วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568

7 สิ่งที่ได้เรียนรู้ จากทริป China Executive Business Trip: History Meet Future 2024



นำทริปโดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน สุดยอดนักประวัติศาสตร์และนักเล่าเรื่องชื่อดัง ผู้ที่มองจีนในแง่ของประวัติศาสตร์และการพัฒนาอารยธรรม 
กับการเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์และ 5 บริษัทที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก ณ เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เมื่อเดือนกันยายน 2024

1. 📈 จีนเติบโตเป็นเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกในเวลาไม่ถึง 50 ปี

ความสำเร็จของจีนมาจากการที่รัฐบาลเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจร การส่งเสริมเทคโนโลยีและการลงทุนด้าน R&D อย่างเข้มข้น การปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจแบบเทคโนโลยีขนานแท้ ผนวกกับจิตวิญญาณของคนจีนที่มีความแข็งแกร่ง อดทน และมีจิตวิญญาณผู้ประกอบการที่ "หวงแหนการพัฒนาประเทศ" อย่างจริงจัง

2. ✈️ Autoflight กับโอกาสแห่งอนาคต: "แท็กซี่ลอยฟ้า"

ในขณะที่บริษัทใหญ่ในจีนและทั่วโลกมุ่งเน้นไปที่ รถยนต์ไฟฟ้า แต่ Autoflight มองเห็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรมอากาศยานไฟฟ้าล้วนที่มีราคาถูกกว่าเฮลิคอปเตอร์ครึ่งหนึ่ง ความเร็ว 200 กม./ชม. ระยะบิน 250 กม. น้ำหนัก 2.2 ตัน จุผู้โดยสาร 5 คน และเริ่มใช้งานจริงแล้ว ซึ่งในอนาคตอาจกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการท่องเที่ยว การขนส่ง การหลีกหนีการจราจรที่ติดขัด การส่งสินค้า และการกู้ภัยฉุกเฉิน เป็นอีกจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจมากสำหรับโลกเทคโนโลยีในอนาคต

3. 🚗 NIO กับกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ที่เป็นมากกว่าบริษัท EV

ก่อตั้งปี 2014 โดยวิลเลียม ลี ที่ถูกขนานนามว่า "อีลอน มัสก์แห่งแดนมังกร" NIO สร้าง Ecosystem ที่ครบวงจร โดยมี NIO House - มากกว่าจุดให้บริการ มีร้านกาแฟ ห้องของเล่นเด็กพร้อมพี่เลี้ยงมืออาชีพ และแม้กระทั่งพื้นที่เลานจ์ที่สนามบิน และยังขยายธุรกิจไปยังมือถือ เพื่อให้เป็น Ecosystem ที่ไร้รอยต่อสำหรับผู้ใช้
ส่วนในด้านเทคโนโลยี NIO โดดเด่นด้วยนวัตกรรม "การสลับแบตเตอรี่" ที่ NIO Power Swap Station ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 นาที เท่านั้น

4. 🔬 Huawei สุดยอดบริษัท R&D บิ๊กเทคจีน

เทคโนโลยีของ Huawei ครอบคลุมกว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลก และเป็นยักษ์ใหญ่ใน 5 อุตสาหกรรม: ICT, Cloud & Computing, Consumer, Data Center, และ EV & Clean Energy 

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้ Huawei กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกได้ คือ การลงทุนด้าน R&D และการไม่ทำเองในทุกอุตสาหกรรม โดย Huawei ลงทุน R&D สูงถึง 23% ของรายได้ ส่วนในธุรกิจ EV Huawei ไม่ทำแบรนด์รถของตัวเอง แต่มี 3 โมเดลธุรกิจ: ขายส่วนประกอบ (เรดาร์, ซอฟท์แวร์ OS ในรถ), ขายทั้ง Hardware & Software เป็น Intelligent Driving, และ Co-design และวางขายที่ Huawei Store

5. 🤖 Baidu กับผู้นำ AI และโปรเจค Apollo Go แท็กซี่ไร้คนขับ

Baidu คือหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนมหาศาลกับ AI หนึ่งในโปรเจคสำคัญ คือ Apollo Go โครงการแท็กซี่ไร้คนขับรายแรกของจีน ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในหลายเมือง เช่น ปักกิ่ง กวางโจว ฉางซา ชางโจว เซี่ยงไฮ้ และอู่ฮั่น ตัวรถไร้คนขับมีฟีเจอร์พิเศษ เช่น ระบบขับขี่ 4 ระดับ - ควบคุมรถในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์, เซนเซอร์รอบคัน 38 จุด, กล้องรอบคัน 12 ตัว, และ พวงมาลัยพับเก็บได้ - พื้นที่นี้สามารถพัฒนาเป็นที่นั่งพิเศษ โต๊ะทำงาน หรือเล่นเกมส์

6. 🌍 ByteDance บริษัทจีนแรกที่ประสบความสำเร็จระดับ Global

บริษัทแม่ของ TikTok ซึ่งเป็น บริษัทจีนบริษัทแรกที่สามารถมีผู้ใช้งานทั่วโลกหลายพันล้านคน เหตุผลที่ ByteDance ทำได้ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีจีนในยุคก่อน เช่น Alibaba, Tencent, Baidu ทำไม่ได้ คือ การตั้งเป้า Global ตั้งแต่วันแรก

