.
.
1 ปักหมุดสินค้าที่ Hot ที่สุด
เพื่อดึงดูดลูกค้า
.
2 ถ้าลูกค้าสนใจตัวไหน
ถ้าเพิ่งเปลี่ยนไปพูดตัวอื่น
ให้พูดตัวที่ลูกค้าสนใจก่อน
มันดึงการมีส่วนร่วมได้
.
3 ควรมีแอดมินประจำการไลฟ์สด
ให้เขาขึ้นสินค้าตามที่เราพูด
.
4 ถ้าตะกร้าสินค้าสามารถขึ้น
Hot 999+ เมื่อไหร่
ระบบจะส่งคนมาให้อีกเยอะมาก
.
5 ยิ่งหัวใจในไลฟ์เยอะ
ระบบจะยิ่งนำส่งเพิ่มมากขึ้น
คุณเจนนี่บอกว่า 10 ล้านหัวใจ
จะยิ่งเพิ่มการมองเห็น
.
.
6 ยึดคนดูในไลฟ์สดเป็นสำคัญ
เพราะยิ่งเขาอยู่ เขาคอมเมนต์
เขากดหัวใจ และซื้อของ ระบบยิ่งดัน
.
7 บางครั้งสูญเสียตัวตนบ้างนิดหน่อย
เพื่อดึงให้ลูกค้าอยู่กับเราไปเรื่อย ๆ ได้
.
8 ถ้ามีเทรนด์ ให้รีบไลฟ์
และทำคลิปของสินค้าตัวนั้นเลย
ระบบมันจะนำส่งให้ทั้งหมด
.
9 ถ้าสินค้าตัวนั้นมันแมส
ขายได้เกิน 1,000 บ้าน
มันจะกลายเป็นสินค้าขายดี
ให้รีบทำคลิป มันจะแมสเอง
ดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องยิงแอด
เพราะระบบกำลังนำส่งสินค้าตัวนี้ให้อยู่
.
10 ถ้าไม่มีเวลาทำคลิป
นำไลฟ์ไปตัดต่อเป็นคลิปสั้น
แล้วไปปักตะกร้าต่อยอดได้เลย
.
.
11 ถ้าจะให้โปรราคาที่ดีที่สุด
ต้องจำกัดจำนวน ห้ามให้ได้ทุกคน
เช่น 1,000 – 2,000 บ้าน
หรือไม่ก็ให้ทุกคนแต่จำกัดเวลา
ว่าโปรนี้ภายใน 3 นาที
5 นาที หรือ 10 นาที
.
12 ต้องกระตุ้นคนที่กดใส่ตะกร้าเอาไว้
ให้เขากดชำระเงินด้วย
โดยการพูดกระตุ้นให้
เขากดยืนยันให้เร็วที่สุด
.
13 ถ้าแบรนด์ขาดทุน
เราจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 หรือ 2 ปี
ดังนั้น ต้องวางโครงสร้างราคาสินค้าดี ๆ
.
14 ถ้ายอดขายเยอะ ๆ จะมี
TikTok ประเทศไทยเข้าไป
ดูแลแบรนด์คุณอย่างเป็นทางการ
.
15 เวลาขายอย่าแค่ยืนถือของ
ต้องใช้ให้ดู บีบครีมให้ดู ทาให้ดู
กินให้ดู หรือทำอะไรก็ได้ให้ลูกค้าเห็น
.
.
16 เทคนิคการใช้โค้ชส่วนลด
เช่น ถ้าตั้งราคา 600 บาท
ลูกค้าจะกดได้ 480 บาท
(เป็นส่วนลดที่ TikTok สนับสนุนให้
เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องลดเอง
แต่มันจะได้จำกัด
เช่น 1,000 บ้านต่อวัน)
แต่บางทีถ้าเราตั้งราคา 590 บาท
ลูกค้าจะไม่ได้ส่วนลด
เพราะบางทียอดขั้นต่ำไม่ถึง
ควรเช็คราคาและโค้ชส่วนลด
ในแต่ละวันให้ดี
(ถ้ามี TikTok ประเทศไทยดูแล
เขาจะแจ้งเราทุกวัน)
ยิ่งลูกค้าใช้โค้ชได้
เขาก็จะยิ่งอยากกดซื้อ
.
