หลวงปู่ : โยมไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะ แผ่นดินมันไหว..เขื่อนมันตั้งอยู่ที่ใด (ลูกศิษย์ : พื้นดินครับ) อ้าว..แล้วโยมคิดว่ามันมีผลกระทบหรือเปล่า (ลูกศิษย์ : มีครับ)
โยมจำไว้นะจ๊ะว่าเขื่อนที่มันยังอยู่นิ่งอยู่ได้ มันยังไม่มีผลกระทบมากเพราะอะไร ความสั่นสะเทือนมันยังไม่มากพอ เพราะว่าเค้าแค่เตือน แต่เมื่อถึงเวลามันถึงเวลาแล้ว..มันถึงเวลาของมัน คำว่าถึงเวลาของมัน..คืออะไร แรงสั่นสะเทือนมันเกิดจากรอยร้าว..เรียกว่าเปลือกโลก ถ้ามันร้าวมันมีระยะทางพอ มีความแรงพอ ทีนี้แหล่ะมันจะสั่นพร้อมๆกัน
คำว่าสั่นพร้อมๆกันเป็นยังไง คำว่าสั่นพร้อมๆกันคือสั่นนานและมีความแรง มีความถี่เกิดขึ้น เมื่อมีความแรงมีความถี่เกิดขึ้นบ่อยๆทีนี้..รอยปริแยกที่มันมีอยู่แล้ว รอยร้าวรอยปริแยกที่มีอยู่แล้ว..มันก็สามารถแตกหักได้ เข้าใจหรือเปล่า
โยมไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะ ยังไงสยามก็ไม่พ้นภัยอยู่แล้ว..คือภัยอะไร คือภัยจากธรรมชาติ แต่ว่าภัยสงครามเราจะสามารถพ้นได้ แต่ไอ้ภัยพิบัตินี่เราไม่สามารถพ้นได้ เพราะอะไร..เพราะมันยังมีบุคคลบาปอยู่อีกมากนั่นเอง เข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ คือยังไม่มีคนที่มีความเชื่อมั่นในเรื่องบุญเรื่องบาป เรื่องนรกเรื่องสวรรค์..
เมื่อมันเป็นอย่างนี้..บุคคลที่ว่ามันไม่มีความเชื่อ หรือว่าพวกอลัชชีหรือพวกยักษ์นอกศาสนา..มันมีความท้าทาย ทำยังไง..มันก็ต้องมีการกวาดล้างด้วยอำนาจแห่งกรรม เพราะอำนาจแห่งความยุติธรรมของโลกไม่สามารถไปกวาดล้างเหล่านี้ได้
เพราะในความยุติธรรมของศาลโลก..ก็ใครเล่าเป็นศาลของโลก ใช่จากมนุษย์หรือเปล่า (ลูกศิษย์ : ใช่ครับ) แล้วถ้ามนุษย์นั้นไม่ได้มีศีลมีธรรม..ชื่อว่ามันจะมีความเป็นธรรมมั้ย เมื่อไม่มีความเป็นธรรม..ไอ้สิ่งเหล่านี้ก็ต้องได้รับกรรมเช่นเดียวกัน เพราะเหตุนี้เอง..วิบากกรรมมันถึงจะได้บังเกิดขึ้น เรียกว่าโลกมันกำลังชำระล้าง เข้าใจหรือเปล่า
อะไรที่มันสกปรกมาก มีความหนักหน่วงมากของโลกใบนี้ โลกก็ต้องปรับสมดุล เหมือนอุปมาเหมือนบุคคล..ถึงเวลาแล้วถ้าบุคคลมันมีภัยมาถึงตัว เค้าจะต้องเอาตัวรอดหรือเปล่า ให้เปรียบเสมือนตัวเราเอง เข้าใจหรือเปล่า มันก็สลัดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะเอาตัวให้รอด โลกใบนี้ก็เหมือนกัน อ้าว..โลกมันมีอายุของมัน สังขารของมนุษย์ก็มีอายุ กรรมก็มีอายุความ..
