วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
๒๔ กุมภาพันธ์ วันศิลปินแห่งชาติ “พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
AI Supply Chain เบื้องหลังการเติบโตของ AI
AI Supply Chain เบื้องหลังการเติบโตของ AI
บล.เคจีไอ x ลงทุนแมน
การเติบโตของเทคโนโลยี AI มักจะถูกพูดถึงและเชื่อมโยงกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของโลกอยู่ไม่กี่บริษัท เช่น OpenAI, Microsoft, และ Nvidia
แต่จริง ๆ แล้วบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่นี้จำเป็นต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของ AI หรือที่เรียกว่า AI Supply Chain ที่อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้เกิดขึ้นได้
การผลิตชิปประมวลผล AI ต้องผ่านขั้นตอนที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เริ่มต้นจากการออกแบบโดยบริษัทออกแบบวงจรชิป (Chip Design) บริษัทผลิตชิปตามที่ออกแบบมา (Foundry) บริษัททดสอบประสิทธิภาพชิปที่ผลิต (Testing) และการนำชิปไปประกอบพร้อมนำไปใช้งาน (Packaging) หรือ การก่อสร้าง Data Center ของบริษัทเทคระดับโลกที่ได้ใช้งบลงทุนมหาศาล เพื่อให้เป็นที่ติดตั้งของคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก
โดยในแต่ละคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ยังประกอบไปด้วยชิ้นส่วนพื้นฐานทั่วไปและชิ้นส่วนเฉพาะสำหรับการใช้งาน AI
เช่น หน่วยความจำความเร็วสูงประเภท High-Bandwidth (HBM) ชุดควบคุมอุณหภูมิ (Thermal Module)เพื่อคุมความร้อนที่เกิดจากการประมวลผล ชิปสัญญาณเลเซอร์ (Laser Chip) และตัวส่งสัญญาณแสง (Optical Transceiver) เป็นต้น
โดยชิ้นส่วนแต่ละชิ้นนั้น แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของ AI Supply Chain
บริษัทใน AI Supply Chain จะมีหลายบริษัทและมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีแบบเฉพาะทางแตกต่างกันไป และอาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่มีความสำคัญ เปรียบเสมือนฐานภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำนั่นเอง
โดยไต้หวันเองเป็นศูนย์รวมของบริษัทใน AI Supply Chain ของโลกที่มีความสำคัญ เช่น
- TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปที่มีความซับซ้อนที่สุดอันดับ 1 ของโลก
- Wiwynn และ MPI ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบประสิทธิภาพของชิป
- Hon Hai และ Quanta ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- MediaTek ผู้ออกแบบวงจรชิปชั้นนำของโลก เป็นต้น
การเลือกลงทุนในบริษัท AI Supply Chain พวกนี้จะซับซ้อนกว่าการเลือกลงทุนในบริษัทเทคขนาดใหญ่
เพราะต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะเจาะจง และรู้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
การลงทุนในกองทุน ETF ที่เลือกลงทุนบริษัทใน AI Supply Chain จะช่วยลดความซับซ้อนตรงนี้ได้
เพราะจะมีกลไกและผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคัดเลือกหุ้นใน AI Supply Chain ให้
สำหรับตลาดหุ้นไทยเองทาง บล.เคจีไอ ได้มีการออก TAIWANAI13 ซึ่งเป็น DR (Depositary Receipt) ที่ลงทุนในกองทุน AI Supply Chain ในไต้หวัน 50 บริษัทที่เรียกว่า KGI Taiwan Premium Selection AI 50 ETF โดยนักลงทุนสามารถซื้อขาย TAIWANAI13 เหมือนหุ้นตัวหนึ่งผ่านบัญชีซื้อขายที่มีอยู่แล้ว
นอกจากนั้นทาง บล.เคจีไอ ยังได้มีการออก TAIWANHD13 ซึ่งเป็น DR ที่ลงทุนใน KGI Taiwan Premium Selection High Dividend 30 ETF ที่มีการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในไต้หวันและยังมีการกระจายความเสี่ยงไปในหุ้นที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของไต้หวัน เช่น กลุ่มการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
นักลงทุนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.thaiwarrant.com/dr/TAIWANAI13
www.thaiwarrant.com/dr/TAIWANHD13
ความเสี่ยง : การลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) มีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของการออกและเสนอขาย DR จากหนังสือชี้ชวนให้ครบถ้วน เพื่อทราบถึงเงื่อนไขผลตอบแทน ข้อจำกัด และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
พัฒนาตัวเองวันละ 1%
พัฒนาตัวเองวันละ 1%
ภายใน 1 ปี คุณจะเก่งขึ้น 37 เท่า
เคยรู้สึกไหมว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเรื่องยาก? บางทีเราอาจตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป จนรู้สึกว่ามันไกลเกินจะไปถึง แต่ถ้าบอกว่า…แค่พัฒนาวันละ 1% ก็เพียงพอแล้วล่ะ?
แนวคิดนี้มาจากหลักการ “Kaizen” ของญี่ปุ่น ที่เน้นการปรับปรุงเล็กๆ ทุกวัน ถ้าทำได้ต่อเนื่อง 1 ปี ค่าการพัฒนาของเราจะทบต้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเราจะเก่งขึ้น 37 เท่า จากวันแรกที่เริ่ม!
แล้วทำยังไงให้มันเกิดขึ้นจริง? นี่คือ 15 ข้อเล็กๆ ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองวันละ 1%
1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วย “คำถามสำคัญ”
แทนที่จะเช็กโซเชียลเป็นอย่างแรก ลองถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันจะทำอะไรให้ตัวเองดีขึ้นได้บ้าง?” แค่คิดแบบนี้ทุกเช้า คุณจะค่อยๆ หันมาโฟกัสที่ตัวเองมากขึ้น
✅ ตัวอย่าง: สมมติคุณอยากพูดภาษาอังกฤษเก่งขึ้น คำตอบอาจเป็น “วันนี้ฉันจะฝึกพูดกับ AI 10 นาที”
2. ใช้ “กฎ 5 นาที”
ถ้าอะไรดูยากเกินไป ให้บอกตัวเองว่า “ลองทำแค่ 5 นาทีก็พอ” สมองจะไม่ต่อต้าน และพอเริ่มแล้ว ส่วนใหญ่เราจะทำต่อจนเสร็จ
✅ ตัวอย่าง: อยากอ่านหนังสือ? เปิดอ่านแค่ 5 นาที แล้วคุณจะเผลออ่านต่อเอง
3. โฟกัสที่ “กระบวนการ” ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
อย่ากดดันตัวเองให้ต้องเห็นผลเร็ว แต่ให้สนุกกับการพัฒนาขั้นเล็กๆ แทน
✅ ตัวอย่าง: ถ้าคุณอยากฟิตหุ่น แทนที่จะคิดว่า “ต้องลดให้ได้ 10 กิโล” ให้คิดว่า “วันนี้ออกกำลังกายให้ได้ 10 นาที”
4. เปลี่ยน “เวลาว่าง” ให้เป็น “เวลาทอง”
หลายคนเสียเวลาไปกับสื่อโซเชียลแบบไร้จุดหมาย แต่ถ้าคุณหันมาใช้เวลาเหล่านั้นกับสิ่งที่มีประโยชน์ คุณจะพัฒนาตัวเองได้เร็วมาก
✅ ตัวอย่าง: ฟัง Podcast ที่สร้างแรงบันดาลใจขณะเดินทาง
5. อ่านหนังสือวันละ 10 หน้า
ถ้าคุณทำแบบนี้ทุกวัน ภายในปีเดียวคุณจะอ่านหนังสือได้ประมาณ 12–15 เล่ม!