17 ถ้าขายแล้วปิดยอดไม่ได้
แปลว่า มาผิดทาง ต้องเปลี่ยนทันที
เช่น ในไลฟ์พี่ป๋อ
เป็นคนเอนเตอร์เทนคนดู
พี่เอ๋ (ภรรยาพี่ป๋อ)
เป็นคนพูดสรรพคุณของสินค้า
และเกิดยอดขายในไลฟ์จริง ๆ
แปลว่า มาถูกทาง
ให้ทำแบบนี้ต่อได้
แต่ถ้าไม่ได้ยอด
แบรนด์จะต้องกลับไปคิดว่า
จะต้องปรับอะไรดี
.
18 อย่าขายของทั้งไลฟ์
เพราะเราจะไม่สามารถดึงคนดู
ให้อยู่กับเราทั้งคลิปได้
เพราะหัวใจของการไลฟ์คือ
“ความสนุกสนาน”
ห้ามทำไลฟ์ที่น่าเบื่อ
หรือมีแต่การขายอย่างเดียวเด็ดขาด
.
19 เทคนิคการขายของ
แต่ละช่องจะไม่เหมือนกัน
เพราะพฤติกรรมของลูกค้า
ในแต่ละช่องก็จะไม่เหมือนกัน
ดังนั้น วิธีที่คนอื่นใช้แล้วเวิร์ค
มันอาจจะไม่เวิร์คกับช่องเราก็ได้
ให้หมั่นสังเกตพฤติกรรมคนดู
ของเราเป็นหลัก เมื่อเราไลฟ์ทุกวัน
เราจะรู้ว่าคนที่ดูเป็นคนแบบไหน
อายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร
และทำแบบไหนถึงจะขายได้
.
.
20 คุณแจนนี่แนะนำว่า
ให้ทำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ เป็นปี ๆ
เราจะเข้าใจลูกค้าอย่างชัดเจน
เราจะขายของได้คมกริบ
.
.
21 ต้องใส่ใจกับคอมเมนต์มาก ๆ
ถ้าคอมเมนต์ไปทางไหน
ให้เราไปทางเดียวกันกับคอมเมนต์
.
22 เรากำลังขายของ
เราต้องการเงินจากเขา
บางทีเราจะเป็น
ตัวของตัวเอง 100% ไม่ได้
เราต้องทำอย่างไรก็ได้
ให้เขารู้สึกสะดวกสบาย
และการซื้อของจากเรา
เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด
(แต่ถ้าไลฟ์ไม่ได้ขายของ
จะทำอะไรก็ได้
เป็นตัวเองได้เลย 100 %)
.
23 เวลารีวิวสินค้า อย่าลืม
“ต้องแสดงให้คนดู
เห็นแล้วเขาอยากได้”
ตัวอย่างในไฟล์ของพี่ป๋อ
คุณแจนนี่ให้พี่เอ๋ดื่มน้ำ
โชว์ให้คนดูเห็นว่ามัน
อร่อยจริง ๆ
.
24 คนดูชอบความเรียล
วันนึงที่ขายเก่งแล้ว
ก็รักษาความเรียลนี้ไว้
ห้ามเป็นนักขายจนเกินไป
คนดูจะหายและไม่ซื้อ
.
25 คนรักที่ความเป็น
ธรรมชาติของเรา
เพราะมันหาไม่ได้ในโซเชียลมีเดีย
เพราะทุกคนต่างก็พยายาม
ทำให้ภาพลักษณ์ตัวเองมันดีที่สุด
แต่มันกลับกลายเป็นดาบสองคม
ที่ทำให้คนดูเข้าถึงยากมาก
และบางทีมันส่งผลให้
ลูกค้ารู้สึกอึดอัดเวลา
ที่จะซื้อของจากเรา
.