แล้วกรรมอะไรก็ตามที่มันถึงแล้ว มันให้ผลแล้ว ถึงเวลานั้นมันก็รวมกันเป็นกำลังมาก..ก็ไม่มีอะไรไปต้านทานมันได้ เข้าใจหรือเปล่า มันไม่ได้เกิดจากแผ่นดินไหวอย่างเดียว มันยังเกิดจากปรมาณู หรือเรียกว่ายักษ์หินที่ถูกสาป..ก็คือเรียกว่าภูเขาไฟ
ภูเขาไฟระเบิดทีหนึ่ง โยมรู้หรือเปล่ามันก็เหมือนปรมาณูหลายๆลูกมารวมกัน มันก็มีแรงสั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟที่อยู่บนพื้นดิน ภูเขาไฟที่อยู่ใต้น้ำ..นี่แหล่ะที่จะเป็นเหตุทำให้เกิดภัยพิบัติใหญ่
แล้วถามว่าเราไปห้ามมันได้หรือเปล่า..ห้ามไม่ได้ แต่สถานที่มันจะมีความหนักเบาไม่เท่ากันนั่นเอง เข้าใจหรือเปล่า นั้นสยามนี้เป็นดินแดนแห่งพระอริยเจ้าอริยสงฆ์ แห่งพระโพธิสัตว์ แม้แต่พวกโยมเองก็มาเจริญภาวนาในศีลสมาธิปัญญา ตัวนี้แลมันช่วยประคับประคองช่วยพยุง..ให้หนักเป็นเบาได้ เข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ
ดังนั้นฉันจึงบอกว่าที่คำว่า..สยามจะมีภัย คำว่าสยามมีภัยจุดใจกลางของสยามอยู่ที่ใด อยู่ที่บางกอกเมืองหลวง ใช่หรือเปล่า นี่แหล่ะคือหัวใจสำคัญที่มันจะตัดประธาน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่เมืองหลวงใช่หรือเปล่า นี่แหล่ะ..ทุกอย่างมันจะเพ่งเล็งไปอยู่ที่เมืองหลวง เป็นทั้งภัยพิบัติแล้วก็ภัยสงครามของการเมือง..รวมอยู่ในนั้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นภัยอะไรก็ตาม เมื่อมันถึงที่ของมันแล้ว..นั่นเรียกว่ามันต้องรับกรรม เมื่อเรามีคนบาป มีอลัชชี มีความไม่เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย มีความเหลื่อมล้ำ มีความบิดเบือนล่วงเกินในศีลในธรรมกันแล้ว มันก็เป็นของธรรมดา..
ดังนั้นขอให้โยมรู้ไว้ว่า..ตั้งแต่ที่ฉันเคยบอกว่าโลกนี้จะไม่เหมือนเดิมแล้ว ก็ให้เรานั้นมีความเตรียมตัว มีความเตรียมใจ เตรียมตัวเตรียมใจคืออะไร..ให้เตรียมตัวตาย อย่างที่ฉันบอกว่าอย่าได้ประมาท นั้นเมื่อเราเตรียมตัวเตรียมใจตายแล้ว..มันเป็นอย่างไร จิตเราก็จะไม่มีความกังวลเพราะห่วงอะไรมาก เข้าใจหรือเปล่า
แต่ความเป็นจริงมนุษย์นั้นไม่สามารถวางอารมณ์ได้เป็นของธรรมดา จิตที่มีความห่วง..บางคนก็ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่มีความยึดมั่นถือมั่นอยู่ แล้วถ้าเรายังมีความห่วง..เราต้องทำอย่างไร ทำใจให้มันได้เสียก่อน ถ้าทำใจได้เดี๋ยวมันจะค่อยๆปล่อยของมันเอง ถ้าทำใจไม่ได้..ไม่มีทางที่จะปล่อยได้
นั้นเมื่อภัยมันจะเกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว อย่างที่บอก..๓ สิ่ง ๓ สัญญาณที่ฉันเคยบอกไปคืออะไร หนึ่ง..ชัยภูมิที่ตั้ง ใช่หรือเปล่า แสดงว่าเมืองหลวงต้องเปลี่ยนชัยภูมิ..ใช่หรือเปล่า ไม่ได้แปลว่าให้ไปอยู่ชัยภูมินะ คำว่าชัยภูมิคือที่ตั้งที่ทำเล สอง..คือตัวบุคคล เข้าใจหรือเปล่า สาม..คือสัญลักษณ์ สัญลักษณ์นี้แลมันคือกุญแจอย่างหนึ่ง มันคือตัวแปรอย่างหนึ่ง เค้าเรียกว่าสัญลักษณ์ของคุณพระรัตนตรัย คุณแห่งความดี เข้าใจหรือเปล่า
นั้นเมื่อเรายังไม่เข้าถึงคุณพระรัตนตรัยหรือยังไม่มั่นคงก็ตาม เราต้องมีสัญลักษณ์ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เรียกว่าเป็นวัตถุมงคลเป็นสิ่งใดก็ตาม ฉันไม่ได้ให้โยมไปงมงาย แต่มันเรียกว่าความเชื่อความศรัทธา ใครบุคคลใดเชื่อสิ่งใดศรัทธาในสิ่งใด..ปาฏิหาริย์ก็บังเกิดในสิ่งนั้นได้ เข้าใจหรือเปล่า
นั้นครั้นเมื่อถึงเวลาแล้ว เวลาถึงครบรอบในการฉลองวิหารพระประธานหลังนี้ เราก็จะมีการแจกจ่ายพระพุทธพิมพ์..ใช่หรือเปล่า แสดงว่ามันถึงเวลาแล้ว..ใช่หรือไม่ ให้กับลูกกับหลาน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธพิมพ์ที่ท่านสมเด็จโตได้เคยสร้างมาไว้ในอดีตก็ตาม..มันก็จะผุดขึ้นมา พอมันผุดขึ้นมาแล้ว..มันเป็นยังไง เมื่อมันมีมากแล้ว..เป็นยังไง มันมีราคาหรือเปล่าตอนนี้..มันก็มีราคาถูกใช่หรือเปล่า
เมื่อมันมีราคาถูกแล้ว..มันก็เข้าถึงบุคคลที่มีศรัทธาที่สามารถศรัทธาเอามาบูชาได้ ใช่หรือเปล่า นั้นไม่ว่าพุทธพิมพ์อะไรที่ท่านสมเด็จโตเคยทำไว้ก็ตาม..มันจะกลับมา เพื่ออะไร..เพื่อมายังสงเคราะห์โลก สงเคราะห์สังสารวัฏ..วัฏสงสารนี้แล ที่มนุษย์ทั้งหลายมันยังมีความกลัวอยู่ ที่มนุษย์ที่ยังไม่เข้าถึงความดีเข้าถึงศีลเข้าถึงธรรม..
