10 อาชีพเสี่ยง “พายุเลิกจ้าง” ในปี 2025 ขาเก้าอี้สั่นแล้ว!
ในปี 2025 และอนาคตอันใกล้ หลายบริษัทเริ่มลดพนักงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้หลายคนตกงาน การเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบการทำงานอัตโนมัติ ไม่ใช่แค่เรื่องในอนาคตอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานอย่างรวดเร็ว งานบางประเภทที่เคยมั่นคงกลับมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่หรือหดตัวอย่างมาก
ในบริบทนี้ การคาดการณ์ถึงอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงจากการพัฒนา AI เป็นเรื่องสำคัญทั้งสำหรับแรงงานและธุรกิจ มีข้อมูลที่ถูกแชร์โดย “คีแรน กิลเมอร์เรย์” (Kieran Gilmurray) ผู้อำนวยการ AI สร้างสรรค์ (Creative AI Director) คนแรกของโลก และได้รับรางวัลระดับโลกมากถึง 10 ครั้ง ถึงอาชีพที่เสี่ยงต่อพายุเลิกจ้างงาน
10 อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด
1.พนักงานป้อนข้อมูลและจัดการข้อมูล - งานนี้มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะ AI สามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
2. พนักงานบริการลูกค้า - เนื่องจาก AI เช่น chatbot สามารถจัดการคำขอทั่วไปได้แทนที่มนุษย์
3. คนงานในสายการผลิตและประกอบ - การใช้หุ่นยนต์ในสายการผลิต ทำให้แรงงานมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที
4. อาชีพด้านขนส่งและโลจิสติกส์ - ยานยนต์อัตโนมัติอาจแทนที่งานขับรถ เช่น งานขับรถบรรทุก
5. พนักงานขาย - พบว่าการค้าออนไลน์และระบบ AI ที่แนะนำสินค้าเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมค้าปลีก
6. นักวิจัยการตลาด - เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
7. บรรณาธิการและนักแปล - แม้ว่า AI สามารถแปลและแก้ไขได้บ้าง แต่ปัจจุบันเนื้อหาที่ต้องการความละเอียดยังต้องการมนุษย์
8. รังสีแพทย์ (Radiologist) - เช่น หมอผู้วินิจฉัย X-ray และเทคนิคการวินิจฉัย เพราะ AI สามารถวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ได้ด้วยความแม่นยำสูง
9. นักวิเคราะห์การเงิน - งานวิเคราะห์การเงินบางอย่างสามารถถูกแทนที่ด้วย AI
10. นักบัญชีและพนักงานบันทึกบัญชี - เนื่องจากซอฟต์แวร์บัญชีอัตโนมัติสามารถทำงานบางอย่างแทนที่มนุษย์ได้
อาชีพที่มีความเสี่ยงต่ำ
1. งานที่อาศัยความคิดสร้างสรรค์ เช่น ศิลปิน นักเขียน นักดนตรี และนักออกแบบ
2. บุคลากรด้านการแพทย์ เช่น แพทย์ และพยาบาล
3. ครูและผู้สอน เนื่องจากต้องอาศัยทักษะการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะทางสังคมของมนุษย์
4. พนักงานสังคมสงเคราะห์และงานด้านที่ปรึกษา เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการอารมณ์และความเข้าใจในมนุษย์
5. ช่างมืออาชีพ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา และช่างไม้
6. ผู้นำองค์กรและนักยุทธศาสตร์ เนื่องจากต้องอาศัยการตัดสินใจและการสร้างกลยุทธ์ในระดับสูง
ที่มา www.sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น