✅ ตัวอย่าง: เริ่มจากหนังสือที่อ่านง่ายก่อน เช่น Atomic Habits หรือ The Power of Now
6. จัดลำดับ “สิ่งสำคัญ” ก่อนเสมอ
ทุกวันมีแค่ 24 ชั่วโมง ถ้าคุณให้เวลากับสิ่งสำคัญก่อน เช่น สุขภาพ ความรู้ และความสัมพันธ์ คุณจะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น
✅ ตัวอย่าง: เริ่มต้นวันด้วยการออกกำลังกาย หรือวางแผนล่วงหน้า
7. ลองทำอะไรใหม่ๆ ทุกเดือน
มนุษย์ชอบความท้าทาย ลองตั้งเป้าว่าทุกเดือนจะเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น ทำอาหาร ฝึกโยคะ หรือเรียนคอร์สออนไลน์
✅ ตัวอย่าง: เดือนนี้ลองฝึกพิมพ์สัมผัส เดือนหน้าลองเรียนแต่งรูป
8. ฝึก “ความนิ่ง” ด้วยสมาธิ 5 นาทีต่อวัน
สมองเราทำงานหนักทุกวัน การฝึกสมาธิสั้นๆ จะช่วยให้เรามีสติและโฟกัสดีขึ้น
✅ ตัวอย่าง: ใช้แอปพลิเคชันอย่าง Calm หรือ Headspace ช่วยไกด์การทำสมาธิ
9. ลดสิ่งที่ทำให้เสียพลังงาน
มีอะไรที่ทำให้คุณหมดแรงโดยไม่จำเป็นไหม? เช่น ดราม่า ข่าวลบๆ หรือเพื่อนที่คอยบั่นทอน
✅ ตัวอย่าง: ลองลดเวลาดูข่าวเชิงลบ หรือเลี่ยงคนที่ชอบบ่น
10. สร้าง “Check-in System” ให้ตัวเอง
ทุกคืนก่อนนอน ลองถามตัวเอง “วันนี้ฉันพัฒนาขึ้นตรงไหนบ้าง?” คุณจะเห็นว่าแม้เป็นเรื่องเล็กๆ ก็มีค่า
✅ ตัวอย่าง: จด 3 สิ่งที่คุณทำสำเร็จในวันนี้
11. ทำให้การพัฒนาสนุกขึ้น
ถ้าคุณอยากทำอะไรนานๆ ต้องทำให้มันสนุก เช่น ตั้ง Challenge แข่งกับเพื่อน หรือให้รางวัลตัวเอง
✅ ตัวอย่าง: ถ้าฝึกภาษาอังกฤษครบ 30 วัน อนุญาตให้ตัวเองซื้อของขวัญสักชิ้น
12. เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
โฟกัสที่เวอร์ชันของตัวเองเมื่อวาน ไม่ใช่คนอื่น คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แค่เก่งขึ้นกว่าเมื่อวานก็พอ
✅ ตัวอย่าง: ถ้าคุณวิ่งได้ไกลขึ้น 100 เมตรจากเมื่อวาน นั่นคือชัยชนะของคุณ
13. หา Mentor หรือ Role Model
การมีต้นแบบช่วยให้เราเดินทางได้เร็วขึ้น ลองหาคนที่คุณอยากเป็นแบบเขา แล้วเรียนรู้จากแนวคิดของเขา
✅ ตัวอย่าง: ถ้าคุณอยากเป็นนักธุรกิจ ลองติดตามหนังสือหรือพอดแคสต์ของคนที่ประสบความสำเร็จ
14. อย่ากลัวความผิดพลาด
ถ้าคุณทำผิด แสดงว่าคุณกำลังพัฒนา ไม่มีใครเก่งตั้งแต่วันแรก ความล้มเหลวคือบันไดสู่ความสำเร็จ
✅ ตัวอย่าง: เรียนรู้จากข้อผิดพลาดแทนที่จะโทษตัวเอง
15. อดทนและเชื่อในกระบวนการ
สุดท้ายแล้ว การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป แต่ให้เชื่อว่าถ้าคุณพัฒนาวันละ 1% อีก 365 วันข้างหน้า คุณจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้นกว่าเดิมแบบที่ตัวเองก็คาดไม่ถึง
✅ ตัวอย่าง: จดบันทึกการพัฒนา และหันกลับมาดูอีกที คุณจะเห็นว่าคุณมาไกลแค่ไหน
สรุป:
อย่าดูถูกการพัฒนาเล็กๆ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป มันจะรวมกันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ อย่ารีบ อย่ากดดันตัวเอง แค่เดินหน้าต่อไป แล้วอีก 1 ปีข้างหน้า คุณจะไม่เชื่อเลยว่าตัวเองพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน
แนะนำให้อ่าน เปลี่ยนแค่ 1% ชีวิตจะดีขึ้น
#เปลี่ยนเเค่1%
#เวลาทอง
เป็นผู้บริหาร ต้องรีบปรับตัวให้ทันกับ AI ใครจับได้ทัน ก็ไปเร็วกว่า
.
AI กำลังเปลี่ยนโลกการทำงานครั้งใหญ่ บางคนกลัวว่าจะตกงาน บางคนกังวลว่าทักษะที่มีจะล้าสมัย แล้วเราควรเตรียมตัวอย่างไรดี? นี่คือสิ่งที่ มาร์ค คิวแบน แนะนำ
.
ตามรายงานของ LinkedIn ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 พบว่า "ความสามารถในการปรับตัว" กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในยุคหลังโควิดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งการทำงานระยะไกล การใช้ AI และการที่คน 5 Gen ต้องทำงานร่วมกัน
.
3 ทักษะสำคัญที่คนทำงานยุคนี้ต้องมี
.
1. ความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity)
- ลองศึกษาเรื่องใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน
- ฝึกตั้งคำถามและหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย
- เปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
- ติดตามความเปลี่ยนแปลงในวงการที่เราสนใจ
.
2. ความว่องไว (Agility)- รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน
- ปรับเปลี่ยนวิธีทำงานให้เหมาะกับสถานการณ์
- จดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้เพื่อนำไปใช้ได้เร็ว
- สังเกตว่าช่วงไหนทำงานได้ดีที่สุด และจัดตารางให้เหมาะสม
.
3. ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)
- ไม่กลัวที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ
- มองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้
- ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมปรับตัว
- ไม่ยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิม ๆ
.
มาร์ค คิวแบน ย้ำว่า "ทักษะที่คุณต้องมีสำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ 10 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า ก็ยังคงเหมือนเดิม" ในโลกที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การมีทักษะทั้งสามนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ในทุกสถานการณ์
.
เพราะไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร คนที่พร้อมเรียนรู้ ปรับตัวเร็ว และมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ย่อมมีโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#Business
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
.
