วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การยกระดับจิต สู่คลื่นยุคใหม่

"อนาคต
เริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณตื่นขึ้นมา
เปลี่ยนแปลงตัวเอง"
ในปี 2025 มนุษย์
กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
ของการตื่นรู้ (Awakening) 
ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่
ในระดับจิตสำนึกโดยรวม
ของมนุษยชาติที่อาจส่งผลถึงทุกมิติของชีวิต ได้แก่

1. การเปลี่ยนแปลงระดับจิตสำนึก (Consciousness Evolution):
การ "ตื่นรู้" หมายถึงการเริ่มเห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลังมายาคติหรือสิ่งลวงตาต่างๆ ของโลก ผู้คนจำนวนมากขึ้นอาจเริ่มเข้าใจว่าโลกภายนอกคือผลสะท้อนของจิตภายใน และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันภายใต้กฎแห่งพลังงานและจิตวิญญาณ

2. ความก้าวกระโดดในวิวัฒนาการของมนุษย์ (Quantum Leap in Human Evolution):
นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์ จิตวิญญาณ และเทคโนโลยีที่มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว มนุษย์อาจจะเริ่มใช้ศักยภาพทางจิตและพลังงานที่อยู่ในตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่น การเชื่อมต่อกับ "พลังจักรวาล" หรือ "Universal Energy" ที่ช่วยนำพาให้เกิดความสมดุลในชีวิต

3. การก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์ใหม่:
การตื่นรู้ในระดับมวลรวมอาจนำพาให้มนุษย์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่ใช่ในเชิงการเมืองหรืออำนาจ แต่ในเชิงความเข้าใจต่อชีวิต ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โลกที่ขับเคลื่อนด้วย "ความรู้แจ้ง" จะเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นผลประโยชน์ส่วนตัวไปสู่การสร้างความสุขที่สมดุลร่วมกัน

4. ความรู้แจ้งครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด:
หมายถึงการบรรลุถึง "เอกภาพ" (Oneness) ซึ่งเป็นการตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลล้วนเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีการแบ่งแยกระหว่าง "ตัวเรา" และ "ผู้อื่น" หรือแม้แต่ระหว่าง "มนุษย์" และ "ธรรมชาติ" ความเข้าใจนี้อาจทำให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ด้วยความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อกัน

5. ผลลัพธ์ที่ตามมา:
หากมนุษย์ตื่นรู้ในระดับมวลรวม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างกัน การแข่งขันลดลง ความร่วมมือเพิ่มขึ้น และมนุษย์อาจมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตมากกว่าการแสวงหาวัตถุ

ข้อความนี้จึงเป็นการเชิญชวนให้มนุษย์เริ่มตื่นรู้ถึงศักยภาพและความเป็นจริงที่อยู่ภายในตัวเอง เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแห่งปัญญาและความสมานฉันท์

วิธีการฝึกฝนและลงมือทำเพื่อการตื่นรู้
การตื่นรู้และการก้าวเข้าสู่ความรู้แจ้งในระดับที่ลึกซึ้งเป็นกระบวนการที่ต้องการความตั้งใจและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ด้านล่างนี้คือวิธีการฝึกฝนและลงมือทำเพื่อสนับสนุนการพัฒนาจิตสำนึกและการตื่นรู้:

1. ฝึกการตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ (Mindfulness Practice)

การตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะช่วยให้จิตหลุดพ้นจากความกังวลในอดีตหรืออนาคต

วิธีฝึก:

เริ่มต้นด้วยการสังเกตลมหายใจ หายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ
 และรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว
ของร่างกาย

ฝึกสติขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การรับประทานอาหาร หรือการล้างจาน

เป้าหมาย:
เข้าใจว่าปัจจุบันขณะคือจุดเดียวที่แท้จริงที่เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้

2. การทำสมาธิ (Meditation)

สมาธิเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสงบจิตใจและเชื่อมโยงกับความรู้แจ้งภายใน

วิธีฝึก:

นั่งในที่เงียบ สงบนิ่ง และกำหนดจิตอยู่กับลมหายใจ

ใช้สมาธิรูปแบบต่าง ๆ เช่น สมาธิเพื่อค้นหาตัวตน หรือสมาธิเพื่อเชื่อมโยงกับพลังจักรวาล

