[1] ทำไมต้องใช้ Framework กับ AI
ปัญหาใหญ่ของคนที่ใช้ Gemini เขียนคอนเทนต์
คือยังไม่รู้จัก “Framework” ที่ถูกต้อง
.
ผลลัพธ์คือ AI เขียนออกมาแบบจืดชืด
ไม่มีอารมณ์ ไม่มีจุดขาย ลูกค้าไม่หยุดดู
แถมไม่ซื้ออีกด้วย
.
แต่ถ้าคุณรู้จัก Framework การเขียนคอนเทนต์
แล้วสั่ง AI ให้ทำตาม
ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก
.
เพราะ Framework คือ “สูตรสำเร็จ”
ที่นักการตลาดมืออาชีพใช้กันมาหลายสิบปี
.
แล้วตอนนี้เราเอามาผสมกับพลัง AI
จะได้คอนเทนต์ที่ทรงพลังมากขึ้น
.
ผมจะเล่า 9 Framework ที่ผมใช้จริง
พร้อมคำสั่ง AI ที่ใช้ได้เลยทันที
.
ลุยกันครับ
[2] 1.AIDA เทพเจ้าแห่งการขายที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์
.
Framework นี้คือ “คลาสสิคที่ไม่มีวันตาย”
ทำงานได้ดีที่สุดกับสินค้าใหม่ โฆษณา วิดีโอขายของ
.
A = Attention (ดึงดูดความสนใจ)
I = Interest (สร้างความสนใจ)
D = Desire (ปลุกความอยาก)
A = Action (ชวนให้ลงมือ)
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ขายสินค้า [ชื่อสินค้า] ตาม Framework AIDA
- Attention: เปิดด้วยคำถามหรือประโยคที่ช็อค
- Interest: ใส่ข้อมูลหรือสถิติน่าสนใจ
- Desire: เล่าประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
- Action: ปิดด้วยการเรียกร้องให้ลงมือ
สไตล์: [กำหนดสไตล์ที่ต้องการ]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: คอลลาเจน)
“ผิวหมอง โทรม เหมือนอดนอนตลอดเวลา?
งานวิจัยชี้ว่า คอลลาเจนจากปลา
ดูดซึมได้ดีกว่า 1.5 เท่า
ตัวนี้มีคอลลาเจน 10,000 mg พร้อมไฮยารูลอนและวิตามินซี
ลองเลยวันนี้ที่ลิงก์ด้านล่าง หรือสั่งที่ตะกร้าได้เลย 🛒”
.
เคล็ดลับ AIDA ใช้ได้ดีกับสินค้า mass ที่ลูกค้าคุ้นเคย
และต้องการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเร็ว
[3] 2.PAS - อาวุธลับสำหรับสินค้าแก้ปัญหา
.
PAS คือ Framework ที่โหดที่สุด
เพราะเหมือนไปจิ้มจุดเจ็บขยี้ปัญหา
ของลูกค้าโดยตรง
.
P = Problem (ปัญหา)
A = Agitate (ขยายความเจ็บปวด)
S = Solution (เสนอทางออก)
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ตาม Framework PAS สำหรับ
[สินค้า/บริการ]
- Problem: เริ่มด้วยปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายเจอ
- Agitate: ขยายผลกระทบของปัญหานั้น ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
- Solution: เสนอสินค้า/บริการเป็นทางออก
เน้นอารมณ์และความเจ็บปวดของลูกค้า
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (บริการ: คอร์สยิงแอด)
“ยิงแอดเท่าไหร่…ก็ไม่มียอดกลับมา 😭
เสียเงินหลักหมื่น แต่ยอดขายกลับเท่าศูนย์
เงินลงทุนใกล้หมด ธุรกิจก็กำลังจะปิดตัว
คอร์สนี้สอนตั้งแต่แก้แอดไม่วิ่ง → ไปจนถึงเทคนิค GMV Max แบบจับมือทำ”
.
