1. ตั้งกรอบใหม่
เขาเปลี่ยนคำถามจาก ทำไมมันยากเป็นอะไรคือก้าวเล็ก
ถัดไปแล้วพอเห็นภาพเล็กที่ทำได้ทันทีเขาก็รู้สึกคุมเกมขึ้นมาเช่นเปลี่ยนโปรเจกต์ใหญ่ให้เป็นเช็กลิสต์สามข้อและเริ่มติ๊ก
ข้อแรกแบบไม่ผัดวันอีกต่อไป
2. กฎถ้าแล้ว
เขาวางแผนล่วงหน้าว่า ถ้าเลิกงานแล้วสองทุ่มแล้วออกกำลังทันทีสิบห้านาทีเพราะสมองชอบคำสั่งชัดๆและเมื่อสถานการณ์มาถึงร่างกายก็ทำตามโดยไม่ต้องเถียงตัวเองให้เสียพลังใจทุกครั้ง
3. ผูกมัดอนาคตตัวเอง
เขาจ่ายคอร์สล่วงหน้าหรือชวนเพื่อนเป็นคู่ซ้อมเพื่อปิดทางถอยเช่นโอนค่าคลาสทุกวันพุธไว้ก่อนจึงรู้สึกจำเป็นต้องไปและวินัยก็ค่อยๆกลายเป็นนิสัยที่ไม่ต้องฝืนอีกแล้ว
4. มัดคู่สิ่งล่อใจ
เขาจับคู่สิ่งที่อยากทำกับสิ่งที่ต้องทำเช่นดูซีรีส์เฉพาะตอนเดินลู่หรือจิบกาแฟเฉพาะตอนแกะงานเอกสารเพราะความสุขเล็กๆทำให้ภารกิจไม่น่าเบื่อและเสร็จไวแบบไม่ดื้อกับตัวเอง
5. ตีกรอบเวลา
เขาใช้ไทม์บ็อกซ์ย่อยๆยี่สิบนาทีพร้อมตั้งนาฬิกาจับเวลา
เพราะการเห็นเส้นตายเล็กๆช่วยไล่ความฟุ้งออกจากโต๊ะทำงานและพองานขยับทีละช่องเขาก็รู้สึกควบคุมจังหวะ
ได้ตลอด
6. เริ่มจากประตูบานเล็ก
เขาขอความร่วมมือเรื่องง่ายก่อนเช่นให้ลูกค้าลองเทสฟรี
หรือให้ทีมกรอกฟอร์มสองบรรทัดเพราะเมื่อคนตอบรับครั้งแรกแล้วโอกาสจะตอบรับครั้งต่อไปก็สูงขึ้นและงานก็ไหลลื่นกว่าที่คิด
7. ปักหมุดค่าเทียบ
เขาเปิดราคาสูงไว้เป็นสมอแล้วเสนอแพ็กมาตรฐานที่คุ้มจริงเพราะสมองมักเทียบกับจุดอ้างอิงแรกและเมื่อเห็นความต่างแบบเป็นรูปธรรมลูกค้าก็ตัดสินใจง่ายขึ้นโดยไม่ลังเลนาน
8. ใช้พลังเสียงส่วนใหญ่
เขาหยิบหลักฐานสังคมมาช่วยตัดสินใจเช่นรีวิวจริงจำนวนผู้ใช้หรือผลลัพธ์ที่วัดได้เพราะเมื่อคนเห็นว่า คนแบบเราๆทำแบบนี้กันความลังเลลดลงและเราก็ขยับงานได้เร็วขึ้น
9. ตั้งค่าเริ่มต้นให้ฉลาด
เขาทำให้ตัวเลือกที่ดีเป็นดีฟอลต์เช่นสมัครหักเงินออมอัตโนมัติหรือปิดแจ้งเตือนแอปทุกเช้าหนึ่งชั่วโมงเพราะเมื่อ
ไม่ต้องเลือกใหม่ทุกครั้งนิสัยดีก็ติดทนและชีวิตก็เงียบสงบขึ้น
10. มองอนาคตแล้วตีกลับ