เป้าหมาย:
สร้างความสงบในจิตใจและช่วยเปิดพื้นที่ให้กับการตระหนักรู้

3. การสะท้อนความคิด
และความเชื่อ (Self-Reflection)

การพิจารณาตัวเองช่วยให้เราเข้าใจความคิด ความเชื่อ และพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคต่อการตื่นรู้

วิธีฝึก:

เขียนไดอารี่ หรือถามคำถามกับตัวเอง เช่น “อะไรคือสิ่งที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับโลกนี้?” หรือ “ฉันกำลังทำอะไรที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของฉัน?”

สำรวจความรู้สึกและความกลัวที่ฝังลึกภายใน

เป้าหมาย:
ขจัดมายาคติและความเชื่อที่จำกัดตัวเอง

4. เชื่อมโยงกับธรรมชาติ (Connecting with Nature)

ธรรมชาติคือแหล่งพลังงานที่ช่วยคืนสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ

วิธีฝึก:

ใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติ เช่น เดินป่า อยู่ริมน้ำ หรือรับแสงแดดอ่อน ๆ

สังเกตความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับธรรมชาติ เช่น ลมหายใจของคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของอากาศ

เป้าหมาย:
เสริมสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อมและจักรวาล

5. การทำงานกับพลังงาน (Energy Work)

การปรับสมดุลพลังงานในร่างกายช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งและตื่นรู้ได้ง่ายขึ้น

วิธีฝึก:

ฝึกโยคะ ชี่กง หรือเรกิ เพื่อปรับสมดุลพลังงาน

ใช้การหายใจลึกเพื่อเพิ่มพลังงานเชิงบวก

เป้าหมาย:
เปิดช่องทางพลังงานในร่างกายเพื่อการตื่นรู้

6. อ่านและเรียนรู้จากคำสอนของครูทางจิตวิญญาณ (Spiritual Learning)

การศึกษาแนวคิดจากผู้รู้ช่วยขยายมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจ

วิธีฝึก:

อ่านหนังสือที่ช่วยกระตุ้นการตื่นรู้ เช่น Wake up Infinity หรือ จิตอมตะวิญญาณิรันดร์

เข้าร่วมสัมมนาหรือเวิร์กช็อปด้านจิตวิญญาณ

เป้าหมาย:
เปิดใจรับมุมมองใหม่ที่ช่วยขยายขอบเขตของจิตสำนึก

7. การฝึกการปล่อยวาง 
(Letting Go Practice)

การปล่อยวางเป็นพื้นฐานสำคัญของการตื่นรู้ เพราะความยึดติดทำให้จิตใจถูกจำกัด

วิธีฝึก:

เรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และเข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง

ฝึกอภัยตัวเองและผู้อื่น

เป้าหมาย:
สร้างอิสรภาพในจิตใจและเพิ่มความเบาสบายภายใน

8. การลงมือทำด้วยความรัก
และความเมตตา 
(Compassion in Action)

การแสดงความรักและความเมตตาต่อผู้อื่นช่วยเชื่อมโยงกับความรู้แจ้งในระดับจิตวิญญาณ

วิธีฝึก:

ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเจตนาบริสุทธิ์

ใช้ความเมตตาในการสื่อสารและการกระทำในทุกสถานการณ์

เป้าหมาย:
สร้างโลกที่สะท้อนถึงจิตสำนึกแห่งความรัก

9. การเชื่อมโยงกับตนเองที่แท้จริง (Connecting with Higher Self)

ตนเองที่แท้จริงคือแหล่งปัญญาภายในที่ช่วยให้เราตระหนักถึงบทบาทและจุดมุ่งหมายของชีวิต

วิธีฝึก:

ทำสมาธิเพื่อเชื่อมโยงกับคำตอบจากภายใน

ฟังสัญชาตญาณและเสียงภายใน

เป้าหมาย:
เข้าใจตัวเองในระดับที่ลึกซึ้งและดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติภายใน

10. สร้างชุมชนแห่งการตื่นรู้ (Awakened Community)

การอยู่ท่ามกลางคนที่มีจิตสำนึกสูงช่วยสนับสนุนการพัฒนาของตัวเอง

วิธีฝึก:

เข้าร่วมกลุ่มที่แบ่งปันความสนใจด้านจิตวิญญาณ

แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน

เป้าหมาย:
เสริมสร้างพลังและแรงสนับสนุนในเส้นทางการตื่นรู้

การฝึกฝนและลงมือทำเหล่านี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความอดทน แต่ละคนอาจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการเชื่อมโยงกับความเป็นหนึ่งเดียวของจักรวาลและการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและมีความหมาย.