อ้างอิง
http://bit .ly/3XpiHRt
วงจรต่อสวิตช์ Wifi 4 ชาแนล
วงจรต่อสวิตช์ Wifi 4 ชาแนลกับโซลินิยวาล์วหรือจะใช้วาล์วไฟฟ้าก็ได้ครับ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหรือไอเดียเพิ่มเติมครับ ตั้งเวลาได้ เปิด-ปิดผ่านมือถือได้ แต่ต้องมีสัญญาน wfif นะครับ
#ไฟฟ้า #diy #เกษตรกร #ปั้มน้ำ #สมาร์ทโฮม #บ้านและสวน
21 วิธีโฟกัสที่การพัฒนาตนเอง ให้โตไว 100%
![]() |
วิธีโฟกัสพัฒนาตนเอง |
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และกำหนดเส้นทางที่ชัดเจน
2. จัดลำดับความสำคัญ – โฟกัสสิ่งที่สำคัญก่อน อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กมาขวางทาง
3. สร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดเวลา – อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือเรียนคอร์สออนไลน์
4. ลงมือทำทันที – อย่ารอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะการลงมือทำคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
5. เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น – โฟกัสที่การพัฒนาตัวเอง แทนที่จะกังวลว่าคนอื่นทำอะไร
6. ดูแลร่างกายให้แข็งแรง – ออกกำลังกาย กินอาหารดี ๆ และนอนให้พอ
7. ฝึกวินัยและความรับผิดชอบ – อย่ารอแรงบันดาลใจ แต่ให้ทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
8. กำจัดสิ่งที่รบกวนสมาธิ – จำกัดเวลาเล่นโซเชียล เลิกเสพคอนเทนต์ที่ไม่มีประโยชน์
9. อยู่ใกล้คนที่ช่วยให้เราเติบโต – เลือกสังคมที่สนับสนุนการพัฒนาตัวเอง
10. ท้าทายตัวเองด้วยสิ่งใหม่ ๆ – ออกจากคอมฟอร์ทโซน แล้วลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ
11. บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ – ใช้เทคนิคอย่าง Pomodoro หรือ Time Blocking
12. บันทึกความก้าวหน้าของตัวเอง – เขียนไดอารี่ หรือรีวิวตัวเองทุกสัปดาห์
13. ฝึกการคิดเชิงบวก – มองหาโอกาสในทุกปัญหา และเชื่อมั่นในตัวเอง
14. ฝึกสมาธิและสติ – นั่งสมาธิ ฝึกหายใจ หรือใช้เวลากับตัวเองเพื่อลดความเครียด
15. พัฒนาทักษะที่จำเป็น – เรียนรู้สิ่งที่ช่วยให้เราก้าวหน้าขึ้น เช่น การพูด การเขียน การตลาด ฯลฯ
16. เรียนรู้จากความล้มเหลว – ทุกข้อผิดพลาดคือบทเรียนที่ช่วยให้เราแกร่งขึ้น
17. ฝึกการสื่อสารที่ดี – ฟังมากขึ้น พูดให้ชัดเจน และเข้าใจคนอื่น
18. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ – สร้างแรงจูงใจในการพัฒนาต่อไป
19. อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง – โลกเปลี่ยนแปลงเสมอ เราต้องปรับตัวให้ไว
20. สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเติบโต – ทำให้พื้นที่รอบตัวช่วยกระตุ้นพลังบวก
21. เชื่อมั่นว่าตัวเองจะไปถึงเป้าหมายได้ – ไม่มีอะไรหยุดคนที่เชื่อมั่นในตัวเองได้
ลองเลือกสัก 3-5 ข้อไปเริ่มทำเลย
ชีวิตที่ดี เริ่มต้นที่ NOW...
ที่มา
#ข้อคิดดีๆ #พัฒนาตนเอง #ครูเฟรชชี่
วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
เหตุใดรถของคุณจึงสตาร์ทไม่ติด:
วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
สิ่งประดิษฐ์ของ Elon Musk ที่จะเปลี่ยนทุกอย่างในปี 2025:
จาก Robota
xi ของ Tesla ออกแบบมาเพื่อกําจัดความต้องการสําหรับคนขับมนุษย์ ไปจนถึงชิปสมองที่ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ได้ด้วยความคิดของคุณ Elon Musk กําลังวิศวกรรมอนาคตได้เร็วกว่าที่ทุกคนสามารถจินตนาการได้ แต่มันไม่ได้หยุดอยู่ตรงนั้น - จินตนาการถึง Solar Roof ที่ทําให้บ้านของคุณ อุโมงค์ใต้ดินที่ขนส่ง Teslas เพื่อเอาชนะการจราจร หรือหุ่นยนต์ที่พับผ้าของคุณในขณะที่คุณผ่อนคลาย
วันนี้เราจะทําลาย 12 นวัตกรรมสุดซึ้งที่ Musk อ้างว่าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างภายในปี 2025 แต่ละคนกําลังผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยี ตั้งแต่พลังงานทดแทนและหุ่นยนต์ไปจนถึงการท่องเที่ยวในอวกาศและอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ เพราะเมื่อตอนจบของวิดีโอนี้ คุณจะเห็นว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม แต่พวกเขากําลังนิยามสิ่งที่เป็นไปได้ใหม่
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วิธีจัดระเบียบความคิดแบบอัจฉริยะ
อัจฉริยะไม่ได้แค่คิดเก่ง แต่พวกเขามีวิธีจัดระเบียบความคิดที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ ลึกซึ้ง และสร้างสรรค์ นี่คือวิธีที่พวกเขาใช้
1. คิดเป็นโครงสร้าง (Structured Thinking)
แทนที่จะคิดแบบกระจัดกระจาย อัจฉริยะใช้ โครงสร้างความคิด เพื่อช่วยให้สมองทำงานได้เป็นระบบ
• ใช้ Mind Map → แตกไอเดียออกมาเป็นกิ่งก้าน ทำให้เห็นความสัมพันธ์ของแนวคิด
• แบ่งปัญหาเป็นส่วนย่อย (First Principles Thinking) → มองหาพื้นฐานของปัญหา แยกองค์ประกอบหลักออกมา
• คิดแบบ MECE (Mutually Exclusive, Collectively Exhaustive) → แน่ใจว่าทุกไอเดียไม่ซ้ำซ้อนและครอบคลุมทั้งหมด
2. ตั้งคำถามอัจฉริยะ (Smart Questioning)
อัจฉริยะไม่ได้แค่หาคำตอบ แต่พวกเขาถามคำถามที่ถูกต้อง
• “ทำไม?” ซ้ำๆ (5 Whys Technique) → ช่วยให้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
• ตั้งคำถามย้อนแย้ง → เช่น “ถ้าสิ่งที่เราคิดผิดล่ะ?” หรือ “มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม?”
• คิดแบบ Inversion (กลับด้านปัญหา) → แทนที่จะถามว่า “จะสำเร็จได้อย่างไร?” ลองถามว่า “อะไรทำให้ล้มเหลว?” แล้วหลีกเลี่ยงมัน
3. จัดการข้อมูลในสมองให้มีประสิทธิภาพ
อัจฉริยะสามารถเก็บข้อมูลและใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ
• บันทึกความคิดลงกระดาษ (Brain Dumping) → เคลียร์สมองด้วยการเขียนออกมา แล้วจัดลำดับความสำคัญ
• ใช้ Zettelkasten หรือ Atomic Notes → เชื่อมโยงไอเดียเล็กๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่ใหญ่ขึ้น
• คิดย้อนกลับ (Reflective Thinking) → ทบทวนสิ่งที่เรียนรู้และหาความเชื่อมโยง
4. ฝึกสมองให้คิดเร็วและคิดลึก
การคิดเป็นทักษะที่พัฒนาได้ อัจฉริยะฝึกฝนมันทุกวัน
• อ่านสิ่งที่ท้าทายสมอง → เช่น หนังสือปรัชญา คณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์
• ฝึก Divergent & Convergent Thinking → สร้างไอเดียหลากหลายก่อน แล้วค่อยกรองหาแนวทางที่ดีที่สุด
5. ใช้พลังของ “สภาวะลื่นไหล” (Flow State)
อัจฉริยะมักเข้าสู่ Flow State ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองทำงานอย่างลื่นไหล
• กำจัดสิ่งรบกวน → ปิดแจ้งเตือน ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการคิด
• ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน → เพื่อให้สมองจดจ่อ
• ใช้ Deep Work → โฟกัสกับสิ่งเดียวเป็นระยะเวลานานโดยไม่ถูกรบกวน
6. คิดนอกกรอบและสร้างสรรค์
อัจฉริยะไม่ได้แค่คิดตามแบบแผน แต่พวกเขากล้าที่จะคิดต่าง
• ใช้ Lateral Thinking → มองปัญหาจากมุมที่ไม่เคยคิดมาก่อน
• ลองคิดในมุมของคนอื่น → เช่น ถ้าเป็น Einstein, Da Vinci หรือ Steve Jobs จะคิดแบบไหน?
