วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

โชค = โอกาส x การเตรียมพร้อมสร้างจังหวะชีวิตที่แตกต่าง

โชค = โอกาส x การเตรียมพร้อม
สร้างจังหวะชีวิตที่แตกต่าง แม้เริ่มต้นจากจุดเดียวกัน
.
สรุป Session “Likable” ทักษะที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ในยุค AI โดยคุณโจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ (เจ้าของเพจ เขียนไว้ให้เธอ)ในงาน  CREATIVE TALK CONFERENCE 2025
.
คุณโจ้บอกว่าหลายคนใช้งาน AI เพื่อให้เสมอ หรือแย่หน่อยบางคนใช้ AI เป็นบางครั้งยังแพ้เลย แล้วคนอย่างเราถ้าจะอยู่รอดได้ มีอะไรที่ AI ไม่รู้ ซึ่งคือ AI ทำนายโชคไม่ได้ โชคที่เป็นโชคจริง ๆ เช่น ถ้าเราไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้าก็อาจจะไม่ได้เจอแฟน
.
🔵 โชค = โอกาส x การเตรียมพร้อม
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 การเตรียมพร้อมในยุค AI มี 4 อย่าง
.
🔹 I - อยากรู้อะไรต้องเก่งแบบทักษะเดียวเลย เชี่ยวชาญในอย่างเดียว แต่ความยากคือคนแบบนี้ AI จะมาแทนได้ง่ายมาก และคนเหล่านี้ เวลาอยู่ในบริษัท จะไม่ค่อยมีใครคบ เพราะบางคครั้งมีความรู้มากเกินไปจนเห็นข้อจำกัดเต็มไปหมด
🔹 T - เราควรจะรู้อย่างน้อยตัว T คือต้องรู้ทั้งลึกและกว้าง เช่นเป็นนักกฎหมายก็ต้องรู้บัญชีหรือการตลาดด้วย เวลาทำงานจริงเป็นทีม คนก็จะอยากทำงานกับเราด้วย
🔹 Y - ปัจจุบันคนต้องรู้ระดับลึก 2 เรื่องให้มันมาชนกันให้ได้ ต้องรู้อะไรเป๊ะ ๆ และรู้อะไรกลาง ๆ พอมารวมกันจะเกิดความคิดสร้างสรรค์ แต่มันไม่ง่าย ต้องใช้เวลา เช่น คุณโจ้เป็นนักธุรกิจที่เขียนหนังสือได้ หรือไอสไตน์คือนักไวโอลินที่รู้วิทยาศาสตร์นิดหน่อย พอรู้ 2 อย่างเลยทำให้เกิดการสร้างสรรค์ได้
🔹 X - เหมือน leadership คือเป็นสกิลที่ดึงคนมาอยู่ด้วยกันได้ เราจะทำงานกับใครก็ง่าย จะให้ใครมาช่วยก็ง่าย
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
คุณโจ้ยกเคสจากเพจ JapanSalaryman บอกว่าตอนที่ โชเฮ โอตานิ นักเบสบอลที่เก่งที่สุดในโลก เรียนอยู่ม.4 เขาได้ทำ Mandala chart เพื่อให้ดูว่าเขาต้องพัฒนาอะไรบ้าง อย่างอื่นก็เป็นเรื่องทั่วไป เช่น ความเร็ว แต่ข้อสุดท้ายคือเรื่อง “โชค” โดยวิธีที่ใช้เพิ่มโชคของเขา 8 อย่าง คือ ทักทายให้ดี, เก็บขยะ, ทำความสะอาดห้อง, วางตัวกับกรรมการให้ดี, อ่านหนังสือ, เป็นคนที่คนอื่นอยากเชียร์, คิดบวก, ใช้อุปกรณ์อย่างทะนุถนอม 
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 Curiosity - Discipline - Likable 
.
