🧠 จะบอกให้คนที่มีภาวะวิตกกังวล หยุดกังวลก็ลำบากมาก เพราะสมองส่วน rACC ที่ทำงานน้อยลง ทำให้ทุกความเป็นไปได้ที่ก่อภัย ถูกเก็บนำมาคิดหมด จนสลัดออกจากหัวไม่ได้
.
เวลาคนเรามีเรื่องอะไรก็ตาม ที่รู้สึกเป็นภัยต่อตัวเองในซักทาง แต่ยังอยู่ไกลจากปัจจุบัน เช่น ผลสอบในเทอมนี้, ผลงานที่ทำออกไปในเมื่อเช้า, ผลตอบแทนจากกิจการตัวเอง ฯลฯ
ทั้งหมดจะถือว่า ‘ภัยคุกคาม’ (Threat) รูปแบบหนึ่ง
.
สมองส่วน amygdala จะรับรู้ถึงจุดนี้ แล้วเปิดโหมดกลัวทันที แต่เป็นความกลัวในรูปแบบที่ไม่รุนแรงถึงขั้นหวาดกลัว/แพนิก มันจะมาในรูปแบบกังวล
แต่คนทั่วไป จะมีสมอง 2 จุดคอยคุมเอาไว้ค่ะ
▪️ dlPFC/vmPFC: คอยควบคุมไม่ให้ amygdala ประมวลผลรุนแรงไป
▪️ rostral anterior cingulate cortex (rACC): คอยควบคุมให้ threat เหล่านี้ มาขัดจังหวะงานหรือกิจกรรมที่ทำตรงหน้า
.
ซึ่งส่วน rACC สำคัญมากๆ เลยค่ะ มันทำให้ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมใดก็ตาม โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากๆ หัวจะโล่ง ไม่คิดถึง Threat ต่างๆ ที่กำลังมีอยู่ หรือคิดน้อยที่สุด และยังสามารถทำกิจกรรมต่อไปได้
.
แต่เรื่องนี้เกิดในคนที่เป็นสภาพวิตกกังวลได้ยากค่ะ
เพราะสมองส่วน rACC เป็นอีกจุดที่ฝ่อลง ทำงานน้อยลง
.
ผลคือ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เข้ามาในความคิด เรื่องที่ทำไปแล้วแล้วรอผลลัพธ์, เรื่องที่ยังไม่เกิดแต่อาจเกิดขึ้นได้ จะถูกส่งมาที่ amygdala หมดเลย
แถม rACC ยังไม่สามารถคัดกรองพวกนี้ออกไปได้เลย ทำให้กิจกรรมทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปหมด สมองหยุดคิดไม่ได้ คิดวนไปวนมา
และถ้าคนนั้นเป็นซึมเศร้าด้วย เนื้อหาที่ถูกดึงมาเป็น Threat ก็จะทำให้ยิ่งเศร้า ยิ่งดิ่ง วนไปวนมา
.
ยังไม่จบค่ะ ไม่ใช่แค่คิดวนไปวนออกมาไม่ได้เท่านั้น
มันยังเปิดโหมด stress response ค้างไว้ด้วย
amygdala ที่ยังตอบสนองต่อ threat ส่งสัญญาณไปบอกระบบประสาทอัตโนวัติ ในคนที่โดนรุนแรงมากพอ ก็จะพบว่าช่วงวิตกกังวล มีชีพจรเต้นถี่ขึ้น
หรือในคนที่รุนแรงมากๆ มันอาจส่งสัญญาณไปถึง ก้านสมองส่วน PAG ซึ่งเป็นตัวสร้างการตอบสนองแบบแพนิก ทำให้เกิดแพนิกได้
.
.
💡 ดังนั้นจะเห็นว่า คนที่วิตกกังวล หลายครั้งหยุดคิดไม่ได้จริง มืออาจจะทำงานไป แต่หัวคิดอย่างอื่นไป ถ้างานนั้นต้องใช้สมาธิและขั้นตอนที่ละเอียด มักจะพลาดได้ง่ายมาก
ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น รับรู้ตัวเองว่าเป็น
และเดินไปพบจิตแพทย์นะคะ ก่อนที่มันจะกระทบต่องานมากๆ ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น