• เชื่อมโยงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง → หลายไอเดียที่ยิ่งใหญ่มาจากการรวมแนวคิดจากคนละศาสตร์เข้าด้วยกัน
7. สร้างนิสัยของการคิดอย่างอัจฉริยะ
ความสามารถในการคิดไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่มันเป็น นิสัย ที่ต้องฝึก
• คิดแบบ Growth Mindset → เชื่อว่าความสามารถในการคิดพัฒนาได้
• ทำ Journaling ทุกวัน → เขียนไอเดีย ทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ และพัฒนาความคิด
• ฝึกความเงียบ → บางครั้งการคิดที่ดีที่สุดเกิดขึ้นในความเงียบ เช่น การนั่งสมาธิ หรือเดินเงียบๆ
ขอบคุณ CR: สหายสอบ
#10แนวคิด จาก โทนี่ รอบบิ้นส์ ที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ
1. ยกระดับมาตรฐานของตัวเรา
โทนี่ รอบบิ้นส์ เชื่อว่าทุกคนล้วนแต่ต้องการประสบความสำเร็จเสมอ แต่ถ้าเรามีความคิดเพียงว่า สิ่งที่ต้องการทำมันคือเป้าหมายที่ “ควรทำ” เราจะไม่สามารถทำมันได้เลย แต่เราต้องคิดว่าเป้าหมายของเรา นั้น คือสิ่งที่ “ต้องทำ” ไม่ใช่การคิดว่าควรทำ เพียงเท่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
2.ตามหาเป้าหมายที่แท้จริง
เมื่อผู้คนได้ค้นพบงานหรือภารกิจที่พวกเขาพึงพอใจได้แล้ว โทนี่ รอบบิ้นส์ บอกว่า สิ่งนั้นจะทำให้ชีวิตของคนเรามีความหวังความฝันและมีความสุข เป็นพลังผลักดันให้คนเราค่อย ๆ พัฒนาเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิต และสิ่งที่ค้นพบยังเปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้คนเรามีความสุข เป็นความสุขที่อยู่ภายใน โดยสถานการณ์ต่าง ๆ จากภายนอกไม่สามารถทำลายหรือเข้ามารบกวนได้เลย
3.เดินหน้าหาความสุข
โทนี่ รอบบิ้นส์ ให้แนวคิดว่าความสุขในชีวิตของมนุษย์ ก็คือ การได้เดินตามความฝันหรือตามเป้าหมายของตนเองได้สำเร็จ ดังนั้น เมื่อทุกคนต้องการความสุขจงอย่าละทิ้งเป้าหมาย แม้บางครั้งอาจพบเจอกับความยากลำบาก ก็จงเรียนรู้ที่จะโอบกอดมัน หากปัญหาอุปสรรคนั้นนำมาซึ่งความสุข และความสุข นั่นล่ะคือรางวัลที่จะมอบให้กับเรา
4.รักและให้ความสำคัญกับลูกค้า
โทนี่ รอบบิ้นส์ กล่าวว่า ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพียงเรารักให้ความสำคัญและเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไว้วางใจและเชื่อมั่น เพราะสิ่งเหล่านั้นคือกุญแจแห่งความสำเร็จ ลูกค้าทุกคนก็คือ กลุ่มคนผู้ซึ่งสร้างฝันให้เป็นจริงได้ ยิ่งเราดูแลเอาใจใส่พวกเขามากเพียงใด สิ่งที่พวกเขามอบรางวัลตอบแทนเราก็มากขึ้นเท่านั้น
5.เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง
ค้นหาสิ่งที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเรา ตัวอย่างเช่น หากเราบอกลูกค้าว่าจะจัดส่งของให้ในวันอังคาร แต่สามารถส่งของได้เร็วขึ้นในวันจันทร์ สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นหลักการพื้นฐานที่นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จล้วนนำมาใช้กัน โทนี่ รอบบิ้นส์ ให้แนวคิดว่า ไม่ใช่สิ่งที่เราควรถามตัวเองว่า “แล้วฉันจะได้อะไร” แต่สิ่งที่ควรถามตัวเองก็คือ “แล้วเราได้ให้คุณค่าอะไรกับลูกค้าบ้าง”
6. เตรียมทางออกให้กับทุกๆเรื่อง
ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่าย ๆ บางครั้งสิ่งที่คาดหวังอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ หรือเมื่อทำแล้วไม่ได้ออกมาดีเสมอไป และอาจจะต้องเสียทั้งพลังงาน เวลา หรือทุนทรัพย์ แต่ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ก็ไม่ได้ปิดกั้นความสำเร็จ เพียงเราเตรียมความพร้อม หรือมีการวางแผนไว้รับมือกับทุก ๆ ปัญหา โอกาสตามหาความสำเร็จและความสุขในชีวิตก็ยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน
7.มีไหวพริบในการคิดวิเคราะห์
โทนี่ รอบบิ้นส์ เชื่อว่าความสำเร็จของคนเราไม่ได้มาจากความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่หลายคนสามารถประสบความสำเร็จได้จากการใช้ไหวพริบในการคิดวิเคราะห์หาช่องทางให้กับตัวเอง แม้จะต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคก็จะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย
ตรงกันข้าม บุคคลเหล่านั้นยังพยายามค้นหาแนวทางที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ โดยการเข้าหาคนเก่ง เรียนรู้นิสัยของบุคคลผู้ซึ่งประสบความสำเร็จ รู้จักปรับเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เสมอ
8.ใส่ใจทุกรายละเอียด
แนวคิดที่นำ โทนี่ รอบบิ้นส์ ไปสู่ความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเกิดจากความใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ เพราะเขามองว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือสิ่งที่เล็กที่สุดหลาย ๆ สิ่งมารวมกัน”
ดังนั้น การทำสิ่งใด ๆ จงอย่าลืมให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเมื่อมันมารวมกันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่ยิ่งใหญ่ และอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จได้
9.มองหาพลังเพื่อเติมความฝันให้กับตัวเอง
ความสำเร็จหรือความหวังความฝัน บางครั้งก็ต้องปิดฉากลงก่อนเวลาอันสมควร เปรียบเสมือนการเดินขึ้นไปบนเนินเขาเล็ก ๆ ที่แม้จะยังไม่ได้เดินขึ้นไปก็ต้องตัดใจยอมแพ้เสียก่อน เพราะขาดพลังขาดแรงจูงใจให้เกิดความมุ่งมั่น ดังนั้นจงพยายามต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงในตัวเรา แล้วมองหาคันโยกที่จะพาเราขึ้นไปยังความสำเร็จ แบ่งปัญหาออกเป็นเรื่องเล็กแล้วค่อย ๆ จัดการกับปัญหาให้หมดไปทีละเรื่อง
10.ปรับเปลี่ยนทัศนคติ
โทนี่ รอบบิ้นส์ บอกว่า ความคิดของคนเราเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าที่สุด แม้ว่าเราไม่อาจสามารถควบคุมโลกภายนอกได้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้แน่นอนคือ ความคิดของเรา ทัศนคติที่ดี จะพาทุกคนก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายและยากลำบากไปได้ แต่ทัศนคติที่ไม่ดี บางทีก็อาจพาโอกาสที่ดี ๆในชีวิตไหลผ่านไปเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ดังนั้นหากทุกคนคิดในสิ่งที่ดี ทัศนคติที่ดี เชื่อว่าชีวิตของเราก็จะดีตามไปด้วย
***การดำเนินชีวิตของคนเรา ในบางครั้งก็ต้องการผู้นำทางหรือบุคคลที่คอยชี้นำกระตุ้นเตือน เพื่อช่วยให้เราค้นหาตัวตนหรือกล้าที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เดินไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็นของเรา
#ขอบคุณบทความนี้ค่ะ
10 นิสัยคนรวย ที่เปลี่ยนหน้าตาชีวิตของคุณไปตลอดกาล
.
ถ้าอยากเปลี่ยนชีวิต? ลองดูว่าคุณมีนิสัยพวกนี้รึยัง
.
1. คิดแบบเจ้าของธุรกิจ
คนรวยมองทุกอย่างเป็นโอกาส ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่ง แต่คิดว่า “ถ้าเป็นเรา จะทำยังไงให้ดีกว่า?”