ยิ่งเราอยู่ในมือถือมากเท่าไหร่ อะไรก็จะดูง่าย เราก็จะไม่ได้รู้สึกอยากไปเปิดโลกอะไร  แต่ถ้าเราอยากได้สิ่งที่คนอื่นไม่มีต้องฝึกฝน และเราต้องออกไปเจอคนที่เรา Likability
.
คุณโจ้เล่าว่าเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมามี Shareholder Meeting ของ Warren Buffet มีคนรุ่นใหม่ถามเรื่องเคล็ดลับการประสบความสำเร็จ เขาพูดว่าคนที่ไปอยู่ด้วยสำคัญมาก เราจะเจริญก้าวหน้าได้เมื่อเราไปอยู่กับคนดี ๆ ที่ทำให้เราเป็น Better Person แต่คำถามคือคนเหล่านั้นเขาอยากอยู่กับเราไหม ดังนั้นถ้าอยากให้คนเหล่านั้นอยากอยู่กับเรา เราต้องเป็นคนที่ Likable 
.
ถ้าเราเริ่มงานกับคนที่โปรไฟล์เหมือนเราเลย จบที่เดียวกัน มีหัวหน้าคนเดียวกัน แต่ผ่านไป 10 ปี อาจจะไม่เหมือนกัน โชคอาจจะเป็นตัวกำหนดที่ทำให้ต่าง
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 นอกจากโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว ยังมีอะไรที่ทำให้คนต่างกันได้อีกบ้าง ?
.
คุณโจ้กล่าวว่าคนที่ไต่เต้าขึ้นมาเร็ว ๆ ต้องมี ‘กัลยาณมิตร’ 
ในที่ทำงาน นิยามคำว่านิสัยดีนั้นมี 4 ด้าน  คำว่านิสัยดี มันไม่เหมือนกันในแต่ละคน
🔹 หัวหน้า - อยากให้ทำงานสำเร็จไม่ใช่แค่เสร็จ
🔹 Mentor - ชอบคนที่กตัญญู คือไปมาหาสู่ พูดจาถึงเราในทางที่ดี 
🔹 เพื่อนร่วมงาน - ชอบคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือเรา 
🔹 ลูกน้อง - ชอบเจ้านายที่เป็นโค้ช ปรารถนาดี ไม่หลอกใช้เรา
.
นิสัยดีสำหรับแต่ละคนเลยไม่เหมือนกัน ดังนั้น Likability ของเรา จะต้องถูกตีความไปเรื่อย ๆ ตามคนรอบตัวของเรา
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
Cathie Woods บอกว่าที่เธอเติบโตมาได้เพราะเธอทำให้เจ้านายดูเด่น ดูดีได้ ส่วนเหว่ยเจี๋ยแห่ง Alibaba เป็นคนที่ถ้าถามคนจีน คนมักจะบอกว่าเขาเก่งที่สุด แต่จริง ๆ เขาบอกว่าเก่งเท่ากับเพื่อน แต่เขาทำให้หัวหน้าดูดี เขาเลยดูเก่งกว่าคนอื่น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะทั้งคู่เข้าใจเรื่อง Make your boss brilliant
.
ถ้าหัวหน้าจะรับคนซักคน ก็อยากรับคนที่มานั่งอยู่ด้วยกันแล้วโอเค ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนก็มีอิทธิพลมาก ๆ ในยุค AI
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 หัวหน้าที่ Likable คือหัวหน้าแบบไหน
Principle -> Tight - Loose - Tight  โดยนิยามคือ บอกชัดว่าจะทำอะไร (Tight) จะทำวิธีไหนก็ได้ (Loose) แต่ผลลัพธ์ที่ได้ต้องตรงตาม โจทย์ (Tight)
.
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ จะไม่ชอบให้บอสมายุ่งกับ How แต่จะชอบให้กำหนดเป้าให้ชัดเจนแล้วเดี๋ยวจะไปหาวิธีทำมาเอง
.
คุณโจ้กล่าวว่า Satya Nadella บอกว่าทีมของเขาต้อง Bring Clarity, Bring Energy และ Bring Success
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 ในการเป็น Partner กัน ต้องรู้จัก “ศิลปะแห่งการเสียเปรียบ”
.
