Shopee พยายามพาคน ที่น่าจะซื้อจริง ไปหาสินค้าที่ เกี่ยวข้อง + คาดว่าจะปิดการขายได้
ใครลงสินค้าไปนานแล้ว และขายไม่ได้ก็ต้องรีบแก้ปัญหา เพราะมันอาจจะหายไปจากการนำส่งแล้ว
แหล่งทราฟฟิกเกิดที่
Search, Category, Feed/Personalization, Video/Live, แคมเปญ, หน้าแบรนด์, Affiliate
ตัวชี้วัดความเกี่ยวข้อง
ชื่อสินค้า, หมวดหมู่, แอททริบิวต์, คีย์เวิร์ด, แท็ก (ต้องตรงกับพฤติกรรมค้นหา)
บัญชีใคร บัญชีมัน นำส่งไม่เหมือนกัน
Engagement
CTR (อัตราคลิก), Add to Cart, Favorite/กดถูกใจ, Watch time (Video/Live), Dwell time (เวลาอยู่หน้า)
Predicted Conversion
ประวัติการปิดการขายของลิสต์นั้น ๆ, ราคา/ค่าส่ง/เวลาถึงมือ
Seller Quality
คะแนนร้าน, เรตติ้ง, อัตรายกเลิก/คืน, ความเร็วตอบแชท/ออเดอร์
วัดscore ภาพรวมกันไปเลย
การลงมือทำ
1.ทำ SEO รายการสินค้า ให้ครบ ทั้งชื่อ+คีย์เวิร์ด Long-tail, หมวดถูกต้อง, แอททริบิวต์เต็ม, คำค้น Synonym แต่ต้องระวัง ละเอียดไปก็เท่านั้น เพราะบางคีย์เวิร์ดมันอาจเสี่ยงโดนละเมิดได้ ยิ่งกลุ่มอาหารเสริม
2.ทำรูปปกให้เข้าตรีม Official + จุดขาย 1–2 จุด) ไม่ต้องเยอะ ยิ่งเยอะยิ่งไม่ชัด
3.ทำการลง Video/Live สม่ำเสมอเพื่อปั๊ม Watch time/CTR (ฝั่ง Live ให้ดันจำนวนผู้เข้าชม,CCU,PCU) แต่ตะกร้าฝั่งร้านค้า มันติดจอเล็กอยู่แล้ว ให้ใช้ Live Ads และ Coinเข้ามาช่วยเพิ่มการมองเห็น
4.ทำ เซ็ต/บันเดิล เพื่อเพิ่ม AOV ทางระบบจะคาดการณ์ Conversion ดีขึ้น
2. ชั้นคุณภาพของสินค้า (Listing Quality Layer)
รายการที่ “ครบ–ชัด–น่าเชื่อถือ” จะได้คะแนนคุณภาพสูงและถูกดันบ่อย
ตอนลงสินค้า เขาก็จะบอกให้ชัดเจนเป็นข้อๆให้ทำให้ครบ
ตัวชี้วัด
1.ความครบถ้วน (Completeness)
รูป 5–9 ภาพ, วิดีโอ 1ชิ้น(รวมถึงลงวิดีโอ ปักตะกร้าหน้าช่องด้วย), รายละเอียด/สเปก, คู่มือ/How-to
2.รูป/วิดีโอคุณภาพ
คมชัด, อ่านได้ใน 1 วิ, มี Lifestyle + Before/After
3.ราคา/ค่าส่ง แข่งขันได้
เทียบราคาคู่แข่งใกล้เคียง, มีโปรบันเดิล/คูปองเฉพาะสินค้า
4.สต็อกพร้อม
มีของต่อเนื่อง (Out-of-stock บ่อย = คะแนนคุณภาพตก)
การลงมือทำ
1.ทำโครงคำอธิบาย 5 บล็อก
1.)ใครใช้ 2.)แก้ปัญหาอะไร 3.)วิธีใช้ 4.)ผลลัพธ์/รีวิว 5.)การรับประกัน/เปลี่ยนคืน
2.ใส่ Q&A สำคัญ ไว้ในคำอธิบายเพื่อลดแชทซ้ำ ๆ
3.ตั้ง Variant/Size/Color ให้ครบ ลดการออกลิสต์ซ้ำที่โดนมองว่า spam
3. ชั้นการปิดการขาย (Conversion Layer)
ระบบจะดันตะกร้าที่ “พอมีคนเห็นแล้วซื้อจริง”
ตัวแปรหลัก ก็คือ อัตราการซื้อ
แต่ละหมวดหมู่ ก็แข่งขันแตกต่างกัน ยากง่ายต่างกัน
ตัวชี้วัด
1.Add to Cart Rate / Buy-Now Rate
2.Conversion Rate หน้าสินค้า (จากเข้าชม แล้วไป ซื้อ)
3.Trust Signals
ปริมาณ/ความสดของรีวิว, รูป/วิดีโอจากลูกค้า, คะแนน 4.7+ ขึ้นไป
