วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568

10 สิ่งที่โคตรเสียเวลาชีวิต


1. เถียงเพื่อชนะคนที่ไม่อยากเข้าใจ
เขาใช้พลังไปกับการอธิบายให้คนที่ไม่ตั้งใจฟังเข้าใจทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้อยากเข้าใจตั้งแต่แรกแล้ว สุดท้ายก็จบด้วยความเหนื่อยใจโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย บางครั้งการเงียบแล้วเดินออกมามีค่ากว่าการพยายามเปลี่ยนใจใครที่ไม่อยากเปลี่ยน เพราะพลังเดียวกันนั้น เราสามารถใช้เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้แทนที่จะเสียไปกับคนที่ไม่ใช่

2. ฝืนอยู่ในที่ที่ไม่เติบโต
เขาบอกตัวเองว่าอยู่ไปก่อนทั้งที่รู้ว่าที่ตรงนั้นไม่มีอะไรใหม่
ให้เรียนรู้แล้ว เหมือนต้นไม้ที่รากมันแน่นจนโตไม่ได้อีกบางครั้งสิ่งที่ขวางเราไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือความสบายที่ดูปลอดภัยแต่ไม่พาเราไปไหนเลย การกล้าก้าวออกจากที่ที่
ไม่เติบโต อาจเป็นก้าวที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปทั้งชีวิต

3. กังวลกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
เขาหมดเวลาไปกับการคิดซ้ำๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หรือโทษตัวเองไม่หยุดกับอดีต ทั้งที่สิ่งเหล่านั้นเปลี่ยนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เราลืมไปว่า ตอนนี้คือพื้นที่เดียวที่เรามีอำนาจจะเปลี่ยนแปลงได้ การหันมาใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อาจสร้างผลลัพธ์ที่ทำให้อนาคตเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่คาดคิด

4. เปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น
เขามองชีวิตตัวเองผ่านเลนส์ของคนอื่นจนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ทั้งที่ความจริงแล้วเราแต่ละคนมีจังหวะชีวิตไม่เหมือนกันเลย คนที่ประสบความสำเร็จตอนอายุ 25 กับคนที่เริ่มต้นตอนอายุ 45 ก็ไม่ได้แพ้ชนะกัน แต่แค่เลือกเส้นทางที่ต่างกัน สิ่งที่ควรเปรียบเทียบที่สุดไม่ใช่เรากับคนอื่นแต่คือเราวันนี้กับเราเมื่อวาน

5. โทษโชคชะตาแทนที่จะลงมือทำ
เขานั่งรอให้ชีวิตดีขึ้นเหมือนจะมีปาฏิหาริย์มาเปลี่ยนทุกอย่าง ทั้งที่คนที่ดูเหมือนโชคดีล้วนเคยลงมือในวันที่ไม่มีอะไรแน่นอน การลงมือทำแม้เพียงเล็กน้อยในวันนี้ มีค่ากว่าการภาวนาร้อยครั้งในวันพรุ่งนี้ เพราะโชคดีไม่ได้เดินเข้ามาหาใคร แต่เกิดขึ้นเพราะเราก้าวออกไปหามันต่างหาก

6. ทำให้ทุกคนพอใจจนลืมใจตัวเอง
เขาใช้ชีวิตตามที่คนอื่นคาดหวังจนลืมถามว่าตัวเอง
อยากได้อะไรจริงๆ เหมือนคนขับรถที่เอาแต่แวะรับทุกคนระหว่างทางแต่ไม่เคยไปถึงจุดหมายของตัวเองเลย ความจริงคือเราไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนรักเรา เพราะต่อให้เราทำดีที่สุดก็ยังมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่ดี จงใช้ชีวิตให้ตัวเองภูมิใจมากกว่าทำเพื่อให้ ทุกคนพอใจ

7. ติดอยู่กับความผิดพลาดเดิมๆ
เขาย้ำเตือนตัวเองทุกวันถึงเรื่องที่พลาดในอดีตจนไม่กล้าเริ่มใหม่ ทั้งที่ไม่มีใครใช้ชีวิตโดยไม่พลาดเลย ความผิดพลาดไม่ได้มีไว้ให้เราหยุด แต่มันมีไว้ให้เราเรียนรู้แล้วเดินต่อให้ดีกว่าเดิม ทุกครั้งที่ล้ม คืออีกก้าวหนึ่งที่พาเราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น ถ้าเราไม่ลุกขึ้นใหม่ความพ่ายแพ้จะกลายเป็นจริง แต่ถ้าเราลุกขึ้นอีกครั้งมันก็เป็นแค่เรื่องราว

