.
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผยผลการศึกษาที่ทำให้หลายคนตกใจ พวกเขาพบว่าประสิทธิภาพสมองเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 24 ปี ไม่ใช่ 50 หรือ 60 ปีอย่างที่หลายคนเข้าใจ นั่นหมายความว่าคุณควรเริ่มดูแลสมองตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่รอจนแก่
.
ดร.ซันจัย กุปตา หมอผ่าตัดสมองชื่อดัง ได้รวบรวมงานวิจัยและประสบการณ์กว่า 30 ปี เขียนไว้ในหนังสือ “Keep Sharp” เขาเล่าว่าสมองไม่ใช่อวัยวะที่เสื่อมไปตามอายุอย่างที่เราคิด แต่เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูและแข็งแกร่งได้ตลอดชีวิต หากเรารู้วิธีดูแลที่ถูกต้อง
.
เรื่องจริงที่พิสูจน์ว่าสมองรักษาตัวเองได้
.
ปี 1848 ฟินีส เกจ คนงานก่อสร้างอายุ 25 ปี ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เหล็กเส้นใหญ่เสียบทะลุแก้มซ้ายออกมาทางศีรษะ ทำลายสมองส่วนหน้า แต่เขาไม่เสียชีวิต เดินไปโรงพยาบาลได้เอง และไม่รู้สึกเจ็บปวด
.
สิ่งที่เขาสูญเสียคือตาซ้ายและบุคลิกภาพ จากคนสุภาพเปลี่ยนเป็นคนขี้โมโห แต่ประหลาดใจที่ก่อนเสียชีวิตในอายุ 36 ปี บุคลิกของเขากลับมาเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม เรื่องราวนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าสมองสามารถ “ซ่อมแซม” และสร้างเส้นประสาทใหม่ได้ ซึ่งเรียกว่า Neuroplasticity
.
นี่หมายความว่าแม้คุณจะอายุมากแล้ว ยังสามารถสร้างเซลล์สมองใหม่ได้เหมือนคนหนุ่มสาว ไม่ต้องยอมรับให้สมองอ่อนแอไปตามอายุ
.
ความเชื่อผิดๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ
.
หลายคนเชื่อว่าเราใช้สมองแค่ 10% แต่ความจริงคือเราใช้สมองเกือบทั้งหมด เพราะสมองกินพลังงานถึง 20% ของร่างกาย วิวัฒนาการจึงไม่มีทางปล่อยให้มีส่วนที่ไม่ใช้งาน
.
ยังมีความเชื่อว่าสมองซีกซ้ายและขวาทำงานแยกกัน ผู้ชายเก่งคณิตศาสตร์ ผู้หญิงเก่งด้านอารมณ์ หรือไขว้คำศัพท์ช่วยบริหารสมอง แต่งานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตำนาน
.
ที่สำคัญที่สุด หลายคนคิดว่าความเสื่อมสมองเป็นเรื่องปกติของวัยชรา แต่ความจริงคือสมองเสื่อมป้องกันได้ หากดูแลอย่างถูกวิธี
.
5 เทคนิคที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้สมองแกร่ง
.
เทคนิคแรกคือ การออกกำลังกาย ดร.กุปตาบอกว่านี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลสมอง แค่สัปดาห์ละ 150 นาที หรือวันละ 30 นาที 5 วัน การไม่ออกกำลังกายอันตรายกว่าโรคอ้วนถึง 2 เท่า เพราะการออกกำลังกายช่วยให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์ประสาท
.
เทคนิคที่สองคือ การนอนหลับ สมองต้องการการพักผ่อน 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะขณะนอนสมองจะทำความสะอาดตัวเอง กำจัดสารพิษที่สะสมระหว่างวัน หากนอนแค่ 6 ชั่วโมง ประสิทธิภาพในวันถัดไปจะลดลง 1 ใน 3
.
เทคนิคที่สามคือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภาษาใหม่ ทักษะใหม่ หรือแม้แต่การเล่นเกม การท้าทายสมองด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ช่วยสร้างเส้นประสาทและเพิ่มความยืดหยุ่นของสมอง งานวิจัยพบว่าผู้ที่พูดได้หลายภาษามีอัตราเสื่อมสมองช้ากว่าคนอื่น
.
เทคนิคที่สี่คือ การเลือกกิน หลีกเลี่ยงน้ำตาล ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพิ่มโอเมก้า 3 จากปลาและถั่ว ลดปริมาณอาหาร และวางแผนมื้ออาหารล่วงหน้า
.
เทคนิคสุดท้ายคือ การมีความสัมพันธ์ที่ดี ดร.กุปตาเล่าว่าคนที่โดดเดี่ยวมีปัญหาสุขภาพจิตและร่างกายมากกว่าคนที่มีเพื่อนฝูง การรู้สึกเหงากระตุ้นสมองในบริเวณเดียวกับความเจ็บปวดทางกาย
.
สมองที่แข็งแกร่งคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
.
ในโลกที่ข้อมูลเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สมองที่แข็งแกร่งคือเครื่องมือสำคัญที่สุดในการแข่งขัน 5 เทคนิคง่ายๆ นี้ไม่ใช่แค่การป้องกันโรค แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่จะทำให้คุณมีชีวิตที่มีคุณภาพจนวันสุดท้าย
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น