.
เคยคิดว่า ถ้าจะให้วันนึงทำงานได้ดี ต้องเริ่มจาก "แรงบันดาลใจ" หรือ "ความฮึกเหิม" อะไรแบบนั้น
แต่พอทำธุรกิจมาได้สักพัก ได้เจอความจริงข้อหนึ่ง…
.
ต่อให้คุณตั้งใจแค่ไหน ถ้าตอนเช้าของวัน มันมั่ว วันนั้นทั้งวันก็มั่วตาม เลยลองไปหาดูว่าจริงหรือเปล่า ได้เจอว่า มันจริง
.
สิ่งที่เรียกว่า “Decision Fatigue” หรือ "ภาวะล้าเพราะต้องตัดสินใจบ่อยเกินไป" มันกัดกินพลังสมองคุณตั้งแต่เปิดตาตื่น
.
ยิ่งตื่นมายิ่งวุ่ยวาย ไม่ได้เตรียมสมองให้ค่อยๆตื่น เหมือนเหยียบคันเร่ง 0-100
.
มันเหมือนใช้แบตเตอรี่สมอง จนหมดก่อนเที่ยง
แล้วพอบ่ายมา โฟกัสจะไม่ค่อยอยู่
มีโอกาสเลือกอะไรผิดๆ
.
วิธีแก้ไปเจอเทคนิคจาก Gerald Leonard
นักวิจัยที่ศึกษาเรื่อง “สมองกับประสิทธิภาพ”
เขาบอกว่า แค่คุณ “ออกแบบ 60 นาทีแรกของวัน” ให้ดี
มันสามารถเปลี่ยนทั้งวันของคุณได้มี 6 อย่างนี้
.
1. ทำให้ 60 นาทีแรก “เป็นอัตโนมัติ” → ให้คิดน้อยที่สุด สมองจะได้ค่อยๆ ตื่น
.
ช่วงเวลาหลังตื่นนอน สมองยังอยู่ในโหมดที่เรียกว่า “sleep inertia” คือยังไม่ตื่นเต็มที่
หากต้องรีบตัดสินใจหลายเรื่อง เช่น ใส่เสื้ออะไรดี กินอะไรดี จะออกกำลังกายไหม
สมองจะถูกบีบให้ใช้พลังงานจิตตั้งแต่ยังไม่พร้อม และนั่นจะไปเบียดพลังงานที่ควรใช้กับงานสำคัญช่วงสายหรือบ่าย
.
กลยุทธ์คือ “ลดตัวเลือกที่ไม่จำเป็น” โดยทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เช่น
– ใส่เสื้อผ้าชุดเดิม หรือจัดชุดไว้ล่วงหน้า
– วางแผนอาหารเช้าไว้แล้ว ไม่ต้องคิดหน้างาน
– จัดโต๊ะทำงานให้เหมือนกันทุกวัน
.
การทำให้รูทีนเช้าเป็นระบบอัตโนมัติ จะช่วยให้สมองค่อยๆ ฟื้นตัวในจังหวะที่นิ่ง
พร้อมเข้าสู่ช่วงโฟกัสเต็มกำลังในลำดับถัดไป
.
2. วางแผนไว้ตั้งแต่คืนก่อน → จะได้เริ่มเช้าแบบมีทิศทาง ไม่ใช่ตอบสนอง
.
หลายคนเริ่มต้นวันด้วยการเปิดอีเมล หรือเช็คข่าว แล้วโดนลากไปแก้ปัญหาของคนอื่น ทำให้เช้า ซึ่งควรเป็นช่วงที่สมองสดที่สุด กลับหมดไปกับเรื่องด่วนแต่ไม่สำคัญ
.
งานวิจัยชี้ว่า คนที่กำหนด “3 สิ่งที่สำคัญที่สุดของวันถัดไป” ก่อนเข้านอน จะเริ่มวันใหม่ได้อย่างชัดเจน เพราะไม่ต้องเสียเวลาเลือกว่าจะทำอะไรก่อน แถมยังช่วยให้หลับลึกขึ้น เพราะสมองรู้แล้วว่าได้วางแผนไว้แล้ว
.
เทคนิคเล็กๆ ที่ใช้ได้ทันที
– เขียน To-do ที่สำคัญสุด 3 อย่างก่อนนอน
– ห้ามเปิดอีเมลหรือแอปแชตก่อนทำ 1 อย่างแรกให้เสร็จ
นี่คือวิธีคืนการควบคุมเวลาของวัน ให้กลับมาอยู่ในมือเรา
.
3. กินอาหารเช้าที่มีโปรตีน → สมองนิ่ง น้ำตาลไม่เหวี่ยง อารมณ์คุมอยู่
.
สมองคิดเป็นเพียง 2% ของน้ำหนักตัว แต่ใช้พลังงานมากถึง 20% ของร่างกาย ถ้าเช้าไม่มีพลังงานที่ดี สมองจะเข้าสู่โหมด “หิว+หงุดหงิด” อย่างไม่รู้ตัว แถมยังมีแนวโน้มทำพฤติกรรมที่เราควบคุมตัวเองได้น้อยลง เช่น ใจร้อน ตัดสินใจเร็วเกินไป
.