8. ใช้เวลากับคนที่ไม่เห็นค่าเรา
เขาทุ่มทั้งใจให้กับคนที่ไม่เคยให้ค่ากลับมา จนลืมว่าตัวเอง
ก็มีค่าควรพอที่จะได้รับความรักดีๆ เหมือนกัน การพยายาม
อยู่ในที่ที่เราไม่เป็นที่ต้องการ ไม่ได้พิสูจน์ว่าเรารักมากแค่ไหน แต่มันพิสูจน์ว่าเราไม่รักตัวเองพอ การปล่อยมือจากคนที่ไม่เห็นค่าเรา คือการเปิดพื้นที่ให้คนที่เห็นค่าเราได้เข้ามา

9. ผัดวันประกันพรุ่งทุกเรื่องสำคัญ
เขาบอกตัวเองว่าจะเริ่มพรุ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันพรุ่งนี้กลายเป็นคำที่ไม่มีอยู่จริง ความฝันทุกอย่างจะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าเราไม่เริ่มลงมือใน วันนี้เพราะเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นไม่ใช่เมื่อทุกอย่างพร้อม แต่มันคือตอนนี้ที่เรากล้าทำแม้จะยังไม่พร้อมเลยก็ตาม

10. พูดถึงความฝันแต่ไม่เคยทำให้มันเกิดขึ้น
เขาใช้เวลาพูดซ้ำๆ ถึงสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่เคยลงมือแม้แต่ก้าวเดียว ทั้งที่ไม่มีความฝันไหนใหญ่เกินไป ถ้าเราเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ในวันนี้ ความฝันที่พูดซ้ำมานานจะไม่มีวันเป็นจริง จนกว่าเราจะเริ่มลงมือ เพราะทุกสิ่งยิ่งใหญ่บนโลกนี้ ล้วนเกิดจากการลงมือทำครั้งแรกที่เล็กจนแทบไม่มีใครเห็น

#เสียเวลา
#เสียเวลาชีวิต

9 ลักษณะของครูที่มีพลังงานดี ✨


1️⃣ ยิ้มง่าย เป็นกันเอง – รอยยิ้มคือพลังบวกที่นักเรียนรับรู้ได้ทันที
2️⃣ พูดให้กำลังใจเสมอ – คำพูดเล็ก ๆ แต่ช่วยดึงศักยภาพนักเรียนออกมาได้มากมาย
3️⃣ ฟังด้วยใจ ไม่ตัดสิน – นักเรียนกล้าเล่า กล้าปรึกษา เพราะรู้ว่าครูเข้าใจ
4️⃣ ใช้คำพูดเชิงบวก – ไม่ทำลาย แต่สร้างแรงบันดาลใจ
5️⃣ มีอารมณ์ขัน – บรรยากาศในห้องเรียนไม่ตึงเครียดจนเกินไป
6️⃣ มองนักเรียนในด้านที่ดี – เชื่อว่าทุกคนมีคุณค่า และมีโอกาสพัฒนา
7️⃣ อดทนและใจเย็น – เพราะเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน
8️⃣ สม่ำเสมอและจริงใจ – เด็กสัมผัสได้ว่าครูไม่เสแสร้ง
9️⃣ รักการเรียนรู้เหมือนนักเรียน – เมื่อครูมีพลังบวกในการเรียนรู้ เด็กก็พร้อมจะเรียนรู้ตาม

ครูที่มีพลังงานดี ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่คือครูที่ทำให้เด็กอยากมาเรียน และอยากเป็น “คนที่ดีขึ้น” ทุกวัน 🌱✨