แต่ไม่มีใครหรอกจ้ะที่อยากจะเป็นคนชั่วคนเลว เพราะเค้ายังมีวิบากกรรม เข้าใจหรือเปล่า..นี่แหล่ะ แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้ที่เค้ายังมีศรัทธา..แต่ศรัทธาเค้ายังไม่มีกำลังมาก ก็ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ คือวัตถุหรือตัวแปรตรงนี้แลใน ๓ สิ่งอย่างนี้ เพื่อเอามาคุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย..เพื่อจะเข้าไปสู่ในยุคใหม่
ดังนั้นแล้วการจะไปสู่ยุคใหม่..อุปมาเหมือนไปอยู่เกาะใหม่ อยู่ที่ใหม่ อยู่ภพใหม่ ก็ขอให้โยมได้สดับตั้งใจฟังให้ดี..ว่าภพใหม่ที่ใหม่มันเป็นอย่างไร คือถ้าโยมรอดตายได้..โยมก็จะได้ไปอยู่ที่ใหม่ เข้าใจหรือเปล่า แต่ถ้าโยมรอดตายไม่ได้..โยมก็จะไปอยู่ที่เก่า ที่ๆเราเคยเกิดมา ทีนี้ถ้าจิตเรายังไม่ถึงในกระแสพระรัตนตรัยแล้ว..มันมีความกลัวหรือเปล่า เมื่อยังมีความกลัวก็ต้องกลับไปอยู่ที่เก่าของเรา ที่จิตยังมีความหดหู่มีความเศร้าหมองเหล่านี้
แต่เราดีอย่างหรือเปล่าที่ท่านได้มองการณ์ไว้ข้างหน้าว่า..เมื่อจิตบุคคลใดที่ยังไม่เข้าถึงในกระแสพระรัตนตรัย ยังไม่เข้าถึงความตั้งมั่นในคุณงามความดีทั้งหลายในมรรคผลอะไรก็ตาม ท่านก็เลยให้มีการสร้างองค์พระปฏิมากร ใช่หรือเปล่า หรือสร้างทานกุศลบารมีที่จะรองรับได้ว่าลูกหลานท่านนั้นจะไม่ไปลงในอบายภูมิ เข้าใจหรือเปล่า
แล้วก็ยังสร้างฐานภูมิจิตภูมิธรรมในพระกรรมฐาน ให้เกิดในศีลสมาธิปัญญาไว้อีก..เป็นอีกแรงหนึ่ง เพื่อสามารถเชื่อมั่นถือมั่นได้การันตีได้ว่าจิตเหล่านั้นจะหลุดพ้นได้ จึงสร้างท่าเรือเป็นเรือขึ้นมาเพื่อรองรับ เข้าใจหรือเปล่า แต่จะหลุดพ้นไปยังไงแล้ว ยังไงบุญกุศลตรงนั้นก็จะเหนี่ยวนำกลับมาให้เข้ามาสู่ในเรือลำนี้ เพื่อมาเก็บเกี่ยวดวงจิตวิญญาณพันธุ์พืชตรงนี้ เข้าใจหรือเปล่า
เทศนาธรรมกรรมฐาน วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๘
มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
บ้านโปร่งวิเชียร อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี
(**ธรรมทานนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ในการเผยแพร่เพื่อให้ตระหนักรู้ในภัยพิบัติและภัยแห่งวัฏสงสาร เพื่อให้มีสติและไม่ประมาทในการใช้ชีวิต)
ติดตามข้อมูลข่าวสารกิจกรรมของมูลนิธิได้ทาง https://www.facebook.com/mprs.foundation
ติดตาม คลิปธรรมะได้ทาง YouTube channel : ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต
"๓ สัญญาณในยุคโลกธาตุแปรปรวน" https://youtu.be/vw1LXBTz1KI
"ยุคแห่งจักรพรรดิ" https://youtu.be/wR5sf1DWz3Y
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น