คุณโจ้เล่าย้อนไปตอนที่เพิ่งเจอคุณตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ครั้งแรก โดยคุณตุ้มมาคุยงานครั้งแรกด้วยการช่วยคุณโจ้โดยการให้ Benefit กับคุณโจ้ก่อน หลังจากนั้นคุณโจ้จึงช่วยคุณตุ้ม ทั้งสองก็เกื้อกูลกันจนงานออกมาประสบความสำเร็จได้
.
Likability มีหลายบทบาท โดยคุณโจ้เล่าว่า คุณปัญญา Workpoint เป็นคนที่ทุกคนอยากสัมภาษณ์ด้วย เพราะเขาสามารถทำให้แขกทุกคนเฉิดฉายขึ้นมาบนเวทีได้
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
คนโจ้ยกเคสว่า คนที่ห่วยที่สุด และดีที่สุด ทั้งคู่ล้วนแต่เป็น Givers แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือ Givers ที่อยู่ในดง Givers คนที่พัง คือคนที่เป็น Givers แล้วไปอยู่ในดง Takers เราต้อง Define ให้ได้ว่าเราเป็นอะไรแล้วเราอยู่ในดงคนแบบไหน
.
วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ อะไรที่คนทำกับเราแล้วเราชอบ เราก็ทำต่อกับคนอื่น อะไรที่มีคนมาทำกับเราแล้วเราไม่ชอบ เราก็ไม่ควรไปทำกับคนอื่น
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 Likability จะได้มาโดยการเราต้องทำอะไรที่มากกว่าที่คนคาดหวังจนเขารู้สึกได้
.
🔹 Being Present - อยู่กับปัจจุบัน เวลาลูกน้องมาคุยด้วยก็ต้องวางโทรศัพท์และให้ความสำคัญกับเขา
🔹 Humble - ไม่มีคนชอบคนโอ้อวด 
🔹 Overdeliver - ทำอะไรที่มากกว่าที่คนอื่นคาดหวัง
🔹 One size fits one - เข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งก็คือ Empathy
.
คุณโจ้เล่าถึงเคสการทำงานวันแรก วันที่ทำงานวันแรกของเด็กใหม่ อาจจะเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของคนที่อยู่มานานแล้ว แต่สำหรับคนที่เพิ่งมาทำงาน มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะเขาไม่รู้จะต้องวางตัวอย่างไร ทำอะไรต่อ 
.
ในวันนั้นไม่มีใครพาคุณโจ้ไปทานข้าวเที่ยง และคุณโจ้ก็ไม่รู้ว่าต้องไปทานอาหารที่ไหน คุณโจ้จึงประทับใจในตัวรุ่นพี่ที่พาเขาไปกินข้าวในวันแรกที่พาเขาไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันครั้งแรกมาก
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 เทคนิคของผู้นำ
Nelson Mandela มีคนถามว่าเคล็ดลับการเป็นผู้นำของเขาคืออะไร เขาตอบว่าเขาทำตามพ่อของเขาที่เป็นหัวหน้าเผ่าเล็ก ๆ
- พ่อพาทุกคนไปประชุมที่โต๊ะกลม - ให้เกียรติทุกคนเท่ากัน
- พ่อเขาพูดคนสุดท้ายเสมอ - ต้องฟังทุกคน
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 โอคาเกะซามาเดะ - รู้สึกขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณที่เป็นร่มเงาให้แก่เรา คุณโจ้เล่าถึงอาจารย์เกตุวดี Marumura เล่าว่า เคยมีคุณยายมาขอบคุณอาจารย์เกตุที่มาอยู่ห้องข้าง ๆ ซึ่งอ.เกตุก็งงไม่รู้ขอบคุณอะไร แต่ก่อนนี้ห้องที่อาจารย์เกตุมาอยู่อาจเป็นคนส่งเสียงดัง คุณยายเลยมาขอบคุณอาจารย์เกตุ ที่ทำให้อยู่แบบสงบสุข สิ่งนี้คือการรู้สึกขอบคุณเช่นกัน
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵  ผู้ใหญ่ที่ไม่มี Ego ก็จะมี Likability
.