4.ความคุ้มค่า (ความคุ้มค้าของลูกค้าแต่ละคน ไม่เท่ากัน)
ราคา/คูปอง/ค่าส่ง/ETA ถึงมือ
การลงมือทำ
1.แปะจุดเด่น/ข้อเสนอเดียวชัด ๆ ในรูปปก (เช่น “นำเข้าจากอเมริกา”)
2.ทำคูปอง Personalization (เฉพาะคนกดถูกใจ/ใส่ตะกร้าแล้วไม่จ่าย)
3.UGC Strategy
ขอรีวิวพร้อมรูป/คลิป 7–10 วันหลังได้รับของ, มี Thank-you card + QR รีวิว
4.Bundle/Add on deal ให้ราคาสุทธิชนะคู่แข่งในสายตาลูกค้า
4. ชั้นระบบปฏิบัติการร้าน (Operations Layer)
อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มรักร้านค้าที่ “นิ่ง เสถียร ส่งไว ปัญหาน้อย”
ตรงนี้คือ การจัดกาาหลังบ้าน เลยครับ
สเกลไม่ได้ ถ้าหลังบ้านไม่พร้อม
ตัวชี้วัดหลัก
1.Ship-on-time / Handling Time
2.Cancellation Rate (โดยผู้ขาย) / Return & Refund Rate
3.Late Shipment / Failed Pickup
4.Chat Response (ความเร็ว+อัตราตอบกลับ)
5.Order Defect Rate / ข้อร้องเรียน
วัดผลง่ายๆไปทำให้ครบเกณฑ์ขอร้านแนะนำได้เลย วัดผลKPI ทีมงานได้ชัดเจนมากๆ
การลงมือทำ
1.กำหนด SLA แพ็ก/ส่ง ที่เผื่อจริง จัดการหลังบ้านให้พร้อม
2.ทำ SOP การจัดการคำสั่งซื้อให้ละเอียด
1.)รับออเดอร์ 2.)ตรวจสต็อก 3.)แพ็ก 4.)QC 5.)ติดบาร์โค้ด 5.)นัดรับ/Dropoff 6.)อัปเลข 7.)Follow-up
3.แยก ทีม CRM กับ ทีมแพ็ก ชัดเจน, ตั้ง KPI: ตอบแชท ≤ 3 นาที, ยกเลิกโดยร้าน < 1%
4.มี แผนสำรองสต็อก/ขนส่ง (ช่วงแคมเปญ/หน้าฝน/ปลายเดือน)
5. ชั้นประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Layer)
Shopee อยากให้ลูกค้า “กลับมาซื้อซ้ำ” ร้านที่ทำได้จะถูกดัน ถ้าสังเกตดีๆ หลังบ้านจะมีข้อมูลเก็บในส่วนของฐานลูกค้าเก่าในช่วง 1 ปี(365 วัน)
ตัวชี้วัด
1.Repeat Purchase Rate / LTV
2.Shop Rating / CSAT (ความพึงพอใจหลังการขาย)
3.Resolution Speed (ปิดเคสเร็ว)
4.Followers Growth / การสื่อสารกับลูกค้าประจำ
ระบบก็จะนำส่งร้านที่เคยซื้อ ให้เห็นง่ายขึ้น ในวันที่ลูกค้ากลับมาค้นหา สิ่งที่อยากได้ใหม่
ลงมือทำ
1.ระบบ CRM 7–30–60 วัน: ขอบคุณ ,แล้วแนะนำวิธีใช้/ทริก,แนะนำสินค้าเสริม
2.สร้าง กลุ่ม Line/FB VIP + คูปองเฉพาะสมาชิก
3.บริหาร แพ็กเกจของแถมเล็ก ที่คนจำ (seed ความประทับใจ)
4.บรอสแคสในShopee ก็ดี แต่ทำบ่อย ลูกค้าบล้อคง่ายกว่าการเกิดยอดขาย
6. ชั้น “ความใสกริ๊งของร้าน555” (Risk & Policy Layer)
ความเสี่ยง = ตัวลดการมองเห็น
สิ่งที่โดนบ่อย คือ การละเมิดนโยบายสินค้า
ยิ่งกลุ่มอาหารเสริม โดนบ่อยมาก พยายามรักษาตะกร้าให้อยู่รอดแบบยาวๆ
ตัวชี้วัด
1.Penalty/Violation Points, คำเตือนเรื่องคำเคลมเกินจริง, ลิสต์ซ้ำ, รูปผิดกฎ
2.IP/ลิขสิทธิ์, การกำหนดราคาผิดปกติ
การลงมือทำ
1.ทำ Policy Checklist (คำห้าม, คำเคลมสุขภาพ/ความงาม, รูปมีตรา/โลโก้)
2.รวมลิสต์ซ้ำเข้า Variant เดียว, ตรวจรูป/คำโฆษณาก่อนปล่อย
