1. ความขี้เกียจคือความอัจฉริยะที่ปลอมตัวมา
ในโลกที่ทุกคนแข่งกันวิ่งให้เร็วที่สุด คนขี้เกียจกลับนั่งพัก แล้วคิดหาวิธีลัดที่ไม่มีใครเคยเห็น เขาคือผู้เชี่ยวชาญในการทำงานให้น้อยที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์มากที่สุด เพราะเขาเกลียดการเสียเวลามากเกินไป นั่นแหละ คือความอัจฉริยะที่คนอื่นมองข้าม
2. แรงจูงใจคือเชือกวิเศษที่ดึงคนขี้เกียจให้ลุกขึ้น
เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ชอบทำงาน แต่เขาก็รู้ว่าการอยู่เฉยๆ ไม่ได้พาเขาไปไหน เขาจึงผูกเชือกวิเศษไว้กับเป้าหมายที่เขาอยากได้จริงๆ เชือกนั้นคือความอยากมีชีวิตที่สบาย อยากเดินทางโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เชือกนั้นดึงเขาให้ลุกขึ้น แม้จะไม่เต็มใจในตอนแรกก็ตาม
3. ลำดับความสำคัญไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
ในโลกที่คนส่วนใหญ่บอกว่าต้องเริ่มจากสิ่งที่สำคัญที่สุด คนขี้เกียจกลับเริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุด ทำสิ่งที่สบายใจที่สุดก่อน แล้วจึงค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไป เขารู้ว่าการเริ่มจากจุดที่ง่ายที่สุด ทำให้เขาไม่รู้สึกท้อ และไม่รู้สึกว่าต้อง “ฝืนใจ” ตัวเอง
4. กับดักเวลาไม่เคยมีอยู่จริง มีแค่คนที่เดินเข้าไปติดเอง
การเสียเวลาไม่ได้เกิดจากสิ่งรอบตัว แต่มาจากตัวเราเองที่เลือกจะเสียเวลา คนขี้เกียจรู้ดีว่าตัวเองมีแนวโน้มจะติดเกมหรือติดซีรีส์ ดังนั้น เขาจึงสร้างกับดักกลับด้าน ตั้งเวลาเตือนตัวเองให้หยุด และให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เมื่อสามารถออกจากกับดักนั้นได้
5. หนังสือเป็นทางลัดของคนขี้เกียจ
เขารู้ว่าตัวเองไม่มีเวลา (หรือไม่อยากเสียเวลา) ไปลองผิดลองถูก เขาจึงเลือกอ่านหนังสือที่คนสำเร็จเขียนไว้ เขาเก็บเกี่ยวบทเรียนโดยไม่ต้องลงมือทำเองทุกอย่าง อ่านในตอนเช้า เพื่อให้สมองสดชื่นและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
6. ความสุขไม่ควรมีราคา
คนขี้เกียจมีสิ่งที่เขารัก แต่เขาไม่เคยพยายามทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นรายได้ เขาเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงคือการทำในสิ่งที่รักโดยไม่ต้องแลกกับเงิน เพราะเมื่อไรที่เงินเข้ามาเกี่ยว ความสุขก็อาจจะเริ่มเจือจางลง
7. เปลี่ยน “ต้องทำ” ให้เป็น “อยากทำ”
เขาไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องถูกบังคับ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ แทนที่จะคิดว่า “ต้องทำงาน” เขาบอกตัวเองว่า “อยากทำงานนี้เพื่อให้ได้ชีวิตที่อิสระ” ความคิดนี้เปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นก้าวสำคัญสู่ความฝัน เขาจึงทำมันด้วยความเต็มใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น