เริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณตื่นขึ้นมา
เปลี่ยนแปลงตัวเอง"
ในปี 2025 มนุษย์
กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
ของการตื่นรู้ (Awakening)
ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่
ในระดับจิตสำนึกโดยรวม
ของมนุษยชาติที่อาจส่งผลถึงทุกมิติของชีวิต ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงระดับจิตสำนึก (Consciousness Evolution):
การ "ตื่นรู้" หมายถึงการเริ่มเห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลังมายาคติหรือสิ่งลวงตาต่างๆ ของโลก ผู้คนจำนวนมากขึ้นอาจเริ่มเข้าใจว่าโลกภายนอกคือผลสะท้อนของจิตภายใน และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันภายใต้กฎแห่งพลังงานและจิตวิญญาณ
2. ความก้าวกระโดดในวิวัฒนาการของมนุษย์ (Quantum Leap in Human Evolution):
นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์ จิตวิญญาณ และเทคโนโลยีที่มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว มนุษย์อาจจะเริ่มใช้ศักยภาพทางจิตและพลังงานที่อยู่ในตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่น การเชื่อมต่อกับ "พลังจักรวาล" หรือ "Universal Energy" ที่ช่วยนำพาให้เกิดความสมดุลในชีวิต
3. การก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์ใหม่:
การตื่นรู้ในระดับมวลรวมอาจนำพาให้มนุษย์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่ใช่ในเชิงการเมืองหรืออำนาจ แต่ในเชิงความเข้าใจต่อชีวิต ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โลกที่ขับเคลื่อนด้วย "ความรู้แจ้ง" จะเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นผลประโยชน์ส่วนตัวไปสู่การสร้างความสุขที่สมดุลร่วมกัน
4. ความรู้แจ้งครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด:
หมายถึงการบรรลุถึง "เอกภาพ" (Oneness) ซึ่งเป็นการตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลล้วนเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีการแบ่งแยกระหว่าง "ตัวเรา" และ "ผู้อื่น" หรือแม้แต่ระหว่าง "มนุษย์" และ "ธรรมชาติ" ความเข้าใจนี้อาจทำให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ด้วยความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อกัน
5. ผลลัพธ์ที่ตามมา:
หากมนุษย์ตื่นรู้ในระดับมวลรวม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างกัน การแข่งขันลดลง ความร่วมมือเพิ่มขึ้น และมนุษย์อาจมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตมากกว่าการแสวงหาวัตถุ
ข้อความนี้จึงเป็นการเชิญชวนให้มนุษย์เริ่มตื่นรู้ถึงศักยภาพและความเป็นจริงที่อยู่ภายในตัวเอง เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแห่งปัญญาและความสมานฉันท์
วิธีการฝึกฝนและลงมือทำเพื่อการตื่นรู้
การตื่นรู้และการก้าวเข้าสู่ความรู้แจ้งในระดับที่ลึกซึ้งเป็นกระบวนการที่ต้องการความตั้งใจและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ด้านล่างนี้คือวิธีการฝึกฝนและลงมือทำเพื่อสนับสนุนการพัฒนาจิตสำนึกและการตื่นรู้:
1. ฝึกการตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ (Mindfulness Practice)
การตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะช่วยให้จิตหลุดพ้นจากความกังวลในอดีตหรืออนาคต
วิธีฝึก:
เริ่มต้นด้วยการสังเกตลมหายใจ หายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ
และรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว
ของร่างกาย
ฝึกสติขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การรับประทานอาหาร หรือการล้างจาน
เป้าหมาย:
เข้าใจว่าปัจจุบันขณะคือจุดเดียวที่แท้จริงที่เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
2. การทำสมาธิ (Meditation)
สมาธิเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสงบจิตใจและเชื่อมโยงกับความรู้แจ้งภายใน
วิธีฝึก:
นั่งในที่เงียบ สงบนิ่ง และกำหนดจิตอยู่กับลมหายใจ
ใช้สมาธิรูปแบบต่าง ๆ เช่น สมาธิเพื่อค้นหาตัวตน หรือสมาธิเพื่อเชื่อมโยงกับพลังจักรวาล
เป้าหมาย:
สร้างความสงบในจิตใจและช่วยเปิดพื้นที่ให้กับการตระหนักรู้
3. การสะท้อนความคิด
และความเชื่อ (Self-Reflection)
การพิจารณาตัวเองช่วยให้เราเข้าใจความคิด ความเชื่อ และพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคต่อการตื่นรู้
วิธีฝึก:
เขียนไดอารี่ หรือถามคำถามกับตัวเอง เช่น “อะไรคือสิ่งที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับโลกนี้?” หรือ “ฉันกำลังทำอะไรที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของฉัน?”
