วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ทำไมปี 2570 คนไทยทุกคนต้องยื่นภาษี ?

ทำไมปี 2570 คนไทยทุกคนต้องยื่นภาษี ?
แล้วที่ผ่านมา ทำไมบางคนถึงไม่ยื่นภาษี 

---
◾️ยื่นภาษี ไม่ใช่ เสียภาษี

.

คำว่า ยื่นภาษี หมายถึง
เราต้องยื่นเมื่อรายได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

สำหรับคนโสด 

หน้าที่ในการยื่นภาษี จะเริ่มตั้งแต่มีเงินได้เงินเดือนประเภทเดียว เกิน 120,000 บาท

มีเงินได้ประเภทอื่นนอกจากเงินเดือน เกิน 60,000 บาท

สำหรับคนที่มีคู่สมรส 
(จดทะเบียนตามกฎหมาย)

หน้าที่ในการยื่นภาษี จะเริ่มตั้งแต่มีเงินได้เงินเดือนประเภทเดียว เกิน 220,000 บาท 

มีเงินได้ประเภทอื่นนอกจากเงินเดือน เกิน 120,000 บาท 

.

คำว่า เสียภาษี หมายถึง
เมื่อคำนวณภาษีแล้วมียอดภาษีที่ต้องจ่าย

ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า คำนวณแล้วมีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 150,000 บาทขึ้นไป

ดังนั้น คนที่มีหน้าที่ยื่นภาษี 
ต้องยื่นเมื่อมีรายได้เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 

ส่วนจะต้องเสียภาษีหรือไม่ 
ขึ้นอยู่กับผลการคำนวณภาษี

---

◾️แนวคิดใหม่ของกระทรวงการคลัง

ตอนนี้กระทรวงการคลังสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ครอบคลุมข้อมูลประชาชนกว่า 60.8 ล้านคน และธุรกิจกว่า 6 แสนกิจการ เชื่อมโยงกับข้อมูลจากหลายหน่วยงาน รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข 

.

เพื่อพัฒนา Ari Score หรือ ระบบเครดิตสกอริ่งของประชาชน เพื่อใช้เป็นคะแนนเครดิตสำหรับผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ แทนที่จะพึ่งพาข้อมูลจาก เครดิตบูโร เพียงอย่างเดียว

.

ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนสวัสดิการในรูปแบบ Negative Income Tax เพื่อให้ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จะได้รับ “เงินชดเชย” ให้ แทนที่จะเก็บภาษี

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ปี 2570 เป็นต้นไป ทุกคนต้อง "ยื่นภาษีเงินได้" เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ และรัฐก็จะได้รับข้อมูลส่วนนี้มากขึ้นเช่นเดียวกัน

---

◾️Negative income TAX 

Negative Income Tax (NIT) คือ ระบบภาษีที่คนทุกคนต้องยื่นภาษี แต่ถ้ารายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รัฐจะ “จ่ายเงินชดเชย” ให้ 

ซึ่งแนวคิดนี้ต้องการสนับสนุนให้คนที่มีรายได้ต่ำมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการช่วยเหลือของรัฐ เพื่อให้มีโอกาสที่มากขึ้น หรือมีรายได้ในระดับที่เพียงพอในการใช้ชีวิต 

.

วิธีการคือ กำหนดระดับรายได้ขั้นต่ำไว้ 
และเงื่อนไขที่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐเป็นอัตราส่วน 

เช่น รายได้ขั้นต่ำ คือ 100,000 บาทต่อปี โดยถ้าหากใครมีเงินได้ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด จะได้รับเงินชดเชยในอัตรา 50% แต่ถ้ามีรายได้มากกว่า 100,000 บาท จะลดลงเหลือ 20% และถ้าใครที่มีรายได้เกิด 200,000 บาทต่อปีแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิ์

สมมติว่า นายบักหนอมมีรายได้อยู่ที่ 60,000 บาทต่อปี เขาจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 20,000 บาท (40,000 x 50%)

แต่ถ้านายบักหนอมมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 150,000 บาทต่อปี เขาจะยังได้รับเงินชดเชยอยู่ที่ 10,000 บาท (50,000 x 20%) 

แต่ถ้าเมื่อไรมีรายได้เกินกว่า 200,000 บาทต่อปีก็จะไม่ได้รับเงินชดเชยอีกต่อไป 

ป.ล. นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ต้องรอดูแนวทางของรัฐในกำหนดสวัสดิการอีกทีหนึ่ง 

---
 
◾️สิ่งที่คนไทยต้องเตรียมตัว

ในฐานะคนทำงานด้านภาษีและการเงิน สิ่งที่ผมอยากแนะนำให้เตรียมตัวคือ 

.

การเตรียมข้อมูลรายได้ที่ถูกต้องนั่นหมายถึงเรื่องของ จำนวน (รายได้) เงินได้ ต่อปี เพื่อให้เรารู้ว่าเรามีรายได้เท่าไร และ ประเภทของรายได้ ที่เราได้รับ เพื่อที่จะได้นำมายื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง

สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้รับสวัสดิการ ข้อมูลรายได้ที่ชัดเจน ที่มาของรายได้ รวมถึงการจ่ายเงินจากนายจ้าง จะช่วยได้รับสิทธิ์ผ่านการยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง 

สำหรับผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษี การรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องก็ยิ่งจำเป็น เพราะแสดงว่ารัฐเล็งเห็นความสำคัญของการเก็บข้อมูลมากขึ้นจากนโยบายที่ผ่านมา 

.

สรุปได้ว่า รัฐกำลังจะ “รู้จัก” รายได้และสภาพชีวิตของคนไทยมากขึ้น ถ้ามองในแง่ดีก็คือสามารถกำหนดสวัสดิการให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาค และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี 

---

◾️ประเด็นที่ต้องต้องรอพิจารณา 

ความเห็นของผมที่มีต่อนโยบายนี้มีอยู่ 3 เรื่อง

1. ถ้ารายได้ภาษีจัดเก็บไม่ถึงเป้า แต่ยังต้องจ่ายสวัสดิการจำนวนมาก อาจจะทำให้การคลังตึงตัว และถ้าต้องก่อหนี้เพิ่มเพื่อจ่ายสวัสดิการ อาจกระทบความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาวของประเทศได้ 

2. ความพร้อมของระบบและข้อมูลที่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง การคาดการณ์จำนวนผู้ได้รับสิทธิ รวมถึงการรั่วไหลของข้อมูลต่าง ๆ 

และที่สำคัญคือการตรวจสอบ "ผู้ที่อยู่นอกระบบ"
ให้ "เข้าสู่ระบบ" เพื่อเสียภาษีอย่างถูกต้อง

3. การบริหารแรงจูงใจในการทำงานของผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ (ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนรายได้ที่ใช้เป็นเกณฑ์) และการสื่อสารให้กับประชาชนผู้ที่เสียภาษีที่ต้องแบกรับภาระส่วนนี้เพิ่มขึ้น 

แต่ความเห็นของผมทั้งหมดนี้
ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งความเห็นเท่านั้นครับ 🙂

ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

10 สิ่งที่โคตรเสียเวลาชีวิต

1. เถียงเพื่อชนะคนที่ไม่อยากเข้าใจ เขาใช้พลังไปกับการอธิบายให้คนที่ไม่ตั้งใจฟังเข้าใจทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้อยากเข้าใจตั้งแต่แรกแล้...