.
องค์การอนามัยโลก มีข้อมูลพบว่า 75-90% ของคนป่วยที่เข้ารับการรักษาเป็นผลมาจากความเครียดทางจิตใจและอารมณ์ แต่ดร.โจ ดิสเปนซา นักประสาทวิทยาและนักวิจัยระดับโลก ได้ค้นพบวิธีการที่สามารถรักษาทั้งร่างกายและจิตใจได้โดยไม่ต้องใช้ยาใดๆ
.
ซึ่งจากข้อมูลการวิจัยมากกว่า 20 ปี และผู้เข้าร่วมกิจกรรมนับล้านคนทั่วโลก ดร.ดิสเปนซา พิสูจน์แล้วว่าระบบประสาทของมนุษย์สามารถผลิตสารเคมีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพดีกว่ายาทุกชนิด โดยได้อธิบายไว้ว่าเมื่อเราประสบเหตุการณ์เจ็บปวด เช่น การถูกทรยศ การสูญเสีย หรือการบาดเจ็บ อารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นจะทำให้สมองจับภาพและเก็บความทรงจำนั้นไว้ แต่ปัญหาคือทุกครั้งที่เราคิดถึงเหตุการณ์เหล่านั้น ร่างกายจะผลิตสารเคมีเดียวกับตอนที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง
.
“ร่างกายไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเหตุการณ์ไหนเป็นของจริง เหตุการณ์ไหนเป็นแค่ความคิด” เขาเล่าว่า “ดังนั้นคนๆ หนึ่งอาจกลับไปสัมผัสความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าวันละ 50-100 ครั้ง โดยที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว”
.
สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนเหล่านี้กลายเป็น “ติดยาเสพติดทางอารมณ์” พวกเขาต้องการสิ่งเร้าภายนอก เช่น งานที่แย่ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี หรือแม้กระทั่งข่าวร้าย เพื่อให้ได้รับสารเคมีที่คุ้นเคย แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำร้ายพวกเขาก็ตาม
.
วิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากอดีตคือการ “ก้าวข้ามอารมณ์” ไม่ใช่การย้อนกลับไปวิเคราะห์เหตุการณ์ในอดีต เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้สมองยิ่งไม่สมดุลมากขึ้น
.
แทนที่จะให้คนป่วยไปขุดคุ้ยอดีต เขาสอนให้พวกเขาเปลี่ยนจากอารมณ์ลบ เช่น ความกลัว ความขุ่นเคือง ความแค้น ไปสู่อารมณ์บวก เช่น ความกตัญญู ความรัก ความเมตตา เมื่อหัวใจเริ่มเปิดกว้างและเข้าสู่จังหวะที่สมดุล หัวใจจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่า “ความเจ็บปวดจบแล้ว”.
.
ดร.ดิสเปนซา เล่าว่า ในช่วงเวลานั้น พวกเขามักจะบอกว่ารู้สึกเหมือนหัวใจระเบิด หัวใจเปิดกว้างออกไป ทันทีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ร่างกายจะกลับเข้าสู่ปัจจุบันทันที ความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และอารมณ์แปรปรวนต่างๆ จะหายไป”
.
ดร.ดิสเปนซา พัฒนาระบบ 5 ขั้นตอนที่ช่วยให้คนเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวร โดยไม่ต้องพึ่งพายาหรือการบำบัดแบบเดิม
.
1. ขั้นตอนแรกคือการตระหนักรู้ เราต้องสังเกตพฤติกรรม ความเชื่อ และอารมณ์ที่ไม่ดีของเราจนกระทั่งไม่อยากทำซ้ำอีก การเพิ่มความตระหนักรู้ทำได้โดยการฝึกสมาธิ การนั่งสมาธิจะช่วยให้เราจับได้ว่าเมื่อไหร่ที่เราหลงลืมตัว และเมื่อไหร่ที่เราตื่นตัว
.
2. ขั้นตอนที่สองคือการวางแผนตัวตนใหม่ เราต้องคิดว่าเราต้องการเป็นใครในอนาคต และจะต้องเปลี่ยนอะไรบ้างเพื่อไปถึงจุดนั้น นี่คือการสร้างความเชื่อใหม่และทิ้งความเชื่อเก่าที่ขัดขวางเรา
.
3. ขั้นตอนที่สามคือการฝึกอารมณ์ในอนาคต แทนที่จะรอให้เหตุการณ์ดีๆ เกิดขึ้นแล้วจึงมีความสุข เราต้องฝึกรู้สึกถึงอารมณ์ของความสำเร็จก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง การฝึกนี้จะทำให้ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยา
.
4. ขั้นตอนที่สี่คือการสร้างความสอดคล้องระหว่างสมองและหัวใจ เมื่อคลื่นสมองและจังหวะการเต้นของหัวใจเข้าสู่ความสมดุล ร่างกายจะเข้าสู่สถานะที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และเยียวยา
.
5. ขั้นตอนสุดท้ายคือการเข้าสู่สนามควอนตัม การปล่อยวางอัตลักษณ์เก่า เวลา สถานที่ และกลายเป็นจิตสำนึกล้วนๆ ในช่วงเวลานี้ เราสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลและพลังงานที่อยู่เหนือความรู้สึก 5 ประการ
.
ผลการวิจัยของดร.ดิสเปนซา แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 7 วันของเขามีการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน 50% โดยไม่ต้องเปลี่ยนอาหารการกิน cและที่น่าทึ่งที่สุดคือการค้นพบว่าผู้เข้าร่วมเกือบ 80% มีการแสดงออกของยีนและการผลิตโปรตีนแบบเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าเมื่อคนหลายคนปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน จะเกิดสิ่งที่ส่งผลต่อชีววิทยาของทุกคน
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น