#พลังบวกของครู #ห้องเรียนที่มีชีวิต #ครูผู้สร้างแรงบันดาลใจ

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568

อัปเดตด่วน! สำหรับวงการก่อสร้างภาครัฐ 🏗️

📣 
~~~~
หนังสือเวียน ว 651 ลงวันที่ 26 ก.ย. 68 (เผยแพร่ในเว็บไซต์จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐวันที่ 1 ต.ค. 68)
เปลี่ยนแปลงวิธีการทำ BOQ (ใบแจ้งปริมาณงานและราคา) แนบท้ายสัญญาจ้างก่อสร้างครั้งใหญ่!

จำง่ายๆ คือ
❌ ยกเลิกแนวทางเดิม (ว 232) ❌
✅ ใช้แนวทางใหม่แทน


❓ ทำไมต้องเปลี่ยน?

เพื่อสร้าง “มาตรฐานเดียวกัน” ทั่วประเทศ 🎯
ลดความสับสน ป้องกันปัญหาการปรับลดราคาที่ไม่เป็นธรรม
ทำให้กระบวนการโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นประโยชน์สูงสุดกับทางราชการครับ

ว651 ยกเลิก ว232
https://www.yotathai.com/passadu/w651

ว232 ยกเลิกโดย ว651
https://www.yotathai.com/passadu/w232

ว452 ยกเลิกโดย ว232
https://www.yotathai.com/passadu/w452-17-9-62

🔑 3 ขั้นตอนสำคัญ เข้าใจง่าย!

📄 ขั้นตอนที่ 1: การยื่นข้อเสนอ (ยื่นซอง)
 • แบบใหม่: ผู้รับจ้าง ไม่ต้องยื่น BOQ แบบไฟล์ PDF อีกต่อไป
 • สิ่งที่ต้องทำ: กรอกราคาใน “ใบเสนอราคา” ให้ครบถ้วน
 • จุดประสงค์: ลดภาระผู้รับจ้าง และเน้นแข่งขันกันที่ “ราคารวม”


🧮 ขั้นตอนที่ 2: การปรับลดราคา (หลังได้ผู้ชนะ) ✨

เมื่อได้ผู้ชนะแล้ว หน่วยงานรัฐ จะเป็นผู้จัดทำ BOQ แนบท้ายสัญญาเอง โดยมีหลักการ:
 1. ใช้ราคากลางเป็นฐาน
 2. แยกค่าใช้จ่ายพิเศษออกก่อน 🚫
 3. คำนวณเปอร์เซ็นต์ส่วนลด (ราคากลาง - ค่าใช้จ่ายพิเศษ เทียบกับ ราคาผู้ชนะ - ค่าใช้จ่ายพิเศษ)
 4. ปรับลดทุกรายการใน BOQ ตามสัดส่วนเดียวกัน
 5. นำค่าใช้จ่ายพิเศษใส่กลับเข้ามาเต็มจำนวน

📌 ผลลัพธ์: ได้ BOQ ฉบับสมบูรณ์ ที่ยอดรวมตรงกับราคาผู้ชนะพอดี และลดราคาอย่างเป็นธรรม


✍️ ขั้นตอนที่ 3: การลงนามในสัญญา
 • ใช้ BOQ ที่ปรับราคาตามขั้นตอนข้างต้นเป็น เอกสารแนบท้ายสัญญา
 • ผู้ชนะเข้ามาลงนามตามปกติ


💡 เกร็ดความรู้จาก ว 651
 • 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ➕ ราคากลางเพิ่ม 5% ก่อนปรับลด
 • กรณีราคากลางผิดพลาด ➝ มีแนวทางคำนวณใหม่และเจรจากับผู้ชนะ เพื่อความเป็นธรรม


✅ สรุปสุดท้าย

แนวทาง ว 651 ช่วยให้การทำ BOQ แนบท้ายสัญญามีสูตรคำนวณชัดเจน
โปร่งใส เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ✨

📢 หวังว่าสรุปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพี่ๆ น้องๆ วงการก่อสร้างภาครัฐทุกคน
ช่วยกันแชร์เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันครับ 🙏

~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~

📌 สนใจอบรมกับ Yotathai 🔧📚

เลือกเรียนในหัวข้อที่ใช่สำหรับสายงานช่างและงานภาครัฐ ⬇️

1️⃣ ราคากลางงานก่อสร้าง + ค่า K
📏 https://training.yotathai.com/con-k