เขาใช้ WOOP ตั้งเป้าเห็นอุปสรรควางถ้าแล้วเช่นอยากอ่านวันละสิบหน้าแต่อุปสรรคคือมือถือจึงตั้งว่า ถ้าหยิบมือถือก่อนอ่านจะวางไว้ในลิ้นชักทันทีและการอ่านก็เกิดขึ้นจริงทุกวัน
11. ตั้งชื่อความรู้สึก
เขาพูดกับตัวเองตรงๆว่า ตอนนี้ฉันกำลังกังวลเรื่องเงิน
เพราะแค่ใส่ชื่อให้ความรู้สึกความร้อนแรงก็ลดลงและสมองคิดแก้ปัญหาได้คมขึ้นเช่นเปิดงบเช็กตัวเลขแทนการเดาไปเอง
12. ถอยหนึ่งก้าวจากตัวเอง
เขาเล่าเรื่องในมุมบุคคลที่สามว่า เธอกำลังเจอเดดไลน์หนักและกำลังทำดีที่สุดเพราะระยะห่างเล็กๆช่วยให้ใจนิ่งตัดสินใจได้อย่างมืออาชีพและไม่ถูกอารมณ์พาเงื่อนไขหลุดมือ
13. รูทีนเปิดปิดงาน
เขามีพิธีเริ่มและพิธีจบเหมือนเดิมทุกวันเช่นล้างโต๊ะเปิดเพลงเดิมก่อนเริ่มและสรุปสามบรรทัดก่อนปิดเพราะสมองรับสัญญาณชัดว่าเวลาโฟกัสและเวลาเลิกจึงคุมพลังงานได้ทั้งวัน
14. พรีมอร์เท็มก่อนลุย
เขาจินตนาการว่าผลงานล้มเหลวแล้วไล่เหตุผลที่เป็นไปได้
เช่นลูกค้าไม่ตอบเพราะข้อเสนอไม่ชัดเขาจึงแก้ล่วงหน้าด้วยตัวอย่างภาพและไทม์ไลน์และความเสี่ยงก็ลดลงแบบนิ่มๆ
15. กรอบความสูญเสีย
เขาเล่าให้ตัวเองเห็นว่าถ้าไม่เริ่มวันนี้จะเสียอะไรไปบ้างเช่นเสียโอกาสรายได้หรือเสียความมั่นใจเพราะสมองไวต่อการสูญเสียและพอเห็นราคาที่ต้องจ่ายก็ลงมือทำทันที
16. สถาปัตยกรรมการเลือก
เขาลดตัวเลือกให้เหลือสามแพ็กพร้อมคำอธิบายสั้นชัดและแนะนำตัวเลือกที่แนะนำจริงๆเพราะเมื่อเส้นทางชัดคนตัดสินใจง่ายขึ้นและงานเดินหน้าโดยไม่ต้องคุมละเอียดแทบทุกจุด
17. ทวนซ้ำแบบเว้นระยะ
เขากลับมาอ่านโน้ตสำคัญในวันถัดไปสัปดาห์ถัดไปและเดือนถัดไปเพราะความจำแข็งแรงขึ้นทุกครั้งที่ทวนถูกจังหวะและเมื่อต้องใช้ความรู้จริงเขาก็คุมเวทีได้มั่นใจ
18. สร้างตัวตนเชิงบวก
เขาเรียกตัวเองว่า คนรักษาสัญญาแล้วเลือกการกระทำที่สอดคล้องเช่นส่งงานตามที่บอกตอบแชตในเวลาที่ตกลงเพราะเมื่ออัตลักษณ์ชัดพฤติกรรมก็ไหลตามและความน่าเชื่อถือก็กลายเป็นทุนที่ควบคุมสถานการณ์ได้เสมอ
แนะนำให้อ่าน
https://s.shopee.co.th/4L9C2InKvI
https://s.lazada.co.th/s.BAIB3?cc
#จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น