วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

กฎหนึ่งก้าว


ระหว่างวิ่งออกกำลังกายรอบหมู่บ้าน ผมได้ย้อนระลึกถึงหลายเรื่องราวที่เกี่ยวกับ "หนึ่งก้าว"

เลยขอใส่คำว่า "กฎ" ไว้ข้างหน้า เพราะน่าจะทำให้ติดหูติดตาและจดจำได้ง่าย

โดยกฎหนึ่งก้าวนั้นแตกออกมาเป็นสามข้อดังนี้:-

One step ahead. One step faster. One step further.

-----

1. คิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว - One step ahead

ผมทำงานอยู่ในทีม People ของบริษัทเทคที่ทุกอย่างต้องคิดไวทำไว

เมื่อปี 2023 ผมเคยบอก "ธีม" ของทีม People ไว้ว่าให้คิด One step ahead คือจะทำอะไร ให้คิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว

ถ้าเราคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว เราจะพอเดาใจหัวหน้าเราได้ และทำในสิ่งที่ควรทำก่อนที่หัวหน้าจะเอ่ยปากถาม

ถ้าเราคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว เวลาเราจะประกาศอะไร เราจะคิดเผื่อไปก่อนเลยว่าพนักงานจะมีคำถามอะไรบ้าง แล้วตอบคำถามเหล่านั้นรอไว้เลยใน FAQ

ถ้าเราคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว เราจะรู้ทิศทางลมว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป และเตรียมใจสำหรับสถานการณ์นั้น

การคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าวจะช่วยให้เราเตรียมตัวได้ดี ซึ่งผมเชื่อว่าทุก 1 นาทีที่เราใช้ไปกับการเตรียมตัวจะประหยัดเวลาอย่างน้อย 2 นาทีหลังจากเราเริ่มลงมือทำ

-----

2. เร็วกว่าหนึ่งก้าว - One step faster

“พี่เล้ง MFEC” หรือคุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร เคยกล่าวไว้ว่า

นักฟุตบอลระดับโลก แท้จริงเขาวิ่งถึงบอลก่อนคนอื่นแค่ครึ่งก้าว

ซึ่งครึ่งก้าวนั้นก็เพียงพอแล้ว หากมันช่วยให้เราแตะบอลก่อนและยิงประตูได้ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อให้ถึงบอลก่อนคนอื่น 5 ก้าว

การทำธุรกิจก็เช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องชนะคู่แข่งแบบขาดลอย เราชนะเขาแค่นิดเดียวก็สามารถได้โปรเจ็กต์มาอยู่ในมือแล้วเช่นกัน

หากทุ่มกำลังมากเกินไป ต้องการจะเอาชนะคู่แข่ง 5 ก้าวตลอด นั่นหมายถึงแรงและเวลาที่ต้องใช้อย่างมหาศาล ซึ่งอาจจะทำให้ทีมงานเหน็ดเหนื่อยเกินไป และเสียโอกาสที่จะแบ่งกำลังไปแข่งในเกมอื่นๆ

-----

3. ไปไกลกว่าหนึ่งก้าว - One step further

พี่โจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ เคยเขียนไว้ในหนังสือ "วิถีคนปานกลาง" โดยบทแรกมีชื่อว่า "คนระดับปานกลางจะโดดเด่นได้อย่างไร"

หนึ่งในคำแนะนำของพี่โจ้ก็คือให้ฝึก "วิชาทำเกิน" 

มันคือการทำให้เกินกว่าที่คนอื่นคาดหวัง

เช่นลูกค้าขอให้ส่งงานวันศุกร์ แต่เราส่งตั้งแต่วันพฤหัสฯ

หรือเวลาทำงานส่งหัวหน้า งานของเรามีข้อมูลละเอียดครบถ้วนและไม่มีข้อผิดพลาด จนหัวหน้าไม่มีอะไรให้ต้องปรับแก้

เจ้านายหรือลูกค้าจะมี "ภาพจำ" ก็ต่อเมื่อเขาได้รับในสิ่งที่เกินความคาดหวัง หรือต่ำกว่าความคาดหวัง ถ้าได้เท่าที่คาด เขาจะไม่จำ

ที่สำคัญ เราไม่ต้องทำเกินเยอะ แค่ทำเกินกว่าค่ามาตรฐานที่คนอื่นคุ้นชิน ก็เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจ

เมื่อเราไปไกลกว่าหนึ่งก้าว และทำงานได้เกินความคาดหวังอยู่บ่อยๆ เราก็จะมีภาพจำที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะเป็นใบเบิกทางให้กับโอกาสอื่นๆ ที่จะมาถึงในอนาคต

-----

ถ้าเราคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว เราจะเตรียมตัวได้ดี และออกตัวได้เร็วกว่า

ถ้าเราถึงบอลก่อนหนึ่งก้าว (และไม่จำเป็นต้องถึงก่อน 5 ก้าว) เราจะได้บอลนั้นไปครองเพื่อทำเกมหรือยิงประตู

แต่ถ้าเราเป็นคนคิดไม่เก่ง และวิ่งไม่เร็ว เราก็ต้องขยันกว่าคนอื่น วิ่งให้ไกลกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว เพื่อสร้างผลงานที่เกินความคาดหวัง

One step ahead.

One step faster.

One step further.

ทำได้เพียงหนึ่งในสามข้อ ก็เพียงพอที่จะช่วยให้การทำงานดีขึ้นอย่างชัดเจน

แต่ถ้าทำได้ครบทั้งสามข้อ สิ่งดีๆ ก็น่าจะรอเราอยู่อย่างแน่นอนครับ

-----

พบกับหนังสือเล่มใหม่ของผม "คำถามร้อยบาท กับคำถามล้านบาท" ได้ที่บู๊ธ KOOB งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 27 มีนาคม - 7 เมษายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Roundfinger ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยุคที่ 3 ของ E-Commerce กำลังมา เลิกหาปลา แล้วเลี้ยงปลาเองด่วน

1. สถานการณ์ปัจจุบันของ Flash Express ไม่ได้แย่หรือดีจนเกินไป ยังคงมีความหวังในการดำเนินธุรกิจอยู่นะคะ แต่สิ่งที่บริษัทกำลังเผชิ...