2️⃣ ราคากลาง + การใช้ AI ช่วยจัดทำราคากลาง
🤖 https://training.yotathai.com/con-ai

3️⃣ ราคากลาง + สัญญาจ้างก่อสร้าง
📐 https://training.yotathai.com/contract

4️⃣ กฎหมายปกครอง + งานจ้างก่อสร้าง
⚖️ https://training.yotathai.com/law-work

5️⃣ การจัดจ้างก่อสร้าง + การบริหารสัญญา + การตรวจรับ
🛠️ https://training.yotathai.com/govbuild

6️⃣ SketchUp BIM + LayOut
🏢 https://training.yotathai.com/sketchup

.......... 
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K

10 Prompt ลับ ใช้สมองของ ChatGPT ให้ได้ 100%1. Prompt:

🔑 
"ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือ ตัวช่วยเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงานของคุณทั้งระบบ 💡
หลายคนยังใช้ไม่ถึง 10% ของศักยภาพที่แท้จริง แต่รู้ไหมว่า ถ้าคุณเรียนรู้ ‘วิธีคุย’ กับมันให้ถูกทาง มันสามารถกลายเป็นที่ปรึกษา ครู ผู้ช่วย และแม้กระทั่งเพื่อนคู่คิดที่พร้อมสร้างสรรค์ไปกับคุณได้ตลอดเวลา

นี่คือ 10 Prompt ลับ ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงสมองของ ChatGPT ได้ 100%
หลักคิดคือ ไม่ใช่แค่สั่งงาน แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามให้เฉียบคม กรอบความคิดให้ชัดเจน และเปิดโอกาสให้ AI ช่วยคุณคิดในแบบที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อน
1.Prompt:
“คุณคือที่ปรึกษาส่วนตัวด้านการตัดสินใจธุรกิจ ช่วยวิเคราะห์ตัวเลือกของฉัน (A) และ (B) โดยยกข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และโอกาสของแต่ละตัวเลือก”

ประโยชน์: ช่วยคิดแบบรอบด้านก่อนตัดสินใจ ลดความลำเอียง และมองเห็นมุมที่อาจพลาดไป

2. Prompt:

“สรุปเนื้อหานี้ให้ง่ายเหมือนอธิบายให้เด็ก ป.6 ฟัง แต่ยังคงข้อมูลสำคัญทั้งหมด”

ประโยชน์: เปลี่ยนเรื่องยากให้เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับการเรียนรู้เร็วหรือใช้ในการอธิบายต่อคนอื่น

3. Prompt:

“คุณคือครูสอนภาษาอังกฤษ ช่วยอธิบายความหมาย ประโยคตัวอย่าง และการใช้คำว่า [vocabulary] ในชีวิตจริง”

ประโยชน์: พัฒนาภาษาอังกฤษแบบรายวัน เข้าใจคำศัพท์แบบเจาะลึก ใช้ได้ทันที

4. Prompt:

“แปลงข้อมูลชุดนี้ให้อยู่ในรูปแบบตาราง พร้อมสรุปอินไซต์สำคัญที่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจ”

ประโยชน์: จัดข้อมูลให้เป็นระบบ เห็นภาพรวม และดึงข้อสรุปสำคัญได้เร็วขึ้น

5. Prompt:

“คุณคือโค้ชการตลาดดิจิทัล ช่วยวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และกลยุทธ์ที่ฉันควรใช้ในการโปรโมทสินค้า [ชื่อสินค้า] ผ่าน Facebook และ TikTok”

ประโยชน์: ได้ไอเดียแคมเปญที่เจาะกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ พร้อมแนวทางการสื่อสาร

6. Prompt:

“ช่วยเขียนโพสต์ขายของ (ภาษาไทย + ภาษาอังกฤษ) ที่สั้น กระชับ และมี Call to Action ชัดเจน สำหรับสินค้า [ชื่อสินค้า]”