เคล็ดลับ PAS ใช้ดีกับสินค้าแก้ปัญหาเฉพาะ
เช่น ผิวพัง, ยอดขายตก, ระบบเสีย
แต่ระวังอย่าใช้มากเกินไป เพราะลูกค้าจะรู้สึกถูกกดดัน
[4] 3.FAB - เหมาะสำหรับสินค้าเทคนิค
.
FAB คือ Framework ที่เน้นการอธิบายสินค้า
แบบชัดเจน เป็นระบบ
.
F = Feature (จุดเด่น)
A = Advantage (ข้อได้เปรียบ)
B = Benefit (ประโยชน์ที่ได้รับ)
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ตาม Framework FAB สำหรับ [สินค้า]
- Feature: บอกจุดเด่นเชิงเทคนิคของสินค้า
- Advantage: อธิบายว่าจุดเด่นนี้ดีกว่าคู่แข่งอย่างไร
- Benefit: แปลงเป็นประโยชน์ที่ลูกค้าจะรู้สึกได้จริง
ใช้ภาษาง่าย ไม่เทคนิคเกินไป
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: เครื่องดื่มบำรุง)
“มีวิตามิน B12 ความเข้มข้นสูง (Feature)
ช่วยเพิ่มสมาธิและลดอาการเหนื่อยล้า (Advantage)
ดื่มตอนบ่าย = ทำงานยาวจนเลิก ไม่ง่วง ไม่เบลอ (Benefit)”
.
เคล็ดลับ FAB เหมาะกับ
Gadget, อาหารเสริม, สกินแคร์
ที่มีจุดเด่นเชิงเทคนิคชัดเจน
[5] 4.Before-After-Bridge
พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต
.
Framework นี้ทรงพลังมาก
เพราะมันเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัด
.
คำสั่ง AI
.
เขียนเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงตาม Framework Before-After-Bridge
- Before: อธิบายสถานการณ์เดิมที่ไม่ดี
- After: บรรยายสถานการณ์ใหม่ที่ดีขึ้น
- Bridge: อธิบายว่า [สินค้า/บริการ] เป็นตัวเชื่อมการเปลี่ยนแปลง
เน้นความแตกต่างให้เห็นชัดเจน
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (บริการ: คอร์สลดน้ำหนัก)
“Before: ตอนก่อนเริ่มโปรแกรม น้ำหนักไม่ลงเลย
ทั้งที่อดข้าวจนปวดท้อง 😞
After: ตอนนี้ -8 โลใน 2 เดือน
แบบไม่โยโย่ กินอิ่มทุกมื้อ 😊
Bridge: เรามีสูตรเฉพาะที่ปรับเมนูตามพฤติกรรมคุณ ไม่หักโหม ไม่ผันผวน”
.
เคล็ดลับ ใช้ดีกับรีวิว, Case Study
โฆษณา Before/After
แต่ต้องมีข้อมูลจริงมาสนับสนุน
[6] 5. Hook-Value-Proof-CTA - ราชาแห่งคลิปสั้น
.
Framework นี้ออกแบบมาสำหรับยุคสมาธิสั้น
ทำงานได้ดีมากบนคลิปสั้น โซเชียล
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์แบบ Hook-Value-Proof-CTA
สำหรับ [สินค้า]
- Hook: ประโยคเปิดที่ดึงดูดภายใน 3 วินาที
- Value: บอกคุณค่าหรือประโยชน์หลัก
- Proof: ใส่หลักฐานหรือเครดิต
- CTA: เรียกร้องให้ลงมือชัดเจน
เหมาะสำหรับ [แพลตฟอร์ม: TikTok/Instagram/Facebook]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: เซรั่มหน้าใส)
“Hook: ผิวใสใน 7 วันจริงเหรอ? 🤔
Value: ด้วยวิตามิน C เข้มข้นจากญี่ปุ่น
Proof: ดูรีวิวจากลูกค้า 10,000 คนที่กลับมาซื้อซ้ำ ⭐⭐⭐⭐⭐
CTA: ลองเลยวันนี้ โปรแถมฟรีจัดส่ง 🚚”
.