สำรวจความรู้สึกและความกลัวที่ฝังลึกภายใน
เป้าหมาย:
ขจัดมายาคติและความเชื่อที่จำกัดตัวเอง
4. เชื่อมโยงกับธรรมชาติ (Connecting with Nature)
ธรรมชาติคือแหล่งพลังงานที่ช่วยคืนสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ
วิธีฝึก:
ใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติ เช่น เดินป่า อยู่ริมน้ำ หรือรับแสงแดดอ่อน ๆ
สังเกตความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับธรรมชาติ เช่น ลมหายใจของคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของอากาศ
เป้าหมาย:
เสริมสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อมและจักรวาล
5. การทำงานกับพลังงาน (Energy Work)
การปรับสมดุลพลังงานในร่างกายช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งและตื่นรู้ได้ง่ายขึ้น
วิธีฝึก:
ฝึกโยคะ ชี่กง หรือเรกิ เพื่อปรับสมดุลพลังงาน
ใช้การหายใจลึกเพื่อเพิ่มพลังงานเชิงบวก
เป้าหมาย:
เปิดช่องทางพลังงานในร่างกายเพื่อการตื่นรู้
6. อ่านและเรียนรู้จากคำสอนของครูทางจิตวิญญาณ (Spiritual Learning)
การศึกษาแนวคิดจากผู้รู้ช่วยขยายมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจ
วิธีฝึก:
อ่านหนังสือที่ช่วยกระตุ้นการตื่นรู้ เช่น Wake up Infinity หรือ จิตอมตะวิญญาณิรันดร์
เข้าร่วมสัมมนาหรือเวิร์กช็อปด้านจิตวิญญาณ
เป้าหมาย:
เปิดใจรับมุมมองใหม่ที่ช่วยขยายขอบเขตของจิตสำนึก
7. การฝึกการปล่อยวาง
(Letting Go Practice)
การปล่อยวางเป็นพื้นฐานสำคัญของการตื่นรู้ เพราะความยึดติดทำให้จิตใจถูกจำกัด
วิธีฝึก:
เรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และเข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง
ฝึกอภัยตัวเองและผู้อื่น
เป้าหมาย:
สร้างอิสรภาพในจิตใจและเพิ่มความเบาสบายภายใน
8. การลงมือทำด้วยความรัก
และความเมตตา
(Compassion in Action)
การแสดงความรักและความเมตตาต่อผู้อื่นช่วยเชื่อมโยงกับความรู้แจ้งในระดับจิตวิญญาณ
วิธีฝึก:
ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเจตนาบริสุทธิ์
ใช้ความเมตตาในการสื่อสารและการกระทำในทุกสถานการณ์
เป้าหมาย:
สร้างโลกที่สะท้อนถึงจิตสำนึกแห่งความรัก
9. การเชื่อมโยงกับตนเองที่แท้จริง (Connecting with Higher Self)
ตนเองที่แท้จริงคือแหล่งปัญญาภายในที่ช่วยให้เราตระหนักถึงบทบาทและจุดมุ่งหมายของชีวิต
วิธีฝึก:
ทำสมาธิเพื่อเชื่อมโยงกับคำตอบจากภายใน
ฟังสัญชาตญาณและเสียงภายใน
เป้าหมาย:
เข้าใจตัวเองในระดับที่ลึกซึ้งและดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติภายใน
10. สร้างชุมชนแห่งการตื่นรู้ (Awakened Community)
การอยู่ท่ามกลางคนที่มีจิตสำนึกสูงช่วยสนับสนุนการพัฒนาของตัวเอง
วิธีฝึก:
เข้าร่วมกลุ่มที่แบ่งปันความสนใจด้านจิตวิญญาณ
แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน
เป้าหมาย:
เสริมสร้างพลังและแรงสนับสนุนในเส้นทางการตื่นรู้
การฝึกฝนและลงมือทำเหล่านี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความอดทน แต่ละคนอาจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการเชื่อมโยงกับความเป็นหนึ่งเดียวของจักรวาลและการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและมีความหมาย.