อาหารเช้าที่ดีควรมี
– โปรตีน (ไข่ ถั่ว ปลา หรือโยเกิร์ตไม่หวาน)
– ไฟเบอร์ (ผัก ผลไม้ ข้าวโอ๊ต)
– ไขมันดี (อะโวคาโด ถั่ว หรือเนยถั่วไม่หวาน)
.
การกินแค่แป้งหรือขนมหวาน จะทำให้น้ำตาลพุ่งแล้วตก → สมาธิหลุด หงุดหงิดง่าย การกินโปรตีนจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ตลอดช่วงเช้า ส่งผลต่อความคิดที่แม่นยำและการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นมาก
.
4. แบ่งเวลาไว้ล่วงหน้า → ลดคำถาม “จะทำอะไรก่อนดี?” ที่กินพลัง
.
ทุกครั้งที่สมองต้องเลือกว่าจะทำอะไรก่อน สมองจะใช้พลังงานแบบเดียวกับการตัดสินใจใหญ่ แม้แต่คำถามง่ายๆ อย่าง “จะเริ่มจากอันไหนก่อนดี?” ก็ทำให้สมองล้าได้โดยไม่รู้ตัว
งานวิจัยจาก University of California พบว่าการเปลี่ยนบริบทไป-มา (Context Switching) ทำให้เสียประสิทธิภาพการทำงานไปมากถึง 40%
.
วิธีลดภาระคือ “ใช้เวลาตัดสินใจล่วงหน้า” แล้วปล่อยให้สมองทำงานตามโหมด เช่น
– 9:00–11:00 งานลึก คิดกลยุทธ์
– 13:00–15:00 ประชุม
– 16:00–17:00 ตอบแชต อีเมล
.
วิธีนี้จะทำให้สมองไม่ต้องถามตัวเองซ้ำๆ ว่าจะทำอะไร และลดความเครียดได้ชัดเจน
.
5. เคลียร์สภาพแวดล้อม → ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้สมองต้องประเมินซ้ำ
.
โต๊ะรกๆ เสียงแจ้งเตือนมือถือ หรือหน้าจอที่เปิดหลายแอปพร้อมกัน คือสัญญาณที่ทำให้สมองต้องประเมิน “ควรสนใจสิ่งนี้ไหม” ตลอดเวลา ซึ่งจะค่อยๆ สะสมเป็นความล้า จนหลุดโฟกัสโดยไม่รู้ตัว
.
การออกแบบพื้นที่ทำงานให้ “เงียบและโล่ง” คือวิธีช่วยลดแรงเสียดทานในการคิด ไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่เป็นการ “ลดภาระตัดสินใจ”
.
ทำได้ทันที เลยคือ
– ปิดแจ้งเตือนทุกแอปในช่วงทำงาน
– ลบไอคอนที่ไม่จำเป็นออกจากหน้าจอ
– เคลียร์โต๊ะให้เหลือแค่ของที่ใช้จริง
แค่จัดสภาพแวดล้อมดีขึ้น สมองจะกลับมาอยู่ในโฟกัสได้เร็วขึ้นอย่างเห็นผล
.
6. ตั้งเวลารีเซ็ตตอนเที่ยง → ช่วงบ่ายจะได้ไม่พังเพราะสมองล้า
.
แม้จะเริ่มวันได้ดีแค่ไหน พอถึงเที่ยง สมองจะเริ่มล้าเพราะใช้พลังในการตัดสินใจสะสมมาทั้งเช้า ช่วงนี้แหละที่คนมักเริ่มตัดสินใจพลาด ใจร้อน หรือหมดสมาธิ วิธีป้องกันไม่ใช่การฝืนทำต่อ แต่คือการ “พักแบบมีคุณภาพ”
.
การรีเซ็ตสมองทำได้ง่ายๆ
– เดินเล่น 10 นาทีโดยไม่จับมือถือ
– ดื่มน้ำหรือกินของเบาๆ ที่ไม่หวานจัด
– เปลี่ยนสถานที่เล็กน้อย เช่น เปลี่ยนจากโต๊ะทำงานไปนั่งริมหน้าต่าง
.
ลองเลือกมาสัก 1–2 ข้อ แล้วเอาไปใช้พรุ่งนี้เช้า
ไม่ต้องทำครบทั้งหมด แค่เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่ลดการตัดสินใจได้ สมองจะค่อยๆ ปรับจังหวะใหม่ให้กับทั้งวัน
เพราะการบริหารเวลาอาจเริ่มจากนาฬิกา
แต่การบริหารสมอง เริ่มจาก 60 นาทีแรกหลังตื่น
.
ถ้าคุณควบคุมช่วงเช้าได้
คุณจะควบคุมทั้งวันได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ลองดูครับ
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
.
#SelfDevelopment
#100WEALTH
#ไปให้ถึง100ล้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น