มีครั้งหนึ่งที่มีปัญหาในบริษัทจากน้องในทีมที่คุณโจ้ทำงานด้วย โดยน้องในทีมไม่ได้ตั้งใจทำ ในตอนนั้นคุณโจ้ได้รับสายจากหัวหน้าโทรมาให้ลงโทษน้องในทีมของคุณโจ้ แต่คุณโจ้ได้ขอให้หัวหน้าทำการตั้งทีมสอบสวนและตัดเงินเดือนตัวเองเพราะเขาดูแลลูกน้องไม่ดีพอ 
.
ปรากฏว่าผลคือหลังจากนั้น ทุกคนมองคุณโจ้ในมุมมองที่ดีขึ้นมาก และทำให้หลายคนอยากร่วมงานกับเขาจากการที่เขายืดอกออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทีมทำผิด
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
🔵 Humble ไม่ได้แปลว่าแค่อ่อนน้อมถ่อมตน แต่คือรู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรบ้าง
.
คุณโจ้ได้ยกเคสวันที่คุณ ป๊อด Modern Dog ได้เชิญน้องคนหนึ่งที่เป็นผู้ชมจากหน้าเวทีขึ้นมาตีกลอง  ตอนแรกน้องไม่มั่นใจว่าจะทำได้ไหม คุณป็อดก็ค่ออย ๆ พาให้น้องตีกลองเองได้ โดยเริ่มจากการตีทีละครั้ง ค่อย ๆ อยู่กับน้อง และให้น้องตีเร็วขึ้น จนสุดท้ายน้องก็สามารถตีได้และเล่นดนตรีไปพร้อม ๆ กับคุณป๊อดและวงได้ สำหรับเด็กคนนั้น วันนี้จะเป็นวันที่สามารถจุดประกายเขาได้ดีที่สุดในชีวิต ด้วยพลังหัวใจความเมตตาของคุณป๊อด นี่คือลักษณะที่ดีของการมี Likability
.
คนที่ Likable เป็นสิ่งที่คนอื่นต้องพูด ไม่ใช่พูดจากตัวเอง - สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดได้จากการทำสิ่งดี ๆ ให้คนอื่นโดยการใช้ เงิน เวลา ความทรง และคำขอบคุณ พอคนเราอายุเยอะขึ้นถึงจุดหนึ่ง เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ประสบการณ์และความทรงจำต่างหากที่เป็นสิ่งที่สำคัญ เอาเงิน เวลา ไปแลกกับคำขอบคุณ 
.
ต้องช่วยคนไปเรื่อย ๆ มีโอกาสก็ช่วย เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ 
“เวลาใครช่วยเราต้องจำ เวลาเราช่วยใครต้องลืม อย่าไปทวงบุญคุณ”
.
คุณโจ้บอกว่า เวลาเราโพสต์อะไรในโซเชียลมีเดียก็เหมือนกับขึ้นข้อความบนบิลบอร์ด ดังนั้นก่อนจะโพสต์อะไร อยากให้ใช้พื้นที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด มีประโยชน์ที่สุด กดปุ่มเมตตา และแชร์กรุณา  ชมคนด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะช่วงที่เค้าต้องการกำลังใจ 
.
“Likability is the new superpower.”
.
#Skooldio #CTC2025 #mindset #productivity #business

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

AI สำหรับ SMEs ปั้นธุรกิจพุ่งทะยาน แทนการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

คู่มือ AI สำหรับ SMEs ปั้นธุรกิจพุ่งทะยาน แทนการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง . AI จะเก่งกว่ามนุษย์ในทุกด้านภายใน 10-20 ปี และสำหรับงานหลาย...