วิธีการของครู
โค้ชSathitthamPensuk
มีอะไรบ้าง ฝึกอย่างไร
ถึงจะWake up Infinity,
Wake up เนอร์วาน่า
วิธีการของครู โค้ช
แนวทางของครูโค้ช สถิตธรรม เพ็ญสุข (Sathittham Pensuk) ที่นำเสนอในหนังสือ Wake Up Infinity และ Wake Up เนอร์วาน่า รวมถึงการสอนในหลักสูตรต่าง ๆ เช่น โค้ชพลังจิต 3D และ The 111 Spiritual Laws of the Universe เน้นกระบวนการปลุกจิตตื่นรู้ในระดับลึกโดยใช้ศาสตร์ทางจิตวิญญาณผสานกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์พลังงาน เพื่อเชื่อมโยงกับ "พลังจักรวาล" และตระหนักรู้ถึง "ความไม่มีที่สิ้นสุด" (Infinity) และสภาวะนิพพาน (Nirvana) ที่แท้จริง
แนวคิดสำคัญของ Sathittham Pensuk
1. การตื่นรู้ในระดับจิตใต้สำนึก (Subconscious Awakening):
การปลดล็อกจิตใต้สำนึกจากเงื่อนไขทางความคิดและความเชื่อที่จำกัดชีวิต
2. การทำงานกับพลังงานจักรวาล (Universal Energy):
การเชื่อมโยงและดึงพลังงานบริสุทธิ์จากจักรวาลมาใช้เพื่อสร้างชีวิตใหม่
3. การปล่อยวางเพื่อสู่ความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness):
การเข้าถึงสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกตัวตนหรือสิ่งอื่นใด
4. การสร้าง "จิตอมตะ" และ "เนื้อแท้ของนิพพาน" (Immortal Mind & Nirvana Essence):
มุ่งเน้นการฝึกฝนเพื่อให้จิตหลุดพ้นจากความปรุงแต่งและเข้าสู่สภาวะแห่งนิรันดร์
วิธีการฝึกและกระบวนการในแนวทางของ Sathittham Pensuk
1. ฝึกการรู้ตัวและสติสมบูรณ์แบบ (Perfect Mindfulness)
ใช้เทคนิค "จุดศูนย์พลังจิต" เพื่อเชื่อมโยงกับปัจจุบันขณะ
วิธีฝึก:
1. หลับตา ผ่อนคลายร่างกายทั้งหมด
2. ตั้งจิตอยู่ที่ลมหายใจ หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อดึงพลังงานบริสุทธิ์จากจักรวาล
3. ปล่อยความคิดให้สงบ ฟังเสียงภายในที่ไร้ความปรุงแต่ง
2. การทำสมาธิพลังจิต 3D (3D Mind Tuning Meditation)
เทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับคลื่นจิตให้เชื่อมโยงกับพลังงานมิติที่ 3 (พลังแห่งการสร้าง)
วิธีฝึก:
1. สร้างภาพในจินตนาการ (Visualization) ของเป้าหมายที่ชัดเจน
2. เชื่อมโยงภาพนั้นกับอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริง เช่น ความสุข ความรัก
3. ส่งความตั้งใจนั้นออกไปสู่จักรวาลด้วยความมั่นใจ
3. การปล่อยวาง (Letting Go)
เทคนิคที่ช่วยให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอัตตาและความยึดติด
วิธีฝึก:
1. รับรู้ความคิดและอารมณ์โดยไม่ตัดสิน
2. ปล่อยวางความรู้สึกผิด ความกลัว หรือความโกรธ
3. เชื่อมโยงกับความรู้สึกของความว่างเปล่าและความเบาสบาย
4. การเปิดรับพลังจักรวาล (Energy Receiving)