ประโยชน์: ได้คอนเทนต์พร้อมโพสต์ในทันที ประหยัดเวลา และปรับใช้ได้หลายแพลตฟอร์ม

7. Prompt:

“คุณคือครูสอนทักษะชีวิต ช่วยเขียนตารางกิจวัตรประจำวัน ที่ช่วยให้ฉันมีวินัยและพัฒนาตัวเองใน 30 วัน”

ประโยชน์: ได้แผนการที่ทำได้จริง ปลูกฝังนิสัยใหม่ ๆ ที่ช่วยพัฒนาตัวเอง

8. Prompt:

“ช่วยทำตัวเป็นนักจิตวิทยา วิเคราะห์ว่าทำไมฉันถึงรู้สึก [เช่น กังวล / ท้อแท้ / ไม่มีแรงบันดาลใจ] และเสนอวิธีรับมือที่ทำได้ทันที”

ประโยชน์: ใช้เป็นเครื่องมือสะท้อนตัวเอง คลายความเครียด และได้แนวทางปรับอารมณ์

9. Prompt:

“ช่วยจำลองการสัมภาษณ์งานในตำแหน่ง [ชื่อตำแหน่ง] โดยถามคำถามจริง และช่วยติวคำตอบของฉัน”

ประโยชน์: ซ้อมก่อนเจอสนามจริง เพิ่มความมั่นใจ และปรับปรุงการตอบคำถามให้ดีขึ้น

10. Prompt:

“คุณคือโค้ชการเขียน ช่วยตรวจสอบบทความนี้ให้ฉัน พร้อมแนะนำการปรับโครงสร้าง การใช้ภาษา และทำให้เนื้อหาน่าสนใจขึ้น”

ประโยชน์: ยกระดับงานเขียนให้มืออาชีพขึ้น ลดข้อผิดพลาด และทำให้อ่านง่าย

#ChatGPT #AI #PromptEngineering #ใช้AIให้เต็มศักยภาพ #เปลี่ยนวิธีคิด #ProductivityHacks #FutureOfWork #DigitalMindset #เรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด #คิดแบบใหม่ทำแบบใหม่

ขี้เกียจไม่เท่เลยนะ


1. ขี้เกียจวันนี้พรุ่งนี้ก็อยู่ที่เดิม
เขาเข้าใจว่าความสบายคือเป้าหมายของชีวิตแต่แท้จริงแล้วมันคือกับดักที่ทำให้ชีวิตไม่ขยับไปไหน ทุกนาทีที่เลือกไม่ทำคือทุกนาทีที่คนอื่นเดินแซงหน้า และวันหนึ่งเราจะได้แต่มองเขาไปไกลโดยที่ตัวเองยังยืนอยู่จุดเดิม

2. แรงบันดาลใจไม่มาตราบใดที่ยังไม่เริ่ม
เขารอแรงบันดาลใจก่อนจะลงมือ แต่ลืมไปว่าแรงบันดาลใจมันเกิดขึ้นหลังจากที่เราเริ่ม ไม่ใช่ก่อนเริ่ม คนที่ลุกขึ้นแม้ยังไม่มีแรงใจคือคนที่จะสร้างมันขึ้นมาได้จริง

3. ผลัดวันคือศัตรูของความสำเร็จ
เขาบอกกับตัวเองว่าค่อยทำพรุ่งนี้ ทั้งที่พรุ่งนี้ก็จะพูดแบบเดิมอีก และอีก จนกลายเป็นพรุ่งนี้ที่ไม่มาถึงสักที คนที่กล้าเริ่มวันนี้ แม้จะเพียงก้าวเดียว ก็ยังไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าคนที่รอเวลาเหมาะสมตลอดชีวิต

4. ไม่ยอมเหนื่อยวันนี้จะเหนื่อยใจไปตลอด
เขาเลือกไม่ลำบากในตอนนี้ แต่ต้องแลกกับความเสียใจในอนาคต คนที่ยอมเหนื่อยเพื่อเปลี่ยนชีวิตคือคนที่ได้พักอย่างแท้จริงในวันหนึ่ง ไม่ใช่แค่พักไปเรื่อยๆโดยไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

5. หัวเราะเยาะคนพยายามไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้น
เขาหัวเราะใส่คนที่ลุกขึ้นลงมือทำ แต่ลึกๆแล้วกลับอิจฉา
ที่อีกฝ่ายกล้ากว่า คนที่เริ่มลงมือแม้ยังไม่พร้อมคือต้นแบบ
ของความกล้า ไม่ใช่คนที่เอาแต่บ่นแต่ไม่เคยเริ่มจริงๆ

6. ไม่มีเวลาไม่ใช่ข้ออ้างแต่คือการเลือก