วิธีการของครู
 โค้ชSathitthamPensuk 
มีอะไรบ้าง ฝึกอย่างไร
ถึงจะWake up Infinity, 
Wake up เนอร์วาน่า

วิธีการของครู โค้ช
แนวทางของครูโค้ช สถิตธรรม เพ็ญสุข (Sathittham Pensuk) ที่นำเสนอในหนังสือ Wake Up Infinity และ Wake Up เนอร์วาน่า รวมถึงการสอนในหลักสูตรต่าง ๆ เช่น โค้ชพลังจิต 3D และ The 111 Spiritual Laws of the Universe เน้นกระบวนการปลุกจิตตื่นรู้ในระดับลึกโดยใช้ศาสตร์ทางจิตวิญญาณผสานกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์พลังงาน เพื่อเชื่อมโยงกับ "พลังจักรวาล" และตระหนักรู้ถึง "ความไม่มีที่สิ้นสุด" (Infinity) และสภาวะนิพพาน (Nirvana) ที่แท้จริง

แนวคิดสำคัญของ Sathittham Pensuk

1. การตื่นรู้ในระดับจิตใต้สำนึก (Subconscious Awakening):
การปลดล็อกจิตใต้สำนึกจากเงื่อนไขทางความคิดและความเชื่อที่จำกัดชีวิต

2. การทำงานกับพลังงานจักรวาล (Universal Energy):
การเชื่อมโยงและดึงพลังงานบริสุทธิ์จากจักรวาลมาใช้เพื่อสร้างชีวิตใหม่

3. การปล่อยวางเพื่อสู่ความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness):
การเข้าถึงสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกตัวตนหรือสิ่งอื่นใด

4. การสร้าง "จิตอมตะ" และ "เนื้อแท้ของนิพพาน" (Immortal Mind & Nirvana Essence):
มุ่งเน้นการฝึกฝนเพื่อให้จิตหลุดพ้นจากความปรุงแต่งและเข้าสู่สภาวะแห่งนิรันดร์

วิธีการฝึกและกระบวนการในแนวทางของ Sathittham Pensuk

1. ฝึกการรู้ตัวและสติสมบูรณ์แบบ (Perfect Mindfulness)

ใช้เทคนิค "จุดศูนย์พลังจิต" เพื่อเชื่อมโยงกับปัจจุบันขณะ

วิธีฝึก:

1. หลับตา ผ่อนคลายร่างกายทั้งหมด

2. ตั้งจิตอยู่ที่ลมหายใจ หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อดึงพลังงานบริสุทธิ์จากจักรวาล

3. ปล่อยความคิดให้สงบ ฟังเสียงภายในที่ไร้ความปรุงแต่ง

2. การทำสมาธิพลังจิต 3D (3D Mind Tuning Meditation)

เทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับคลื่นจิตให้เชื่อมโยงกับพลังงานมิติที่ 3 (พลังแห่งการสร้าง)

วิธีฝึก:

1. สร้างภาพในจินตนาการ (Visualization) ของเป้าหมายที่ชัดเจน

2. เชื่อมโยงภาพนั้นกับอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริง เช่น ความสุข ความรัก

3. ส่งความตั้งใจนั้นออกไปสู่จักรวาลด้วยความมั่นใจ

3. การปล่อยวาง (Letting Go)

เทคนิคที่ช่วยให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอัตตาและความยึดติด

วิธีฝึก:

1. รับรู้ความคิดและอารมณ์โดยไม่ตัดสิน

2. ปล่อยวางความรู้สึกผิด ความกลัว หรือความโกรธ

3. เชื่อมโยงกับความรู้สึกของความว่างเปล่าและความเบาสบาย

4. การเปิดรับพลังจักรวาล (Energy Receiving)