เคล็ดลับ Hook ต้องแรงพอดึงดูดใน 3 วินาทีแรก
เพราะคนจะเลื่อนผ่านไปเร็วมาก
[7] 6.Problem-Myth-Truth-Offer
แก้ความเข้าใจผิดลูกค้า
.
Framework นี้เจ๋งมาก
เพราะมันแก้ความเชื่อผิดของลูกค้าก่อน แล้วค่อยขาย
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ตาม Framework Problem-Myth-Truth-Offer
- Problem: เริ่มด้วยปัญหาที่ลูกค้าเจอ
- Myth: บอกความเชื่อผิดที่คนส่วนใหญ่มี
- Truth: เปิดเผยความจริงที่ถูกต้อง
- Offer: เสนอสินค้า/บริการที่แก้ปัญหาถูกวิธี
สำหรับ [สินค้า] กลุ่มเป้าหมาย [กลุ่มลูกค้า]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: คอลลาเจน)
“Problem: กินคอลลาเจนแล้วไม่เห็นผล?
Myth: หลายคนเชื่อว่ากินเวลาไหนก็ได้
Truth: จริง ๆ ต้องกินตอนท้องว่างถึงจะดูดซึมได้ดีที่สุด
Offer: เรามีสูตรที่ออกฤทธิ์เร็ว ดูดซึมไวกว่า 2 เท่า”
.
เคล็ดลับ ใช้ดีกับสินค้าที่คนมักมีความเข้าใจผิด
เช่น อาหารเสริม, คอร์สเรียน, เครื่องสำอาง
[8] 7.Why-What-How-Now - ครบทุกมุมมอง
.
Framework นี้ครอบคลุมทุกอย่าง
ตั้งแต่แรงจูงใจ วิธีการ ไปจนถึงการกระตุ้นให้ลงมือ
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ตาม Framework
Why-What-How-Now
- Why: อธิบายเหตุผลว่าทำไมลูกค้าต้องการสิ่งนี้
- What: บอกว่าสินค้า/บริการคืออะไร
- How: อธิบายวิธีการทำงานหรือกระบวนการ
- Now: กระตุ้นให้ลงมือทันที
สำหรับ [สินค้า/บริการ] ราคา [ระดับราคา]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (บริการ คอร์สสอน ChatGPT)
“Why: เพราะคุณกำลังเสียเวลากับงานที่ AI ทำแทนได้
What: คอร์สนี้สอนใช้ ChatGPT แบบเจาะลึกงานธุรกิจ
How: เน้นฝึกพร้อมทำจริง พร้อม Template ใช้งานทันที
Now: สมัครรอบนี้ เหลือที่นั่งเพียง 5 คนเท่านั้น ⏰”
.
เคล็ดลับ Why-What-How-Now
เหมาะกับบริการ, คอร์ส, สินค้าราคาแรง
ที่ลูกค้าต้องใช้เวลาคิดก่อนตัดสินใจ
[9] Framework 8: Story-Shift-Solution
พลังแห่งการเล่าเรื่องคือที่สุด
.
การเล่าเรื่องคือหัวใจของการตลาดยุคนี้
Framework นี้จะทำให้คอนเทนต์ดูเป็นธรรมชาติ
.
คำสั่ง AI
.
เขียนเรื่องราวตาม Framework Story-Shift-Solution
- Story: เล่าประสบการณ์หรือเหตุการณ์จริง
- Shift: จุดเปลี่ยนหรือการตระหนักรู้
- Solution: นำเสนอสินค้า/บริการเป็นทางออก
ใช้ภาษาสบายๆ เหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง
สำหรับ [สินค้า] ในมุมมอง [บุคคลที่ 1/3]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: วิตามินบำรุงผิว)
“เมื่อก่อนฉันไม่เคยเชื่อเรื่องคอลลาเจน
คิดว่าเป็นแค่การตลาด
แต่พอไปตรวจค่าสุขภาพผิว
เห็นตัวเลขตกต่ำกว่ามาตรฐาน
เลยลองกินตัวนี้ต่อเนื่อง 30 วัน
ผลลัพธ์มันพิสูจน์ได้เลยค่ะ ✨”
.