เขาบอกว่าตัวเองไม่มีเวลาทั้งที่ทุกคนมีเวลาเท่ากันความต่างอยู่ที่บางคนใช้เวลานั้นสร้างอนาคต ส่วนบางคนใช้ไปกับเรื่องที่ไม่พาไปไหนเลย

7. ทำไม่เป็นไม่ใช่ปัญหาถ้าเราเริ่มเรียนรู้
เขาอ้างว่าทำไม่ได้ แต่ไม่เคยพยายามจะลองคนที่สำเร็จไม่ใช่เพราะรู้ทุกอย่างตั้งแต่ต้น แต่เพราะไม่ยอมแพ้และเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนทำได้จริง

8. คิดมากไม่เท่ากับลงมือทำ
เขาใช้เวลาคิดวางแผนอยู่ตลอดแต่ไม่เคยเปลี่ยนมันเป็นการกระทำ ความคิดที่ดีที่สุดก็ไม่มีค่าถ้ามันยังอยู่แค่ในหัวไม่เคยกลายเป็นของจริง

9. ไม่มีแรงเพราะไม่มีเหตุผลพอจะลุกขึ้น
เขาบอกว่าไม่มีแรงจะเริ่ม ทั้งที่ไม่ใช่ไม่มีแรงแต่คือไม่มีเหตุผลใหญ่พอให้ต้องเริ่ม คนที่มีเป้าหมายชัดเจนจะมีแรงเสมอ แม้เหนื่อยแต่ใจก็ไม่ยอมแพ้

10. ความเหนื่อยคือครูไม่ใช่ศัตรู
เขามองความเหนื่อยเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งที่จริงแล้วมันคือสิ่งที่สอนเราให้เติบโต ทุกครั้งที่เราเหนื่อย เรากำลังแข็งแกร่งขึ้นและเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น

11. เสียงหัวเราะดังไม่ช่วยให้ฝันเป็นจริง
เขาอาจดูสนุกที่สุดในกลุ่ม แต่กลับเงียบที่สุดเวลาพูดถึง
ความฝัน เพราะไม่มีอะไรจับต้องได้ ความขี้เกียจไม่เคย
ทำให้ใครภาคภูมิใจ มีแต่ทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่กล้าฝัน

12. เวลาไม่รอคนที่ไม่ขยับ
เขาใช้ชีวิตเหมือนมีเวลาเหลือเฟือทั้งที่เวลาหมุนตลอดไม่เคยหยุด คนที่ใช้ทุกนาทีลงมือสร้างสิ่งที่อยากได้ คือคนที่เวลาจะตอบแทนในอนาคต

13. ช้าเกินไปก็เท่ากับไม่เริ่มเลย
เขาบอกว่าทำช้าๆ ก็ได้แต่โลกไม่เคยหยุดรอคนอื่นเดินหน้า
ไปทุกวัน ถ้าเราไม่ก้าวเสียที อีกปีหนึ่งเราก็ยังอยู่ที่เดิมโดยไม่มีอะไรเปลี่ยน

14. ความพอดีที่เกิดจากความกลัวไม่ใช่ความสุข
เขาบอกว่าพอแล้วกับชีวิตแบบนี้ ทั้งที่ใจจริงรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่ง
ที่อยากได้ ความพอดีที่เกิดจากความกลัวการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงแต่คือกับดักของความขี้เกียจ

15. ไม่เริ่มเพราะกลัวพลาดคือพลาดที่สุด
เขากลัวล้มเหลวจึงไม่เริ่ม ทั้งที่การไม่เริ่มคือความล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม คนที่กล้าทำแม้ผิดพลาดซ้ำๆยังมีโอกาสถึงฝั่งได้เสมอ

16. อยู่ได้กับใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกัน
เขาบอกว่าแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ ก็เพียงพอแล้วแต่การอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าเราใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย 
คนที่กล้าเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้นคือคนที่ใช้ชีวิตจริงๆ

17. ไม่ทำวันนี้จะเสียใจในวันหน้า
เขาเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยแล้วบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรแต่วันหนึ่งจะมองย้อนกลับมาแล้วเสียใจว่า ทุกโอกาสที่หายไปไม่ใช่เพราะไม่มีใครให้ แต่เพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าจะคว้ามันไว้

18. ขี้เกียจไม่ใช่ความเท่มันคือความเสียดาย
เขาอาจคิดว่าการไม่ทำอะไรคืออิสระ แต่จริงๆ แล้วมันคือความเสียดายที่ก่อตัวขึ้นทุกวัน ความขี้เกียจไม่เคยพาใคร
ไปถึงฝั่ง มีแต่ทำให้เราหยุดอยู่กับที่โดยไม่รู้ตัว

#คนขี้เกียจ
#ขี้เกียจ
แนะนำให้อ่าน 
https://s.shopee.co.th/1VqHArx7xe
https://s.lazada.co.th/s.ZabIE7?cc

พฤติกรรมของคน ราคา 0 บาท


.
.
.

1. เขาชอบดูถูกคนที่เริ่มต้นเล็กๆ
เขาหัวเราะเวลาเห็นคนขายของหน้าบ้านหรือเริ่มธุรกิจจาก
ทุนไม่กี่ร้อย เพราะเขาเชื่อว่าคนเก่งต้องเริ่มใหญ่ ทั้งที่คนมีค่าหลายคนเริ่มจากศูนย์ด้วยซ้ำ เช่น แม่ค้าคนหนึ่งที่เริ่มจากขนมถุงละ 5 บาท จนวันนี้มีแบรนด์ระดับประเทศ คนที่หัวเราะใส่คนอื่นตอนเริ่มต้น มักจะย่ำอยู่ที่เดิมเสมอ

2. เขาเอาแต่พูดแต่ไม่เคยลงมือ
เขาชอบพูดว่าจะทำสักวันจะเริ่มเดี๋ยวพร้อมก่อนแต่ไม่เคยก้าวแม้แต่ก้าวเดียว จนปีแล้วปีเล่าก็ยังอยู่ที่เดิม ความฝันไม่เคยเดินทาง เพราะคำว่าเดี๋ยวฆ่ามันไปทุกครั้ง

3. เขาไม่เคยรับผิดชอบอะไรเลย
เขาโยนความผิดให้ทุกอย่างยกเว้นตัวเองทั้งดวงไม่ดีคนไม่ช่วย หรือโลกไม่ยุติธรรม คนที่โทษแต่สิ่งรอบตัวจะไม่มีวันโต เพราะเขาไม่เคยยอมรับว่าปัญหาหลายอย่างเริ่มจากตัวเอง

4. เขาชอบขอแต่ไม่เคยให้
เขาเอาแต่ขอความช่วยเหลือแต่ไม่เคยช่วยใครแม้แต่น้อย 
พอคนรอบตัวเริ่มห่าง เขากลับโวยวายว่าทุกคนเห็นแก่ตัว 
ทั้งที่เขาไม่เคยให้คุณค่ากับใครตั้งแต่ต้น

5. เขาเอาแต่เปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น
เขาไม่เคยภูมิใจกับสิ่งที่มีเพราะมัวแต่มองว่าใครมีมากกว่า ใครสำเร็จกว่าคนแบบนี้จะไม่มีวันรู้สึกพอและไม่เคยก้าวไปข้างหน้า เพราะใช้พลังชีวิตไปกับการอิจฉาแทนการพัฒนา

6. เขาชอบตำหนิแต่ไม่เคยลงมือแก้
เขาบ่นว่ารัฐไม่ดีสังคมไม่ยุติธรรมงานไม่เหมาะแต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น คนที่ใช้ชีวิตไปกับการบ่น จะไม่มีวันสร้างสิ่งใหม่ได้เลย

7. เขาเลือกความสบายมากกว่าการเติบโต
เขากลัวความเหนื่อยจนไม่กล้าเริ่มสิ่งใหม่กลัวล้มเหลวจน
ไม่กล้าลอง คนที่มัวแต่หลบอยู่ในที่ปลอดภัยจะไม่มีวันได้เห็นว่าศักยภาพของตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน

8. เขาใช้เวลาเฝ้าดูชีวิตคนอื่นมากกว่าชีวิตตัวเอง
เขารู้ทุกเรื่องของดาราแต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากเป็นอะไร 
เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในโซเชียลแต่ไม่เคยใช้แม้แต่ 10 นาทีคิดเรื่องอนาคตของตัวเอง

9. เขาไม่เคยเรียนรู้อะไรใหม่เลย
เขาหยุดพัฒนาตัวเองตั้งแต่วันที่เรียนจบเชื่อว่าความรู้เดิมๆ เพียงพอแล้ว ทั้งที่โลกเปลี่ยนทุกวัน คนที่ไม่เรียนรู้อะไรเลย 