.
26 คุณเจนนี่เชื่อว่า
การจะทำอะไรให้มันสำเร็จ
บางทีมันไม่จำเป็น
ต้องเล่นใหญ่เสมอไป
เธอไลฟ์ด้วยมือถือ 1 เครื่อง
ใส่ชุดนอน ไม่ได้แต่งหน้าด้วย
และเธอบอกว่า
มีทีมงานแอดมินอยู่หลังกล้อง
แค่ 2 คนเท่านั้น
.
27 การที่มีคนดู
คือหัวใจสำคัญมาก ๆ
ถ้าไม่มีคนดูทุกอย่างคือ จบเลย
แม้จะอยากขายขนาดไหน
มันก็ไม่ควรจะขายตลอดเวลา
เพราะสุดท้ายคนดูจะเบื่อ
และออกจากไลฟ์ไป
พอไม่มีคนดู เราจะขายใครล่ะ
ดังนั้น เราต้องมีเวลาพักเบรกจ
ากการขาย เพื่อเอนเตอร์เทนคนดู
คุยกับเขา ทำให้เขาอยาก
อยู่ในไลฟ์ไปเรื่อย ๆ
.
28 คุณเจนนี่ เวลาที่ยอดคนดูไลฟ์ตก
ก็จะมีการเอาสินค้าที่แมสมาก ๆ
เช่น ลำโพง เอาออกมาขาย
เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ายังคงอยู่
เพราะทุกคนสามารถใช้สิ่งนี้ได้
และเธอก็จะมีการเพิ่ม
การเอนเตอร์เทน
เข้าไปให้เยอะมากขึ้น
เพื่อให้คนดูอยากอยู่
กับเธอให้นานมากขึ้น
.
29 กระแส มันจะมาแค่ช่วงนึง
แต่หลังจากนั้นเราจะต้องคิดแล้วว่า
เราจะทำอย่างไรให้รักษาคนดู
และลูกค้าให้อยู่กับเราไปได้เรื่อย ๆ
ดังนั้น เราจะต้องเข้าใจว่า
“เขาต้องการอะไรบ้าง”
.
30 ความน่าเชื่อถือสำคัญมาก
ดังนั้น ดาราที่ร่วมไปคอแลป
ขายของกับคุณเจนนี่
ถึงได้รับความไว้วางใจ
เพราะคนเชื่อถือในดาราระดับนึงแล้ว
เขามีตัวตนมีขนาดนี้
ถ้าเขาขายอะไรไม่ดี
ภาพลักษณ์ตลอดหลายสิบปี
ของเขาก็หายไปได้เลย
เขาไม่เอาชื่อเสียงตัวเอง
มาแลกขนาดนั้นหรอก
ดังนั้น ตัวตน
จะนำความน่าเชื่อถือมาให้
และความน่าเชื่อถือ
ก็จะนำยอดขายมาให้เช่นกัน
.
.
31 แบรนด์ที่ยังไม่มีตัวตน
ส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาโดยการยิงแอด
(ซื้อโฆษณาจากแฟลตฟอร์ม)
แต่ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในระยะสั้น
เพราะสุดท้าย พอแบรนด์ไม่มีตัวตน
ก็จะต้องพึ่งแอดไปเรื่อย ๆ
และค่าแอดมันก็จะ
เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ (มันจะไม่มีวันลด)
กำไรของแบรนด์ก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ
.
.
#เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น #ป๋อณัฐวุฒิ #เอ๋พรทิพย์
#เทคนิคขายของ #การตลาดออนไลน์
#ขายของออนไลน์ #เจ้าของแบรนด์
#พ่อมดคอนเทนต์ #jowchayapat #โจ๋วชยพัทธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น