เคล็ดลับ Story-Shift-Solution
ทุกคอนเทนต์ต้องเล่าให้มีเรื่องราว
เพื่อให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมไปกับคอนเทนต์นั้น
.
ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกอะไรสักอย่าง
แล้วคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นกัน
ยิ่งประสบความสำเร็จ
[10] 9.Insight-Trigger-Action - จิตวิทยาเชิงลึก
.
Framework สุดท้ายนี้เจาะลึกไปถึงจิตใจลูกค้า
ใช้ความรู้สึกในใจลึกๆ มากระตุ้นการซื้อ
.
คำสั่ง AI
.
เขียนคอนเทนต์ตาม Framework
Insight-Trigger-Action
- Insight: เจาะความรู้สึกลึกๆ ที่ลูกค้ามีแต่ไม่เคยพูดออกมา
- Trigger: กระตุ้นด้วยสถานการณ์หรือความกดดันจากสังคม
- Action: เชื่อมโยงไปสู่การลงมือทำ
เน้นอารมณ์และความรู้สึก สำหรับ [สินค้า emotional]
.
ตัวอย่างผลลัพธ์ (สินค้า: คอร์สดูแลตัวเอง)
“Insight: บางวันคุณก็อยากดูดีขึ้น…แม้แค่เดินออกจากบ้าน
Trigger: เพราะคนรอบตัวเริ่มพูดว่า ‘ทำไมโทรมจังช่วงนี้?’
Action: เริ่มบำรุงตัวเองจากข้างใน ด้วยโปรแกรมนี้เลย 💪”
.
เคล็ดลับ Insight-Trigger-Action
ใช้ดีกับสินค้า emotional
ให้ลูกค้ามีอารมณ์มากกว่าเหตุผล
เช่น ความงาม, ไลฟ์สไตล์, การพัฒนาตัวเอง
[11] เคล็ดลับการใช้ Framework กับ AI ให้ได้ผลสูงสุด
.
1.ใส่ข้อมูลสินค้าให้ครบ
ยิ่งรายละเอียดเยอะ AI จะเขียนได้แม่นยำมากขึ้น
.
2.กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
บอก AI ว่าเขียนให้ใครอ่าน จะได้โทนเสียงที่เหมาะสม
.
3.ใส่ตัวอย่าง ส่งตัวอย่างคอนเทนต์ที่ชอบ
ให้ AI ดู เพื่อเรียนรู้สไตล์
.
4.ทดลองหลาย Framework สินค้าเดียวกันใช้ Framework ต่างกันได้ผลต่างกัน
.
5.ปรับแต่งผลลัพธ์
AI ให้คำตอบมาแล้ว
ปรับคำศัพท์หรือโทนเสียงให้เข้ากับแบรนด์
[12] เชื่อผมเถอะ การรู้จัก Framework พวกนี้
จะทำให้คุณเขียนคอนเทนต์ได้เร็วขึ้น 10 เท่า
แถมขายได้ดีกว่าเดิมอีกหลายเท่า
.
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ลงมือทำ”
อย่าเก็บความรู้ไว้อ่านอย่างเดียว
ไปทดลองใช้กับสินค้าของคุณเลยวันนี้
.
เริ่มจาก Framework ง่ายๆ อย่าง AIDA ก่อน
พอชินแล้วค่อยลองของอื่น
รับรองว่าใน 1 สัปดาห์
คุณจะเขียนคอนเทนต์ได้เหมือนมือโปร
.
AI + Framework + ตัวตนของคุณที่เข้าใจลูกค้า
= คอนเทนต์ขายดี
.
แค่นี้คุณก็มี Copy Writer มืออาชีพ
ที่เป็นพนักงานคอยช่วยส่วนตัวแล้ว
.
ขอบคุณครับ 🙏🏻
.ที่มา
#หัวหน้าแบงค์fullfunnel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น