วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568

มุมมอง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ต่อธุรกิจเครือข่าย /โดย ลงทุนแมน

มุมมอง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ต่อธุรกิจเครือข่าย /โดย ลงทุนแมน 
ช่วงนี้ กระแสธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM กลับมาเป็นดรามาอีกครั้ง บนโลกโซเชียล
โดยมีคนจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น
ทั้งแง่ลบเชิงเสียดสีเกี่ยวกับธุรกิจประเภทนี้ และแง่บวก
บ้างก็บอกว่า “ขายฝันมากกว่าขายของจริง” 
บ้างก็บอกว่า “สินค้าราคาแพงเกินจริง” 
บ้างก็บอกว่า “รายได้ไม่แน่นอน กระทบความสัมพันธ์”

แต่ก็มีอีกฝ่ายที่บอกว่า “ได้รายได้เสริม ได้เรียนรู้ทักษะใหม่”

ซึ่งนักลงทุนระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เคยให้มุมมองต่อธุรกิจเครือข่าย ด้วยเช่นกัน

แล้วเขามีความคิดเห็นว่าอย่างไร ? 
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

คุณอยากมีรายได้เสริมไหม ?
คุณอยากมี Passive Income หรือเปล่า ?
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับประโยคเหล่านี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า นี่คือประโยคชวนคนไปขายตรง 

ซึ่งส่วนใหญ่คนที่พูดประโยคแบบนี้ก็คือเพื่อนหรือคนรู้จักใกล้ตัวเรา

แม้ว่าหลาย ๆ คนจะมีประสบการณ์กับธุรกิจขายตรงแตกต่างกัน ทั้งที่ชอบและไม่ชอบ

แต่รู้หรือไม่ว่า อันที่จริงแล้ว การขายตรง ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ และมีมายาวนานไม่ต่ำกว่า 5,000 ปี ซึ่งนานพอ ๆ กับอารยธรรมมนุษย์

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าธุรกิจ “ขายตรง (Direct Selling)” และ “ธุรกิจเครือข่าย (MLM)” นั้นไม่เหมือนกัน

ขายตรง (Direct Selling) หมายถึง การขายแบบตัวต่อตัว ระหว่างผู้ขายและลูกค้า โดยเป็นการขายที่ไม่มีร้านค้า หรือสถานที่ประกอบกิจการที่ชัดเจน เช่น นักขายที่ไปนำเสนอสินค้าถึงบ้าน

ส่วนธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM (Multi-Level Marketing) 
อธิบายง่าย ๆ คือ การขายตรง + การสร้างทีมขาย และได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายของเครือข่าย 

ซึ่งในโลกจริง MLM มักถูกตั้งคำถามว่า รายได้เกิดจากการขายสินค้าให้ผู้บริโภคจริง หรือเกิดจากการชวนคนมาซื้อสินค้าและสมัครสมาชิกเพิ่มกันแน่

ทีนี้เราลองมาดูมุมมองของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กันบ้าง ว่าเขามีมุมมองอย่างไร เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย (MLM) 

วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่า ต้องแยกให้ออกระหว่างธุรกิจ MLM ที่ถูกกฎหมาย กับแชร์ลูกโซ่ (Pyramid Scheme)  

โดยมีหลักคิดง่าย ๆ ในการดูคือ

ธุรกิจขายตรง MLM ที่ถูกต้องหรือถูกกฎหมายนั้น มักจะมีลักษณะ
- ขายสินค้าให้ผู้บริโภคจริง ๆ ที่ต้องการใช้ 
- สินค้ามีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล 
- รายได้หลักมาจากการขายสินค้า ไม่ใช่การชวนคน

แต่แชร์ลูกโซ่ 
- เน้นให้ตัวแทนซื้อสินค้าจำนวนมาก 
- สินค้าไม่ได้ขายต่อให้ลูกค้าจริง 
- รายได้หลักมาจากการชวนคนเข้าร่วม 

นอกจากนี้ ชาร์ลี มังเกอร์ อดีตคู่หูของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังให้มุมมองว่า 