2. ลงทุนในตัวเองก่อน
ความรู้ ทักษะ และคอนเนคชั่น = เงินในอนาคต คนรวยอ่านหนังสือ เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
3. ใช้เงินให้ทำงานแทน
ไม่ใช่แค่หาเงิน แต่ต้องให้เงินงอกเงยผ่านการลงทุน คนรวยเข้าใจเรื่องกระแสเงินสด (Cash Flow) ดีมาก
4. โฟกัสที่โอกาส ไม่ใช่อุปสรรค
เจอปัญหาแล้วไม่บ่น แต่ถามว่า “จะแก้ยังไง?” คนรวยมองเห็นช่องทางที่คนอื่นมองข้าม
5. กล้าตัดสินใจ ไม่ลังเลนาน
เวลาจะลงทุนหรือเริ่มอะไรใหม่ คนรวยคิดเร็ว ลองเร็ว และปรับตัวไว ไม่ติดอยู่ในโหมด “คิดเยอะแต่ไม่ได้ทำ”
6. บริหารเวลาเหมือนบริหารเงิน
พวกเขารู้ว่าเวลามีค่ากว่าเงิน เพราะหาเพิ่มไม่ได้ งานไหนไม่สำคัญ = จ้างคนทำ งานไหนเพิ่มมูลค่า = ทำเอง
7. คบคนที่พาเราโต
สังคมรอบตัวสำคัญมาก คนรวยเลือกอยู่กับคนที่ช่วยผลักดัน ไม่ใช่ดึงให้จมไปกับดราม่า
8. กล้าขาย ไม่อายขาย
ทุกอย่างคือการขาย ไม่ว่าตัวเอง ไอเดีย หรือสินค้าของเรา ถ้าคุณไม่ขาย คนอื่นก็ไม่รู้จักและไม่ซื้อ
9. ไม่เสียเวลาพิสูจน์ตัวเองให้คนที่ไม่ใช่
พวกเขาโฟกัสที่เป้าหมาย ไม่สนใจคนที่วิจารณ์แต่ไม่ได้ช่วยอะไร
10. เริ่มก่อนไม่ติดเพอเฟค
คนรวยไม่รอให้ทุกอย่างพร้อม 100% แต่เริ่มทำ แล้วค่อยแก้ไปตามทาง เพราะถ้ารอให้เพอร์เฟ็กต์ อาจไม่มีวันได้เริ่มเลย!
#วิธีคิด #สร้างตัวตน #ธุรกิจออนไลน์ #สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ #พัฒนาตัวเอง
ค่าโอนที่ดิน 2568
รวมประเภทค่าโอนที่สำคัญๆในการซื้อ-ขาย บ้านและที่ดิน มาให้ศึกษากันค่ะ
.
◇ #การให้ในกรณีอื่นๆ (บุคคลทั่วไป)
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมิน
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาประเมิน
หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (เลือกที่สูงกว่า)
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
คิดตามอัตราปกติจากราคาประเมิน
เกี่ยวกับที่ดิน👉 #WWE:https://s.shopee.co.th/6fSKrY5wRu
.
.
☆ #การโอนซื้อขายปกติ
- ค่าคำขอโอนที่ดิน 5 บาท
- ค่าอากร 5 บาท
- ค่าพยาน 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน คิดที่ 2% ของราคาประเมิน
หรือราคาขาย ใช้ราคาสูงสุดในการคำนวณ
- ค่าจดจำนองที่ดิน คิดที่ 1% ของมูลค่าที่จดจำนอง 
แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
ซึ่งจะเก็บในกรณีที่กู้เงินจากธนาคารมาซื้อ
- ค่าอากรแสตมป์ คิดที่ 0.5% ของราคาประเมิน
หรือราคาขาย ใช้ราคาสูงสุดในการคำนวณ
แต่ถ้าผู้ขายถือครองที่ดินครบ 5 ปี
จะเสียค่าโอนที่ดินแค่ค่าอากรแสตมป์
ไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ คิดที่ 3.3% ของราคาประเมิน
หรือราคาขาย ใช้ราคาสูงสุดในการคำนวณ
กรณีผู้ขายถือครองที่ดินน้อยกว่า 5 ปี
ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
แต่จะได้รับยกเว้นค่าอากรแสตมป์
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เนื่องจากเงินที่ได้จากการขายที่ดินถือเป็นรายได้
จึงต้องนำมาคำนวณในค่าโอนที่ดินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
โดยมีการหักค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่ถือครอง
.
#เครดิต อสังหา100ล้าน
#อสังหา100ล้าน
#ค่าโอนที่ดิน2568
#ค่าโอน
การบำรุงรักษารถและการดูแลรถ
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
แนวคิดที่ดี 20 ข้อ สรุปมาให้ จากหนังสือ "ขโมยความคิดของ คนเก่งที่สุดในโลก“
แนวคิดที่ดี 20 ข้อ สรุปมาให้ จากหนังสือ
"ขโมยความคิดของ
คนเก่งที่สุดในโลก"
1. การที่จะประสบความสำเร็จ
ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จำเป็นที่สุดคือต้อง
มีความรักในสิ่งที่ทำ
2. คนที่ประสบ
ความสำเร็จจะเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง
และแสวงหาความรู้ใหม่ๆอย่างไม่มี
ที่สิ้นสุด เพื่อพัฒนา
ตัวเองอยู่เสมอ
3. ความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเราไม่กล้าเสี่ยง
เพราะทุกสิ่งที่เราทำย่อมมีความเสี่ยง
แต่รางวัลที่จะได้รับจาก
ความเสี่ยงคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
4. เหตุผลสำคัญที่สุด
ที่ทำให้คนเราจนหรือรวยคือ
ความเชื่อ จงเริ่มด้วยความเชื่อ
ที่จะสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ว่า
เราเกิดมาเพื่อรวย และจงมุ่งมั่นต่อสู้พยายาม
และอุตสาหะ สักวันเรา
จะเอาชนะโชคชะตาได้สำเร็จ
5. คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับคุณค่าที่ยิ่งใหญ่
ในตัวเอง เราต้องไม่ดูถูกตัวเอง และ
เชื่อมั่นในคุณค่าความสามารถและ
ความพยายามของเราทำสิ่งที่เราทำอยู่ให้ดีที่สุด
จะทำให้เราได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ
ในชีวิตได้ ขอเพียงเชื่อมั่นในคุณค่า
ของตัวเองเท่านั้น
6. ความล้มเหลวเป็น
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
แต่มันจะมีค่ามากถ้าเราเรียนรู้และจดจำไว้
เป็นบทเรียนสอนตัวเองบนเส้นทางที่เดินต่อไป
ข้างหน้า แม้ในวันที่เราประสบความสำเร็จ
7. การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิสัยที่แย่ๆแม้จะเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ก็ยังดีกว่าการไม่พยายาม อย่างน้อยที่สุด เราจะเป็นคนที่พัฒนาขึ้นทุกวันและในที่สุดการสร้างนิสัยใหม่ที่ดีขึ้นจะกลายเป็นผลสำเร็จและดึงผลลัพธ์ที่ดีกว่าเข้ามาในชีวิต
8. ความสำเร็จของคนเราย่อมเกิดมาจากความคิด และความคิดแรกในจุดเริ่มต้น ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะเป็นตัวกำหนดเป้าหมายสูงสุดที่เราจะไปถึง ความคิดใหญ่จะทำให้เรามีพลัง
มีความทะเยอทะยานและไม่ยอมแพ้
9. เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำดูถูกได้
ต้องมองในแง่บวกเพื่อใช้เป็นแรงกระตุ้นตัวเอง
ให้พยายามมากขึ้น พัฒนาขึ้นและ
ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
10. การจะทำสิ่งหนึ่งให้สำเร็จได้ต้องใช้พลัง
ถ้าปราศจากความชอบและความหลงใหล
ในงานย่อมไม่มีพลังที่จะสร้างผลงานที่ดีที่สุด
ได้ความสำเร็จเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด
ในการทำงาน ซึ่งเกิดจากการแสวงหาความรู้
ประสบการณ์ และการพัฒนาตัวเอง