ByteDance สร้าง Culture ที่มุ่งเน้น Engineering Efficiency และ Product Driven เหมือนบริษัทเทคโนโลยีที่อเมริกา ตัวอย่าง เช่น วัฒนธรรม Dogfeeding - ทีมงานทดลองใช้ Product ตัวเองก่อนลอนช์, การให้ Local Team มีอำนาจในการตัดสินใจ, และการไม่ได้ทำงาน 9-9-6 (9 โมงเช้า-9 โมงเย็น 6 วันต่อสัปดาห์ เหมือนบริษัทเทคโนโลยีจีนทั่วไป)

ไม่ใช่แค่ Tiktok แต่ ByteDance ยังสามารถสร้าง ซอฟท์แวร์ตัวอื่นที่มีผู้ใช้ทั่วโลก เช่น Lark - ซอฟท์แวร์บริหารจัดการทีมและข้อมูล ซึ่งเกิดจากทีมงาน ByteDance ที่ใช้ซอฟท์แวร์ทำงานแล้วยังไม่พอใจ จึงพัฒนาระบบขึ้นมาเองจนมี Global Users

7. ไม่ใช่แค่จากการเยี่ยมชม แต่ในทริปนี้ เรายังได้ความรู้ทรงคุณค่าจากเพื่อนร่วมทริป ที่เป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารชั้นนำ 

เช่น พี่เจี๊ยบ ปฐมา จันทรักษ์ ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์และข้อคิดให้กับเพื่อนร่วมทริป ตัวอย่างข้อคิดที่พี่เจี๊ยบ ได้เล่าให้ฟัง คือ 

A) เราต้องกล้าฝันให้ใหญ่ โดยเขียนแพลนให้ใหญ่ไว้ แล้ววิธีการหรือ solution จะมาเอง

B) บริษัทระดับโลกจะมี company strategy หรือแผนกลยุทธ์ 3 ปี ซึ่งปรับทุกปี แต่บริษัทไทยหลายที่ ไม่มี มีแค่ว่าอยากทำอะไร แต่ไม่มีแผนภาพใหญ่

C) Bill Gates เคยบอกไว้ว่า ถ้าเจอคนเก่ง ถ้ายังไม่มีตำแหน่งที่เปิดรับ ให้สร้างตำแหน่งใหม่ขึ้นมา สำหรับคนเก่ง

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเปิดมุมมองใหม่ต่อความก้าวหน้าของจีนในยุคดิจิทัล ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนานกับนวัตกรรมที่กำลังสร้างอนาคต

✈ 3 Business Trips แห่งปี 2025 โดย Sauce Skills และ THE STANDARD

นำทริปโดย Trip Leader สุด Exclusive: เคน นครินทร์, ดร.วิทย์, และ เฟิร์น ศิรัถยา

🤖🎤 The Secret Sauce CEO Trip กับ เคน นครินทร์ [Sold Out]

🤖 China Executive Trip – Tech Giants & New Dragons กับ เฟิร์น ศิรัถยา และ ดร.อาร์ม

- เยือน เซี่ยงไฮ้ และ หางโจว เมืองหลวง Tech & AI ของจีน
- Ant Group และ Sensetime ผู้นำด้าน Fintech และ AI
- 2 บริษัท ที่ได้ชื่อว่าเป็น มังกรแห่งเมืองหางโจว: Unitree พัฒนาหุ่นยนต์ควบคุมการเคลื่อนไหว และ BrainCo เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบประสาทและสมองของมนุษย์ 
- ฟังเรื่องเล่าและเกร็ดความรู้ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี จาก เฟิร์น ศิรัถยา The Standard Wealth และ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีน
- ประสบการณ์ความล้ำหน้าของเทคโนโลยี เช่น Drone Delivery สั่งอาหาร ส่งด้วยโดรน
- Networking และแลกเปลี่ยนไอเดียกับเพื่อนร่วมทริป เพื่อโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ

🗓️ 1 – 4 ก.ย. 2568
🗺️ เมือง เซี่ยงไฮ้ และหางโจว
📌 https://forms.office.com/r/CAXN6aA8bD?origin=lprLink

👜 Italy Exclusive Trip: Luxury Driven Economy กับ ดร.วิทย์
เฮียวิทย์จะพาคุณไปสำรวจกลยุทธ์เบื้องหลังแบรนด์หรูของอิตาลี ตามรอยประวัติศาสตร์ การออกแบบ และศาสตร์แห่งความปราณีต ใน 3 เมืองที่คุณจะหลงรัก มิลาน ฟลอเรนซ์ และเวนิส บุกโรงงานและโชว์รูมหลัก ในสายแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ พร้อมพูดคุยกับผู้บริหารและทีมงานเจ้าของไอเดียสินค้าระดับโลก

🗓️ 9 – 16 พ.ย. 2568
 🗺️เมือง มิลาน ฟลอเรนซ์ และเวนิส
📌 https://forms.office.com/r/TVsE5PxEFT?origin=lprLink

อย่าพลาดโอกาสเห็นของจริง และได้ไอเดียใหม่ ที่เปลี่ยนธุรกิจของคุณได้จริง
ด่วน! รับจำนวนจำกัดทุกทริป

สอบถามเพิ่มเติม
คุณพลอย 065-606-9541 Line: @sauceskills
hello@sauceskills.com

#TheSecretSauce #SauceSkills #Businesstrip #Chinatrip #Italytrip

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความดื้อ กับ ความพยายามต่างกันยังไง?

. เพิ่งอ่านบทความนึงมาครับของ Paul graham ว่าด้วยความต่างระหว่าง “ความพยายาม” (Persistence) กับ “ความดื้อรั้น” (Obstinacy) ฟังดู...