เทคนิคนี้ช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกายและจิตใจ
วิธีฝึก:
1. ยืนหรือนั่งในท่าที่ผ่อนคลาย
2. หายใจเข้าลึก ๆ จินตนาการถึงแสงบริสุทธิ์จากจักรวาลเข้าสู่ร่างกาย
3. หายใจออกและปลดปล่อยพลังงานด้านลบ
5. การใช้กฎแห่งจักรวาล (111 Spiritual Laws)
ฝึกใช้กฎธรรมชาติ เช่น กฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction) กฎแห่งการสั่นสะเทือน (Law of Vibration) เพื่อสร้างชีวิตที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณ
วิธีฝึก:
1. เข้าใจว่า "พลังงานที่เราส่งออกไป" จะดึงดูดสิ่งที่มีพลังงานคล้ายกันกลับมา
2. ตั้งเจตนาที่ชัดเจนและสอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
3. ลงมือทำด้วยความเชื่อมั่นในพลังงานแห่งความสำเร็จ
กระบวนการ Wake Up Infinity และ Wake Up Nirvana
Wake Up Infinity
เน้น: การเชื่อมโยงกับมิติความไม่มีที่สิ้นสุด
เป้าหมาย: ตระหนักถึงความไม่มีตัวตนที่แยกออกจากจักรวาล
กระบวนการ:
1. ฝึกการปล่อยวางและละลายอัตตา
2. ฝึกเชื่อมโยงกับมิติแห่ง
"ความว่าง" (Void)
3. เข้าถึงความรู้แจ้งผ่านการฝึกสมาธิแบบ Infinity Flow
Wake Up Nirvana
เน้น: การปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของความทุกข์และเข้าสู่สภาวะนิพพาน
เป้าหมาย: เข้าถึงความสงบสูงสุดที่ไม่มีการปรุงแต่ง
กระบวนการ:
1. ฝึกปล่อยวางความยึดมั่นในอารมณ์และความคิด
2. ใช้สมาธิแบบ Nirvana Gate เพื่อเข้าถึงความรู้แจ้ง
3. รวมตัวเองเข้ากับพลังจักรวาลอย่างสมบูรณ์
สรุปหลักสำคัญ
ของการฝึก Wake Up
1. การฝึกสมาธิที่ลึกซึ้ง:
เพื่อเปิดประตูสู่จิตใต้สำนึก
และการเชื่อมโยงกับจักรวาล
2. การปล่อยวางความยึดติด: เพื่อเข้าสู่สภาวะว่างเปล่า (Void)
3. การตระหนักรู้ถึงมิติแห่งความไม่มีที่สิ้นสุด: เพื่อเข้าถึงนิพพานและความรู้แจ้ง
4. การลงมือทำในชีวิตประจำวัน: ฝึกการใช้สติและการเชื่อมโยงกับพลังจักรวาลในทุกการกระทำ
การฝึกฝนเหล่านี้ต้องการความตั้งใจอย่างจริงจังและการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถเริ่มต้นด้วยขั้นตอนเล็ก ๆ เช่น ฝึกสมาธิและการปล่อยวางในชีวิตประจำวัน แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่กระบวนการที่ลึกซึ้งมากขึ้นเพื่อ Wake Up Infinity และ Nirvana.
ที่มา
🌟คู่มืออัพเกรดจิต
WAKE UP อินฟินิตี้🌟
🌈เราเป็นผู้เลือก
และผู้สร้างที่จะกำหนดซะตาชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง
🎯ทุกคนมีชีวิตเดียวจงใช้มันด้วย "ความสุข"
🎯ฟังเสียงหัวใจตนเอง
มิใช่เสียงของคนอื่น..
🎯จงใช้ชีวิตที่เราจะไม่เสียดาย..เมื่อมองย้อนกลับมา..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น