“ถ้าธุรกิจเน้นชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายมากกว่าขายสินค้าให้คนใช้จริง นั่นมักจะเป็นการหลอกลวง และเป็นการขายฝันมากกว่า” 

สรุปแล้ว ธุรกิจเครือข่าย กับ แชร์ลูกโซ่ มีความแตกต่างกันในหลายจุด โดยเฉพาะแหล่งทำเงิน ว่าหลัก ๆ มาจากการขายสินค้า หรือว่ามาจากการชวนคนเข้ามาในเครือข่าย 

หลักคิดนี้ช่วยให้เราแยกได้ว่า โอกาสทางธุรกิจจริง ๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของสินค้า และลูกค้าจริง ไม่ใช่ขายความฝัน

ถึงแม้หลายคนจะมองธุรกิจขายตรง หรือ MLM ว่าเป็นการขายฝัน แต่ถ้ามองให้รอบด้าน ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง เช่น

1. โอกาสสร้างรายได้เสริม
สำหรับใครที่อยากมีรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินเดือน ธุรกิจขายตรง หรือ MLM เปิดโอกาสให้เริ่มได้โดยไม่ต้องใช้ทุนสูง 

แต่ต้องจำไว้ว่า รายได้ไม่ได้มาง่าย ๆ ต้องใช้ความพยายาม

2. ฝึกทักษะการขาย และสื่อสาร
การพบปะลูกค้า และอธิบายสินค้า ช่วยให้เราได้ฝึก การสื่อสาร การเจรจา และการโน้มน้าวใจ ซึ่งเป็นทักษะที่ใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และงานอื่น ๆ

3. ความยืดหยุ่นด้านเวลาและสถานที่
นักขายไม่จำเป็นต้องอยู่ในออฟฟิศ ทำให้สามารถเลือกเวลาและสถานที่ทำงานเอง เหมาะกับคนที่ต้องการอิสระ แต่ก็ต้องมีวินัย ไม่ใช่ทำตามใจตัวเองทั้งหมด

4. เรียนรู้เรื่องธุรกิจและการตลาด
MLM ช่วยให้เข้าใจเรื่อง การจัดการเครือข่าย การวางแผนการตลาด และการสร้างทีม ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่นำไปต่อยอดในธุรกิจอื่นได้

และทุกวันนี้ก็ยังมีธุรกิจอีกมาก ที่เราสามารถใช้คำว่าขายตรงได้ อย่างเช่น ตัวแทนประกัน หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการความเป็นมืออาชีพเพื่ออธิบายข้อมูลให้ลูกค้า

สุดท้ายนี้ 
ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร สิ่งสำคัญคือ 
“ต้องคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ” 
ว่าสิ่งนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ ?

ทุกวงการมีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ล้มเหลว เหมือนรูปทรงพีระมิด ที่คนที่อยู่ด้านบนจะมีไม่มาก หรือเพียงหยิบมือเดียว

ซึ่งตัวเราเองคือคนที่จะต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของเรา และไม่มีใครช่วยให้เรารวยหรือประสบความสำเร็จได้

อีกทั้งสิ่งที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และชาร์ลี มังเกอร์ ได้สอนเราก็คือ ให้แยกธุรกิจจริง ออกจากธุรกิจที่หลอกลวง

ถ้าสินค้ามีคุณค่า และขายลูกค้าได้จริง ก็ถือเป็นโมเดลธุรกิจหนึ่ง 

แต่ถ้ารายได้เกิดจากการขายฝัน หรือการชวนคนมาดูดเงิน โดยไม่สนใจผู้บริโภคปลายทาง แบบนั้นก็ไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

🚀 เมื่อ AI พบกับอวกาศ… และ NVIDIA มอบ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดพกพา” ให้ Elon Musk ด้วยตัวเอง!

🚀 เมื่อ AI พบกับอวกาศ… และ NVIDIA มอบ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดพกพา” ให้ Elon Musk ด้วยตัวเอง! ภาพนี้โคตรเหนือจริง — Jensen Huang...