ

10. คิดถึงเป้าหมายระยะยาว
เขาไม่เลือกเพียงเพราะความสะดวกชั่วคราว แต่ถามว่าสิ่งนี้
พาฉันเข้าใกล้เป้าหมายชีวิตหรือไม่เหมือนตอนเลือกระหว่างงานเงินเดือนสูงแต่ไม่ตรงใจ กับงานเงินเดือนพอประมาณแต่ได้เรียนรู้ เขาเลือกอย่างหลัง เพราะรู้ว่ามันพาเขาไปในเส้นทางที่อยากเดินจริงๆ

11. ถามว่าอีก 5 ปีสิ่งนี้ยังสำคัญไหม
เขาเคยเถียงกับเพื่อนเรื่องเล็กๆ จนเสียเวลาแต่เมื่อถามว่า
อีก 5 ปีเรื่องนี้ยังสำคัญไหมเขาก็หัวเราะออกมา เพราะคำตอบคือไม่เลย และนั่นทำให้เขาตัดสินใจปล่อยวางได้ทันที

12. จำกัดตัวเลือกไม่เกิน 3 ข้อ
เขาไม่ทำให้ชีวิตยากด้วย 10 ตัวเลือก แต่บังคับตัวเองให้
เหลือแค่ 3 ทาง เมื่อเหลือไม่กี่อย่าง ความชัดเจนก็เกิดขึ้น 
การเลือกจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป

13. เลือกสิ่งที่ทำให้ใจเบา
เขาเลิกฝืนเลือกสิ่งที่ทำให้ใจหนัก เหมือนการคบคนสักคน 
เขารู้ทันทีว่าใครทำให้ใจอึดอัด และใครทำให้ใจเบาสบาย 
คำตอบอยู่ตรงนั้นเสมอ แค่เลือกฟังความรู้สึกตัวเอง

14. มองจากมุมคนนอก
เขาไม่จมอยู่กับความคิดตัวเองจนสับสนแต่ลองคิดว่าถ้าเพื่อนรักเจอเหตุการณ์นี้ ฉันจะแนะนำให้เขาทำอะไรคำตอบที่ชัดจากมุมคนนอกทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นมาก

15. ตัดสินใจแบบทดลอง
เขาเลิกคิดว่าทุกการเลือกต้องถาวร แต่ลองเลือกชั่วคราว 
เช่น ลองทำงานใหม่สัก 3 เดือน ถ้าไม่ใช่ก็เปลี่ยนได้ การคิดแบบทดลองทำให้กล้าตัดสินใจโดยไม่กลัวผิดพลาด

16. ทำตามความอยากลอง
เขาไม่รอความมั่นใจเต็มร้อย เพราะรู้ว่าความมั่นใจจะมาเมื่อได้ลงมือทำ ดังนั้นเมื่อใจบอกว่า อยากลองเขาก็ตัดสินใจทำทันที เพราะความอยากรู้นำมาซึ่งการเติบโตเสมอ

17. หยุดถามทุกคนรอบตัว
เขาเลิกถามความเห็นจากคนรอบตัวจนเกินพอดีเพราะยิ่งถามมากเท่าไหร่ ใจก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น เขารู้ว่าไม่มีใครรู้จักเส้นทางชีวิตได้ดีเท่าตัวเอง

18. เลือกแล้วไม่หันหลังกลับ
เขาเลิกเสียเวลาเสียดายในสิ่งที่เลือกไปแล้วเพราะรู้ว่าการมัวแต่หันกลับไปจะทำให้ไม่เดินหน้า เขาตัดสินใจว่า เมื่อเลือกแล้ว จะทำให้ดีที่สุด และนั่นคือเหตุผลที่เขาก้าวได้เร็วกว่าใคร

Cr. Read Journey 

#เทคนิคตัดสินใจ #พัฒนาตนเอง #เชื่อมั่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความดื้อ กับ ความพยายามต่างกันยังไง?

. เพิ่งอ่านบทความนึงมาครับของ Paul graham ว่าด้วยความต่างระหว่าง “ความพยายาม” (Persistence) กับ “ความดื้อรั้น” (Obstinacy) ฟังดู...