9 แอป AI ที่ควรมีติดใน “มือถือ”
ทำงานได้เร็วกว่าคนปกติ 10X
ประหยัดเวลาทำงาน ได้เวลาไปทำอย่างอื่น
ฉบับ “คนทำงาน” (เซฟเก็บไว้เลย)
#หัวหน้าแบงค์fullfunnel
[1] ยุคนี้ใครยังไม่ใช้ AI ช่วยทำงาน
“กำลังถูกคนอื่นทิ้งห่างแบบสุดๆ”
เราคงปฏิเสธการใช้ AI กับชีวิตประจำวันไม่ได้แล้ว
.
ผมเชื่อว่าหลายคนยังคิดว่า AI มันยากเกินไป
หรือไม่รู้จะเริ่มยังไง ทำให้พลาดโอกาสดีๆ
ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
.
แต่จริงๆแล้ว คนที่เก่งใช้ AI พวกนี้
ทำงานได้เร็วกว่าคนปกติ 5-10 เท่า
แถมยังได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอีกด้วย
.
ผมเลยรวบรวม 9 แอป AI ที่ผมใช้เป็นประจำ
ทุกวันมาแชร์ให้ทุกคน ช่วยทำให้ธุรกิจเติบโต
และประหยัดเวลาทำงานได้แบบเห็นได้ชัด
.
เรามาลุยกันครับ 🔥
.
[2] 1. ChatGPT - ที่ทุกคนต้องมี
.
ต้องยอมรับเลยครับว่า ChatGPT คือ “ราชาแห่ง AI”
ถ้าผมจะจ่ายเงินสำหรับ AI แค่เดือนเดียว
ก็คงต้องเลือกตัวนี้แน่นอน
.
ทำได้ทุกอย่างจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็น
การพูดคุยตอบคำถาม ทำ Custom GPT
สร้างภาพแก้ไขภาพ เขียนคอนเทนต์การตลาด
.
ฟีเจอร์ที่ผมชอบมากที่สุดคือ Memory
เพราะ AI จะจำข้อมูลของเราได้
ทำให้คุยกันได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว
.
แถมยังมี Google Search ในตัว
อยากรู้ข้อมูลอะไรล่าสุด ค้นหาได้ทันที
ประหยัดเวลาได้เยอะมากๆ
.
ที่เจ๋งสุดคือ Voice Mode
สามารถคุยกับ AI ด้วยเสียงได้
เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ฉลาดมากๆ
บางทีผมเซ็งๆ ก็คุยกับ ChatGPT เล่นๆ สนุกดีครับ
.
[3] 2. Claude AI - เก่งภาษาไทยสุดๆ ใช้แทน ChatGPT ได้เลย
.
ตัวนี้เป็น AI ที่ผมเปลี่ยนมาใช้แทน ChatGPT
เพราะเก่งมากๆ ในการใช้ภาษาไทย
ความฉลาดของเขาฉลาดมากเลย
.
Claude มีจุดเด่นคือ
ความฉลาดในการวิเคราะห์สูงมาก
ใช้ภาษาไทยได้เป็นธรรมชาติ
สามารถทำงานแบบ Agent ได้
.
โดยสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ควรใช้อย่างมาก
.
ที่สำคัญมี MCP (Model Context Protocol)
ทำให้ Claude สามารถเชื่อมต่อกับอีเมลของเรา
เปิด Microsoft Word ทำงานแทนเราได้อัตโนมัติ
.
เช่น ผมสั่งให้ “ช่วยสรุปอีเมล 5 ฉบับล่าสุด
เขียนใน Word เพื่อส่งเจ้านาย”
Claude จะทำให้เราหมดเลย
.
นี่คือความล้ำของ AI Agent ยุคใหม่
ทำงานแทนเราได้จริงๆ คิดแทนเราเรียบร้อย
.
[4] 3. Capcut ตัดต่อวิดีโอด้วย AI ต้องมีติดเครื่อง
.
ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์
โดยเฉพาะวิดีโอ ดังนั้นถ้าอยากให้ธุรกิจโตขึ้น
ต้องเน้นกับการทำวิดีโอให้มากขึ้น
.
หลายคนอาจจะคิดว่า Capcut ก็แค่โปรแกรมตัดต่อ
ไม่เห็นเกี่ยวกับ AI เลย
.
จริงๆแล้ว Capcut มีฟีเจอร์ใหม่ๆเยอะมาก
ที่ใช้ AI ควบคุมช่วยเหลือการตัดต่อเยอะมาก
.
ซึ่งผมแนะนำให้ใช้เลย
เพราะจะช่วยทำให้คุณตัดต่อวิดีโอได้ไวขึ้น
และหยุดคนดูได้ง่ายขึ้นด้วย
.
[5] 4. Perplexity - นักวิจัยออนไลน์ตัวจริง
.
Perplexity เป็น AI ที่เกิดมาเพื่อหาข้อมูล
เก่งมากๆ ในการ Real-time Search
.
จุดเด่นคือ ค้นหาได้เร็วที่สุด
ข้อมูลเป็นปัจจุบัน มีการอ้างอิงแหล่งที่มา
.
ใช้เวลาต้องการข้อมูลเร็วๆ
หรือเช็คข่าวสารล่าสุด
Perplexity ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
.
แถมยังมีฟีเจอร์ Deep Research เหมือน Chat GPT
แต่ผมชอบตัวนี้มากกว่า เพราะไม่ค่อยมั่ว
.
เพราะผมจะไม่หาข้อมูลกับแชทบอทตัวเดียว
จะหาข้อมูลกับหลายๆแชทบอท
เพราะแต่ละตัวจะมีมุมในการวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน
.