3.ทำ Log การยื่นอุทธรณ์ และสรุปบทเรียนให้ทีม
7) ชั้นโปรโมชัน & แคมเปญ (Promotion Layer)
ระบบชอบร้านที่ “ร่วมมือ” กับกลยุทธ์ของแพลตฟอร์ม ไม่เข้าร่วมก็คือ พวกนอกรีต
ตัวชี้วัด
1.การเข้าร่วมแคมเปญ DD/MM/PD,
2.คูปองร้าน, Coins Cashback, Free Shipping หรือพวกXtra ทั้งหลาย
3.Badge/สถานะร้าน (ร้านแนะนำ/Preferred/Mall หากเข้าเกณฑ์) หรือจะเป็นร้านค้า Mall
การลงมือทำ
1.วางปฏิทินโปรฯ รายไตรมาส (ก่อน–ระหว่าง–หลังแคมเปญ)
2.สร้าง คูปองแบบขั้นบันได (ขั้นต่ำ X / ลด Y) ผูกกับเซ็ตที่มาร์จิ้นดี
3.ใช้ โปรเฉพาะกลุ่ม (คนกดถูกใจ, คนเคยซื้อ)
8.ชั้นอัตราเร่งการโตของยอดขาย (Momentum Layer)
“ยอดวันนี้ + แนวโน้ม” ส่งผลต่อการดันพรุ่งนี้
ตัวชี้วัด
1.Velocity (ยอดขาย/รีวิว/คนเข้าชมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง)
2.New Arrival Boost (ช่วงลงสินค้าเข้ามาใหม่แรก ๆ)
3.Restock Boost (ของที่หมดแล้วกลับมา)
4.Seasonality/เทรนด์ เอาสินค้ากระแสมาดันได้
การลงมือทำ
1.วาง แผนเปิดตัว/รีสต็อก ให้มีคลิป/รีวิว/คูปองออกพร้อมกัน 7–10 วันแรก
2.ทำ ไมโคร-แคมเปญรายสัปดาห์ สร้างกราฟพุ่ง (ไม่ใช่พีกแล้วแบน)
3.ยิงAds เพื่อเพิ่มการเข้าชม สำหรับ ROAS จะได้ตามเป้าหรือไม่ ต้องมีการวัดผล
4.Live/Video อย่างต่อเนื่อง
5.เข้าแคมเปญและโปรแกรมที่เสนอจากทาง Platform
6.การโปรโมทจากนอกแพลตฟอร์ม
ทั้งหมด ตั้งเป้าไปที่การเพิ่มการเข้าชมเป็นหลัก
แต่ต้องระวังเรื่องโครงสร้างราคาให้ชัด เสี่ยงขาดทุนได้
9. ชั้นโลจิสติกส์ & โลเคชั่นคลัง (Logistics/Geo Layer)
ส่งไว–ค่าส่งคุ้ม–พื้นที่ครอบคลุม = เพิ่มโอกาสปิด
ตัวชี้วัด
1.พื้นที่จัดส่งครอบคลุม, ETA ชัด, ค่าส่งแข่งขัน, อัตรา “รับพัสดุสำเร็จ”
2.ค่าจัดส่งที่แพง ลูกค้าตัดสินใจซื้อยาก
ค่าจัดส่งถูก ลูกค้าซื้อง่าย ก็ระวังโดนชาร์จกลับ
การลงมือทำ
1.เทียบ ช่องทางขนส่ง ที่เร็ว/คุ้มในแต่ละภูมิภาค location คลังมาผลต่อการซื้อ
2.ใช้ Free Shipping แบบควบคุมต้นทุน (ตั้งขั้นต่ำตาม AOV)
3.เข้าร่วม Free shipping Xtra เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนลดค่าจัดส่ง
10. ชั้นเครือข่ายช่วยขาย (Affiliate/External Layer)
ทราฟฟิกคุณภาพจากภายนอก = สัญญาณบวก
Shopee ชอบมากๆ ที่มีคนพาลูกค้า เข้ามาในแอปเขาเยอะๆ
ตัวชี้วัด
1.ค่าcommission ให้ Affiliate/Influencer,
2.คุณภาพผู้ชมจาก Social แต่ถ้าเน้นเก็บคลิก เอาคุ้กกี้ก็ย่อมได้ มันมีโมเดลทำรายได้เพิ่มจากนายหน้า
การลงมือทำ
1.เปิด คอมมิชชัน/ครีเอทีฟ ที่พร้อมหยิบ, ให้ UTM/Deep Link + Brief สั้น ๆ
2.ทำ หน้าแคตตาล็อคสำหรับแนะนำ (สินค้าคู่–เซ็ตกำไรดี)
3.ทางร้านยิง CPAS เอง นำคนเข้าจากfaceเข้ามา
4.ทำทีม affiliate เพื่อโปรโมทสินค้าตัวเอง และ หาค่าคอมเพิ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น