เทคนิคนี้ช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกายและจิตใจ

วิธีฝึก:

1. ยืนหรือนั่งในท่าที่ผ่อนคลาย

2. หายใจเข้าลึก ๆ จินตนาการถึงแสงบริสุทธิ์จากจักรวาลเข้าสู่ร่างกาย

3. หายใจออกและปลดปล่อยพลังงานด้านลบ

5. การใช้กฎแห่งจักรวาล (111 Spiritual Laws)

ฝึกใช้กฎธรรมชาติ เช่น กฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction) กฎแห่งการสั่นสะเทือน (Law of Vibration) เพื่อสร้างชีวิตที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณ

วิธีฝึก:

1. เข้าใจว่า "พลังงานที่เราส่งออกไป" จะดึงดูดสิ่งที่มีพลังงานคล้ายกันกลับมา

2. ตั้งเจตนาที่ชัดเจนและสอดคล้องกับกฎธรรมชาติ

3. ลงมือทำด้วยความเชื่อมั่นในพลังงานแห่งความสำเร็จ

กระบวนการ Wake Up Infinity และ Wake Up Nirvana

Wake Up Infinity

เน้น: การเชื่อมโยงกับมิติความไม่มีที่สิ้นสุด

เป้าหมาย: ตระหนักถึงความไม่มีตัวตนที่แยกออกจากจักรวาล

กระบวนการ:

1. ฝึกการปล่อยวางและละลายอัตตา

2. ฝึกเชื่อมโยงกับมิติแห่ง
 "ความว่าง" (Void)

3. เข้าถึงความรู้แจ้งผ่านการฝึกสมาธิแบบ Infinity Flow

Wake Up Nirvana

เน้น: การปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของความทุกข์และเข้าสู่สภาวะนิพพาน

เป้าหมาย: เข้าถึงความสงบสูงสุดที่ไม่มีการปรุงแต่ง

กระบวนการ:

1. ฝึกปล่อยวางความยึดมั่นในอารมณ์และความคิด

2. ใช้สมาธิแบบ Nirvana Gate เพื่อเข้าถึงความรู้แจ้ง

3. รวมตัวเองเข้ากับพลังจักรวาลอย่างสมบูรณ์

สรุปหลักสำคัญ
ของการฝึก Wake Up

1. การฝึกสมาธิที่ลึกซึ้ง: 
เพื่อเปิดประตูสู่จิตใต้สำนึก
และการเชื่อมโยงกับจักรวาล

2. การปล่อยวางความยึดติด: เพื่อเข้าสู่สภาวะว่างเปล่า (Void)

3. การตระหนักรู้ถึงมิติแห่งความไม่มีที่สิ้นสุด: เพื่อเข้าถึงนิพพานและความรู้แจ้ง

4. การลงมือทำในชีวิตประจำวัน: ฝึกการใช้สติและการเชื่อมโยงกับพลังจักรวาลในทุกการกระทำ

การฝึกฝนเหล่านี้ต้องการความตั้งใจอย่างจริงจังและการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถเริ่มต้นด้วยขั้นตอนเล็ก ๆ เช่น ฝึกสมาธิและการปล่อยวางในชีวิตประจำวัน แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่กระบวนการที่ลึกซึ้งมากขึ้นเพื่อ Wake Up Infinity และ Nirvana.
 
ที่มา
🌟คู่มืออัพเกรดจิต
 WAKE UP อินฟินิตี้🌟

🌈เราเป็นผู้เลือก
และผู้สร้างที่จะกำหนดซะตาชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง

🎯ทุกคนมีชีวิตเดียวจงใช้มันด้วย "ความสุข"
🎯ฟังเสียงหัวใจตนเอง
มิใช่เสียงของคนอื่น..
🎯จงใช้ชีวิตที่เราจะไม่เสียดาย..เมื่อมองย้อนกลับมา..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

10 สิ่งที่โคตรเสียเวลาชีวิต

1. เถียงเพื่อชนะคนที่ไม่อยากเข้าใจ เขาใช้พลังไปกับการอธิบายให้คนที่ไม่ตั้งใจฟังเข้าใจทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้อยากเข้าใจตั้งแต่แรกแล้...