11. เลิกคิดที่จะทำตามคนอื่น
แล้วค้นหาตัวเองและทำในสิ่ง
ที่แตกต่าง แล้วเราจะประสบความสำเร็จ
12. คนรวยจะใช้เวลากับการคิด
วางแผนและลงมือทำ เพราะบางสิ่ง
จะเปลี่ยนแปลงไปทันทีถ้าลงมือทำ
เป็นการขยับตัวไม่ใช่ขยับปากด้วยการบ่น
แล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง
13. ความเข้มแข็งคือ
สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้
เราสามารถต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาและ
ลุกขึ้นจากความท้อแท้ที่เกิดขึ้นในชีวิต
ทุกครั้งที่สามารถผ่านพ้นสิ่งต่างๆได้
จะรู้สึกถึงพลังความเชื่อมั่นในตัวเอง
14. เป้าหมายคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
ทำให้มีพลัง ทำให้เรามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เป็นบวกในชีวิต นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง
15. การกระทำของเราย่อมเกิดจากทัศนคติ
ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น
ไม่ใช่ว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงที่การกระทำ
แต่เราต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ทัศนคติของเราก่อน
ถ้าเราพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่ดีเข้ามา
ในชีวิตก็ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยวิธีคิด
ที่ดีกว่าเดิมเท่านั้น
16.การเลือกคบกับคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่มีวิสัยทัศน์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จ สามารถชี้ทางและดึงเราไปสู่ความสำเร็จให้เราได้
17. คนที่ประสบความสำเร็จ จะไม่มีขอบเขตจำกัดความฝัน และฝันไกลกว่าคนส่วนใหญ่ทั่วๆไป ซึ่งจะทำให้เขาไปถึงจุดที่คนอื่นไปไม่ถึงทำให้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ในชีวิต
18. อย่าใช้ชีวิตไปวันๆอย่างขาดพลังและขาดเป้าหมาย ชีวิตจะมีความหมายมีคุณค่าเมื่อเรามีพลัง
ที่เกิดจากแรงบันดาลใจ หรือความปรารถนา
อันแรงกล้าที่จะใช้ชีวิตในแต่ละวัน
อย่างกระตือรือร้นและมีความสุข
19. ความสำเร็จต้องใช้เวลาและความพยายาม การก้าวไปสู่ความสำเร็จต้องก้าวไปทีละก้าว จดจ่อและทุ่มเทกับสิ่งที่เราทำ ถ้าเราสนุกกับทุกก้าวที่เดิน
เส้นทางที่เราเดินจะไม่ยาวไกลและ
เราจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วกว่าที่คิด
20. แต่ละคนเกิดมามีพรสวรรค์
ที่แตกต่างกันและไม่สามารถทำบางสิ่ง
ได้ดีเท่าเทียมกัน ผู้นำที่ฉลาดจะรู้ว่าใคร
สามารถทำอะไรได้ดีที่สุด แล้วใช้
พรสวรรค์ของคนให้เป็น จะเป็นผู้นำ
ที่ประสบความสำเร็จ
วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ทำตามนี้ได้ เงินไหลเข้าแน่นอน
“เลิกถามว่าจะรวยเมื่อไหร่ แค่ทำตามนี้”
1. เงินไหลไปหาคนที่มี “คุณค่า”
และ “ความสามารถ” เสมอ
ถ้าทำอะไรแบบขอไปที ก็จะได้ผลลัพธ์แบบขอไปที
• แต่ถ้าพัฒนาตัวเองให้เก่งพอ มองเห็นโอกาสที่คนอื่นไม่เห็น เงินก็จะไหลเข้ามาเอง
2. คนที่รวย ไม่ใช่เพราะทำมากกว่า แต่เพราะ “คิดต่าง”
💡 ถ้ายังคิดเหมือนคนทั่วไป ก็อย่าหวังว่าชีวิตจะเปลี่ยน
• ถ้าคิดแค่ “หาเงิน” ก็จะได้แค่เงินเดือน
• แต่ถ้าคิดว่า “สร้างระบบเงิน” ก็จะมีอิสระ
3. Passion หมดได้… แต่วินัยต้องมีเสมอ
💡 แรงบันดาลใจมาแล้วก็ไป แต่ถ้ามีวินัย จะไปได้ตลอด
• วันที่หมดไฟก็ต้องทำต่อ
• วันที่ขี้เกียจ ก็ต้องลุกขึ้นมาสู้
4. ถ้ารอให้พร้อม จะไม่มีวันเริ่ม
💡 ไม่มีใครเริ่มต้นตอนรู้ทุกอย่าง
ทุกคนเริ่มตอนยังไม่พร้อมเสมอ
• อย่ารอให้มีเงินก่อนแล้วค่อยลงทุน
• อย่ารอให้มีเวลาว่างแล้วค่อยเริ่ม
• อย่ารอให้มั่นใจแล้วค่อยลงมือทำ
5. ไม่มีใครเฝ้ามอง แต่ต้องทำให้เหมือนทุกคนจับตาดู
💡 ความสำเร็จเริ่มจากวันที่ไม่มีใครสนใจ
• แต่ถ้าทำต่อไป วันหนึ่งทุกคนจะหันมามองเอง
6. อย่าเสียเวลาโอดครวญ ใช้พลังงานไปกับการลงมือทำ
💡 บ่นเรื่องความไม่ยุติธรรม ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
• แต่การลุยต่อ แม้ในวันที่แย่ที่สุด นั่นแหละที่เปลี่ยนชีวิต
7. จงเป็นคนที่ “เงินไหลเข้าหา” ไม่ใช่เป็นคนที่ “วิ่งไล่ตามเงิน”
💡 หาเงินเองไปตลอดชีวิต มันเหนื่อย แต่ถ้าสร้างระบบให้เงินไหลเข้าหา ต่อให้หยุดทำงาน รายได้ก็ยังเข้ามา
8. ไม่มีใครสำเร็จเพราะ “แค่พยายาม”
แต่ต้อง “พยายามในสิ่งที่ถูกต้อง”
💡 ทำงานหนักไม่พอ ต้องทำงานให้ฉลาดด้วย
• วิ่งเร็วแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าวิ่งผิดทาง
9. ทุกวันที่พัฒนาตัวเอง กำลังเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเอง
💡 เงินไม่ได้อยู่กับคนที่ “อยากได้” แต่มันอยู่กับคนที่ “คู่ควร”
• ถ้าตัวเองยังเหมือนเดิม
ก็อย่าหวังว่าเงินจะเข้ามาเพิ่ม
10. จงหิวโหย… และกระหายเสมอ
💡 อย่าพอใจกับความสำเร็จเล็ก ๆ
• ต้องทำต่อไป แม้ไม่มีใครเห็น
• ต้องพัฒนาตัวเอง แม้ไม่มีใครชื่นชม
เพราะสุดท้าย “คุณจะเป็นคนนั้นได้” 😉
ที่มา ครูนอดหน่อย
ราคาที่ต้องจ่าย
ข้อคิดดี ๆ ที่ได้จากหนังสือ
Atomic Habits
1. การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ทำให้เกิดผลลัพธ์ยิ่งใหญ่
ทุกการกระทำในชีวิตประจำวันของเรานั้นเหมือนหยดน้ำที่เล็กเกินกว่าจะสังเกตเห็น แต่เมื่อเราทำมันอย่างต่อเนื่อง มันจะรวมตัวกันกลายเป็นทะเลแห่งความสำเร็จ การปรับเปลี่ยนนิสัยเล็กน้อย เช่น การออกกำลังกายเพียง 10 นาทีต่อวัน หรือการอ่านหนังสือวันละไม่กี่หน้า จะค่อย ๆ สะสมจนกลายเป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ พลังของการทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้โดยไม่ต้องทำการปฏิวัติชีวิตทั้งระบบ สิ่งสำคัญคือการยอมรับว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากความพยายามที่หักโหม แต่จากการค่อย ๆ เดินหน้าไปเรื่อย ๆ
2. นิสัยเกิดจากอัตลักษณ์ ไม่ใช่เป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องดี แต่การนิยามตัวตนและเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับนิสัยที่เราต้องการเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า การบอกตัวเองว่า “ฉันเป็นคนที่รักสุขภาพ” แทนที่จะตั้งเป้าว่าจะลดน้ำหนักเป็นตัวเลขนั้น ช่วยให้เราตัดสินใจและลงมือทำในแบบที่สอดคล้องกับคนที่เราต้องการจะเป็น การสร้างนิสัยที่ดีจึงไม่ใช่เพียงแค่การทำสิ่งใหม่ ๆ แต่คือการเปลี่ยนแปลงว่าคุณมองตัวเองเป็นใคร เมื่อเรามีความเชื่อมั่นในตัวเอง นิสัยที่ดีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราโดยธรรมชาติ
3. สิ่งแวดล้อมเป็นกุญแจสำคัญของนิสัย
บรรยากาศรอบตัวเรามีอิทธิพลอย่างมากต่อนิสัยและพฤติกรรมของเรา ถ้าเราต้องการสร้างนิสัยที่ดี เช่น การอ่านหนังสือทุกวัน เราควรสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่าน เช่น วางหนังสือไว้ใกล้มือ หรือลดสิ่งรบกวนอย่างโทรศัพท์มือถือ เมื่อเราจัดวางสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา มันจะทำให้นิสัยดี ๆ เกิดขึ้นง่ายและเป็นธรรมชาติ ในทางกลับกัน หากเราปล่อยให้สิ่งแวดล้อมเต็มไปด้วยสิ่งรบกวน เราจะพบว่าการเปลี่ยนนิสัยเป็นเรื่องยาก
4. การหาความพึงพอใจในกระบวนการเป็นหัวใจสำคัญ
คนมักมองหาผลลัพธ์ที่ต้องการทันที แต่แท้จริงแล้ว ความพึงพอใจในระหว่างทางเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อ การมุ่งเน้นที่การเพลิดเพลินกับกระบวนการ เช่น การสนุกกับการวิ่ง ไม่ใช่แค่การวิ่งเพื่อผลลัพธ์ จะช่วยให้เราไม่เหนื่อยล้าเร็ว การหาความสุขและความภูมิใจในทุกก้าวเล็ก ๆ ที่ทำได้ เป็นการสร้างแรงผลักดันภายในอย่างยั่งยืน เมื่อเราชอบกระบวนการ นิสัยดีก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างไม่มีการต่อต้าน
5. การปรับปรุง 1% ทุกวันดีกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หลายคนคิดว่าความสำเร็จเกิดขึ้นจากการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว การพัฒนาทีละน้อยวันละ 1% ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและมั่นคง การตั้งเป้าเล็ก ๆ ให้ตนเองสามารถบรรลุได้ทุกวัน จะทำให้เรารู้สึกถึงความก้าวหน้าอยู่เสมอ และนั่นคือแรงกระตุ้นที่ทำให้เราไม่ย่อท้อ ความสำเร็จคือการสะสมของการปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ จนวันหนึ่ง เราจะหันกลับมามองและรู้สึกได้ว่าตัวเองเดินมาไกลกว่าที่เคยคิดไว้
6. อย่าเชื่อมั่นในพลังใจมากเกินไป ให้ระบบช่วยเรา
พลังใจนั้นมีขีดจำกัด แต่ระบบและกระบวนการที่เราสร้างขึ้นสามารถช่วยเราให้ไม่หลงทาง การวางแผน การกำหนดเวลา และการติดตามผล ทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนและไม่พึ่งพาพลังใจเพียงอย่างเดียว การสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพล่วงหน้า หรือการกำหนดตารางการออกกำลังกาย จะทำให้นิสัยดี ๆ เกิดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยแรงบันดาลใจที่ผันผวน ระบบคือเกราะที่ปกป้องเราจากการล้มเหลวเมื่อพลังใจหมดลง
7. ล้มเหลวไม่ได้หมายความว่าต้องหยุด
การสร้างนิสัยที่ดีไม่ใช่เรื่องง่าย และการล้มเหลวระหว่างทางเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญคือการกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ แม้ว่าจะล้มเหลวในวันหนึ่ง แต่วันต่อไปก็เป็นโอกาสที่เราจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง การยอมรับความล้มเหลวอย่างมีสติ และไม่ปล่อยให้มันขัดขวางความก้าวหน้า ทำให้เราสามารถเดินต่อไปได้ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นจากการไม่ล้มเหลวเลย แต่จากการลุกขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ
สั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.JAPKt?cc
Shopee : https://s.shopee.co.th/5Aae9EUnlQ
พิกัดโคมไฟ
Shopee : https://s.shopee.co.th/1qMjNysUwC
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.GPbuZ?cc
พิกัดที่ตั้งหนังสือ
https://s.lazada.co.th/s.GPbma?cc
ปรแกรมจิต 99 ประโยค เปลี่ยนชีวิต 21 วัน
- โปรแกรมจิต 99 ประโยค เปลี่ยนชีวิต 21 วัน
เพจ:ปาฏิหาริย์เปลี่ยนชีวิต
- ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ-
1.ฉันรักตัวเอง
2.ฉันภูมิใจในตัวเอง
3.ฉันให้อภัยตัวเอง
4.ต่อไปนี้ชีวิตของฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
5.ฉันมีความสุขในทุก ๆ วัน
6.ฉันเป็นคนโชคดี
7.ฉันเป็นคนยิ้มง่ายๆ
8.ฉันสนุกกับการหัวเราะ
9.ฉันมีความมั่นใจในตัวเอง
10.ฉันประสบความสำเร็จได้ง่าย
11.ฉันมองเห็นความสุข
12.ฉันมีความคิดสร้างสรรค์
13.ฉันมีพลังจินตภาพที่แสนวิเศษ
14.ฉันมีสุขภาพใจและกายดีเยี่ยม
15.ฉันยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็น
16.ฉันเปิดรับสิ่งดีเข้ามาในชีวิต
17.ชีวิตฉันยอดเยี่ยมเสมอ
18.ฉันลิขิตชีวิตของฉันเองได้
19.ฉันลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในทันที
20.ฉันเลือกทำสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุด
21.ฉันปรับตัวได้อย่างคล่องแคล่ว
22.ฉันมุ่งความใส่ใจไปยังผลลัพธ์ที่ต้องการ
23.ฉันรู้วิธีเพิ่มพลังใจให้ตัวเองทุกวัน
24.ฉันตั้งใจทำสิ่งใดผลลัพธ์นั้นย่อมเป็นบวกเสมอ
25.พลังจิตใต้สำนึกของฉันช่วยปรับแผนงานให้ก้าวหน้าเสมอ
26.ฉันกำลังสร้างอนาคตในวันนี้
27.ฉันเป็นคนมีเสน่ห์และเปี่ยมด้วยพลัง
28.ความเชี่ยวชาญของฉันเพิ่มขึ้นทุกวัน
29.ฉันเป็นคนกล้าและคว้าทุกโอกาสเข้ามาไว้ทันที
30.ฉันพร้อมเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตไปตามที่ฉันต้องการ
31.ฉันพูดจากับใครก็ตามฉันพูดด้วยความมั่นใจ
32.ถ้าฉันคิดว่าทำได้ฉันย่อมทำได้
33.ฉันตัดสินใจได้เด็ดขาดในทุกสถานการณ์
34.คำพูดของฉันมีน้ำเสียงที่ทรงพลัง
35.ฉันเลือกอยู่ในอารมณ์เช่นใดก็ได้
36.ฉันให้เกียรติผู้อื่นเสมอ
37.ฉันเชื่อมั่นในพลังความดี
38.ฉันเชื่อมั่นในกฏของการกระทำ
39.เมื่อฉันทำสิ่งใดย่อมได้รับสิ่งนั้น
40.ฉันรักและปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น
41.ฉันเป็นผู้ให้และผู้รับที่ยอดเยี่ยม
42.ฉันมุ่งมั่นทำความดี
43.ฉันปล่อยวางได้ง่าย
44.จิตใจของฉันโปร่งเบาสบายเป็นสุข
45.ฉันเลือกอยู่ท่ามกลางผู้คนที่คิดบวก
46.ใบหน้าของฉันแจ่มใสและเป็นมิตร
47.ฉันทักทายผู้อื่นด้วยความจริงใจ
48.ฉันตั้งใจฟังผู้อื่นอย่างใส่ใจ
49.ฉันเป็นมิตรกับผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย
50.ฉันมองหาข้อดีของผู้อื่นได้ง่าย
51.ฉันชื่นชมผู้อื่นด้วยความจริงใจ
52.ทุกคนมีข้อดีในตัวเองรวมถึงฉันด้วย
53.ฉันมีรอยยิ้มอบอุ่นจริงใจ
54.ฉันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
55.ฉันชื่นชอบการหายใจเข้าและออก ยาวๆช้าๆ
56.หายใจเข้าทำให้ฉันรู้สึกโล่งเบาสบาย
57.หายใจออกทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย
58.ฉันเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
59.จิตใจของฉันสงบผ่อนคลาย
60.เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของฉันมีความสุข
61.หัวใจของฉันแข็งแรงมีสุขภาพดี
62.สมองของฉันจดจำเรื่องราวที่ดีและสร้างสรรค์
63.ฉันนอนหลับอย่างเป็นสุข
64.ฉันตื่นขึ้นด้วยความสดชื่นแจ่มใส
65.กายและใจของฉันทำงานสัมพันธ์กันอย่างยอดเยี่ยม
66.ฉันพร้อมรับโอกาสดีๆเสมอ
67.โอกาสดีๆวิ่งมาหาฉันทุกวัน
68.คนโชคดีอยู่ที่ไหน คนๆนั้นย่อมเป็นฉัน
69.ฉันฝึกจิตใจของฉันให้โปร่งเบาได้ง่าย
70.ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเสมอ
71.ฉันเป็นคนอารมณ์ดี
72.ฉันรักเงินทอง เงินทองก็รักฉัน
73.เงิน คือ เพื่อนแท้ มีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน
74.ฉันโชคดีมีเงินมากพอเข้ากระเป๋าของฉันทุกวัน
75.ฉันคือมนุษย์แม่เหล็กดึงดูดเงินล้าน
76.ฉันโชคดีเรื่องเงินเสมอ
77.ฉันวางแผนการเงินของฉันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
78.ฉันกำลังสร้างทรัพย์สินของฉันให้งอกเงยทุกวัน
79.ฉันสนุกกับการดึงดูดเงินและทำเงินให้ตัวเอง
80.ฉันคืออภิมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ
81.ฉันเป็นสุดยอดอัจฉริยะด้านการเงิน
82.ทรัพย์สินของฉันเพิ่มพูนขึ้นมหาศาลทุกวัน
83.การลงทุนของฉันล้วนทำกำไรให้ฉัน
84.ทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันลงทุนไปคืนกลับมาท่วมทับทวีคูณ
85.ฉันกำลังสร้างความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้ตนเอง
86.ทุกอย่างที่ฉันจินตนาการ นำความร่ำรวยมาสู่ชีวิตฉัน
87.เพราะความซื่อสัตย์สุจริตในใจฉัน ฉันจึงมั่งคั่งร่ำรวย
88.ฉันคือแม่เหล็กแห่งเงินทอง
89.ฉันคืนกำไรกลับคืนสู่สังคมอย่างสม่ำเสมอ
90.ฉันคิดประโยคใหม่ๆมาเติมพลังให้ตัวเองได้ทุกวัน
91.ฉันเชื่อมพลังจิตใต้สำนึกของฉันได้ง่าย
92.ความคิดของฉันสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
93.จินตนาการของฉัน กำลังสร้างมันให้กลายเป็นจริง
94.ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น ดีขึ้น ในทุกวันและทุกทาง
95.ฉันเป็นคนมีเป้าหมายในตัวเอง
96.ฉันมองเป้าหมายของฉันเสมือนว่าฉันทำสำเร็จไปแล้ว
97.ฉันบรรลุเป้าหมายหลายด้านในชีวิตด้วยความสนุกสนาน
98.ทุกอย่างที่ฉันนึกภาพขึ้นในใจด้วยความเชื่อย่อมสำเร็จเสมอ
99.คลิปเสียง NLP โปรแกรมจิตเปลี่ยนชีวิตใน 21 วัน
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
เครดิต:MD Johnny Professional Hypnotherapy & Counselling
-----------------------------
เพจ:ปาฏิหาริย์เปลี่ยนชีวิต
- ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ-
วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
#ผักแพว ...ไม่ใช่แค่วัชพืชนะ ลดเชื้อ ต้านมะเรง
#ผักแพว ...ไม่ใช่แค่วัชพืชนะ
ลดเชื้อ ต้านมะเรง ดีน๊า
👇✨️สรรพคุณ เลิศ หากกินประจำ✨️
1. ต้านอนุมูลอิสระ
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น มะ
2. บำรุงหัวใจ
มีฤทธิ์ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด ส่งผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
3. ช่วยย่อยอาหาร
กระตุ้นเอนไซม์ย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
4. ต้านเชื้อแบคทีเรีย
มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร
5. แก้ท้องเสีย
ใช้เป็นสมุนไพรช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง
6. ช่วยขับลม
ลดอาการแน่นท้องและช่วยขับลมออกจากร่างกาย
7. ลดการอักเสบ
มีสารต้านการอักเสบที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
8. บรรเทาอาการหวัด
ช่วยลดไข้ แก้ไอ และบรรเทาอาการคัดจมูก
9. แก้พิษแมลงกัดต่อย
นำใบมาตำพอกบริเวณที่ถูกกัด ช่วยลดอาการบวมและคัน
10. ช่วยให้เจริญอาหาร
กลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักแพวช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร
11. ขับปัสสาวะ
มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ
12. บำรุงสมอง
มีสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและระบบประสาท
13. บรรเทาอาการปวดฟัน
ใช้ใบสดเคี้ยวหรือทาบริเวณฟันที่ปวด
14. ป้องกันโรคเกาต์
ช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเกาต์
15. ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต
กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการชาและเหน็บ
16. ลดกลิ่นตัว
สารในผักแพวช่วยลดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นปาก
วิธีใช้
นำมารับประทานสดกับอาหาร เช่น ลาบ ก้อย แหนมเนือง
ใช้ต้มดื่มเป็นน้ำสมุนไพร
ใช้พอกหรือประคบบริเวณที่มีอาการ
#มล #Healthy #สุขภาพดี #สมุนไพร #พืชผักสมุนไพร
วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ความสำเร็จในการทำหมันปลาหมอคางดำ
เกลือเขียวมรกต(เกลือชะคราม)
เปลี่ยนบทความให้เป็นพอดแคสต์ ด้วย AI ฟรี! Google AI
ใครอยากเริ่มต้นทำพอดแคสต์แต่ไม่มีไมค์ ไม่มีสตูดิโอ หรือไม่อยากอัดเสียงเอง? วันนี้คุณสามารถเปลี่ยนบทความหรือข้อความของคุณให้กลายเ...
-
ในโลกที่ใครๆ ก็สามารถพูดได้ทุกอย่างแต่ไม่ใช่ทุกคน....ที่จะลงมือทำจริง หลายคนพยายามอธิบายว่า.. "ตัวเองเก่งแค่ไหน"...แต...
-
เทคโนโลยี่ EREV คือการใช้เครื่องยนต์สันดาบน้ำมัน มาผลิตกระแสไฟฟ้ากำลังมาอย่างแรงที่จีน เพื่อผลิตรถยนต์ส่งออกเป็นหลัก กับประเทศที่ยังไม่มีคว...
-
ชวน เปรียบเทียบ #DeepSeek VS #ChatGPT ตัวไหนน่าใช้งานมากกว่ากัน - ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการไอทีต้องใช้ตัวไหน แล้วเพราะเหตุใดจึงทำให้วงการเอไอใน...