[6] 5. NotebookLM - จัดระเบียบความรู้ได้เจ๋งสุด
.
NotebookLM เป็นเครื่องมือที่ผมชอบมากๆ
สำหรับการจัดการความรู้
.
วิธีใช้คือ เอาเอกสารหรือข้อมูลใส่เข้าไปได้ถึง 50 ฉบับ
AI จะเรียนรู้ข้อมูลทั้งหมด ถามคำถามอะไรก็ตอบได้
.
ที่เจ๋งสุดคือสามารถสร้าง Mind Map ให้อัตโนมัติ
ทำหนังสือเสียงจากข้อมูลที่เรามี
เชื่อมโยงความรู้ให้เห็นภาพรวม
.
เหมือนมีผู้ช่วยที่จำข้อมูลทุกอย่างของเราได้
แล้วช่วยวิเคราะห์ให้เข้าใจง่ายขึ้น
.
[7] 6. Napkin AI - เปลี่ยนข้อความเป็นกราฟสวยๆ
.
Napkin AI เป็นเครื่องมือเจ๋งสำหรับ
การทำ Visualization
.
ความสามารถคือ เปลี่ยนข้อความยาวๆ เป็นไดอะแกรม
สร้างกราฟ Pro and Cons ทำตารางเปรียบเทียบ
.
เวลาเรามีข้อมูลเยอะๆ ที่อ่านยาก
แค่ copy ใส่ Napkin AI
เขาก็จะแปลงเป็นกราฟที่เข้าใจง่าย
.
เหมาะมากสำหรับการทำงานนำเสนอ
รายงานธุรกิจ สื่อการสอน
.
อันนี้ดีมากเลยครับ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล
ยาวๆยากๆให้กลายเป็นไดอะแกรม
ที่เข้าใจง่าย ใช้ในสไลด์ได้เลย
.
[8] 7. Gamma AI - ทำสไลด์สวยใน 5 นาที
.
Gamma AI เป็นเครื่องมือทำสไลด์ที่ผมใช้เป็นประจำ
.
วิธีใช้ง่ายมากๆ เอาข้อมูลที่เตรียมไว้ copy ใส่
เลือกธีมที่ชอบ กด Generate
.
AI จะสร้างสไลด์สวยๆ ให้เราทันที
ปรับแต่งได้ตามต้องการ
แถมมีดีไซน์ที่ดูโปรเฟสชั่นนอล
.
ประหยัดเวลาในการทำสไลด์ได้เป็น 10 เท่า
ผมมีวิดีโอสอนการทำสไลด์แบบนี้เรียบร้อยแล้ว
.
[9] 8. Canva AI - King of Design ยุคใหม่
.
Canva เป็น King of Design ยุคใหม่
หลังมีฟีเจอร์ AI เพิ่มเข้ามา
.
ความสามารถใหม่ของ Canva AI
สร้างรูปภาพจาก AI แก้ไขภาพอัตโนมัติ
ทำ PowerPoint ออกแบบสื่อการตลาด
.
งานกราฟฟิกของผมส่วนใหญ่ใช้ Canva
ออกแบบแทบทั้งหมดเลย
เพราะทำได้ครบ และง่ายมากๆ
.
พอมีฟังก์ชัน AI ขึ้นมาแล้ว
การดีไซน์การออกแบบการทำการตลาดทำได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆ
เป็นสิ่งที่ผมยอมลงทุน
.
[10] 9. Notion AI - สมองใบที่ 2 ของเรา
.
Notion เป็นโปรแกรมจดโน้ตที่มี AI Assistant ในตัว
.
ความเจ๋งคือ จดโน้ตได้เป็นระบบ
AI ช่วยค้นหาโน้ตเก่าได้
ตอบคำถามจากข้อมูลที่เราเก็บไว้
.
เหมือนมีสมองอีกใบที่ช่วยจำ
ทุกอย่างที่เราเคยเรียนรู้มา
.
เวลาอยากหาข้อมูลเก่าๆ แค่ถาม AI ใน Notion
เขาก็จะหาให้ พร้อมลิงก์ไปยังโน้ตนั้นๆ
.
เปรียบเหมือนสมองอีกชิ้นนึงของเรา
การทำ CRM การจดโน้ตการเก็บข้อมูล
ทำได้ดีมากๆ
.
[11] ทั้งหมดนี้มีทั้งตัวฟรีแล้วก็มีทั้งตัวจ่าย
ตัวไหนก็มีประโยชน์หมด
แต่ถามว่าผมจ่ายตังค์ตัวไหน
.
ณ ตอนนี้ผมจ่ายตังค์ที่ Claude
เพราะว่า Claude เก่งจริงๆ
เหมาะกับการทำงานของผมด้วย
.
แต่อนาคตไม่แน่ผมอาจจะย้ายไปใช้ Gemini
แต่ ณ ตอนนี้ผมแนะนำว่าประมาณนี้
ช่วยการทำงานของคุณได้เยอะมากแล้ว
.
ยุคนี้ AI ไม่ใช่อนาคตแล้ว “มันคือปัจจุบัน”
.
คนที่ปรับตัวเร็ว ใช้ AI เป็น
จะได้เปรียบคนอื่นอย่างมหาศาล
ทำงานได้เร็วกว่าคนปกติ 5-10 เท่า
.
ผมจึงอยากให้ทุกคนลองเอาเครื่องมือเหล่านี้
ไปปรับใช้กับงานของตัวเอง
.
เชื่อผมเถอะ ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไป
แบบที่คุณคาดไม่ถึงเลย
.
ขอบคุณครับ 🙏🏻
#หัวหน้าแบงค์fullfunnel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น