จะถูกเวลาทิ้งไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน

10. เขาชอบพูดว่าทำไม่ได้ก่อนลอง
เขาตัดสินทุกอย่างว่ายากเกินไปฉันไม่เก่งพอทั้งที่ยังไม่เคยลองแม้แต่ครั้งเดียวคนแบบนี้แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้วจะหวังให้ชีวิตชนะได้ยังไง

11. เขาหาผลประโยชน์จากทุกสิ่งแม้เรื่องเล็กๆ
เขาไม่เคยช่วยใครฟรีๆถ้าไม่มีผลตอบแทนเขาเห็นทุกความสัมพันธ์เป็นการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ความจริงใจ คนที่คิดแค่
จะได้ตลอด จะไม่มีวันมีค่าพอที่จะให้ใครอยากอยู่ใกล้

12. เขาไม่เคยขอบคุณสิ่งเล็กๆที่มี
เขามองข้ามสิ่งดีๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น สุขภาพดี 
บ้านที่ปลอดภัย หรือคนที่รัก เพราะมัวแต่โฟกัสสิ่งที่ไม่มี 
คนที่ไม่รู้จักขอบคุณ มักใช้ชีวิตด้วยความขมขื่นเสมอ

13. เขาทำทุกอย่างเพราะอยากให้คนอื่นเห็น
เขาไม่ได้อยากพัฒนาตัวเองจริงๆแต่ทำเพราะอยากได้คำชม คนที่ใช้ชีวิตเพราะสายตาคนอื่น จะไม่มีวันได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง

14. เขาไม่เคยยินดีกับความสำเร็จของใครเลย
เขาแสดงความยินดีแต่ในปากแต่ในใจกลับอิจฉาคนที่มองความสำเร็จของคนอื่นเป็นภัย จะไม่มีวันได้เรียนรู้จากสิ่งนั้นเลย

15. เขาเลือกคบคนจากผลประโยชน์ไม่ใช่คุณค่า
เขาอยู่กับใครเพราะคิดว่าได้อะไรไม่ใช่เพราะอยากเรียนรู้
หรือเติบโตไปด้วยกัน ความสัมพันธ์แบบนี้จึงเปราะบาง 
และสุดท้ายมักจบลงด้วยความว่างเปล่า

16. เขากลัวคำว่าเหนื่อยมากกว่าคำว่าพลาด
เขาเลือกไม่ทำเพราะกลัวเหนื่อยทั้งที่การไม่ทำเลยคือการพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต คนที่มีค่าจริงรู้ว่าเหนื่อยวันนี้ 
ดีกว่าผิดหวังไปตลอดชีวิต

17. เขาไม่เคยฟังใครจริงๆ
เขาพูดมากกว่าฟังตัดสินก่อนเข้าใจและเชื่อว่าตัวเอง
ถูกเสมอ คนที่ไม่ฟังใครเลยจะไม่มีวันเรียนรู้อะไรใหม่ 
และไม่มีใครอยากอยู่ใกล้

18. เขาใช้ชีวิตโดยไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเอง
เขาใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่เคยถามเลยว่าฉันอยากไปทางไหนฉันอยากเป็นใครเพราะเขากลัวความจริงที่อาจเจ็บปวดคนที่ไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเอง จะไม่มีวันได้คำตอบจากชีวิต

#readjourney #ปลุกใจ #พัฒนาตัวเอง #ชีวิตดีขึ้นทุกวัน

แนะนำให้อ่าน 
https://s.lazada.co.th/s.AxxFO?cc
https://s.shopee.co.th/5AjTK7orbN

3 ประเภทของนายจ้าง ที่ลูกจ้างควรมองหาในโลกยุค AI.


ในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าเดิม เทคโนโลยีถูกนำมาใช้แทนคนมากขึ้นเรื่อยๆ เราในฐานะลูกจ้างคนหนึ่ง อาจจะไม่มีอำนาจเปลี่ยนโลกได้ทันที แต่เรามีสิทธิ์เลือกเรือที่จะขึ้น และ กัปตันที่จะตาม ได้
.
เราต้อง ‘เรื่องมาก’ ให้เป็น และมองหานายจ้าง รวมถึงองค์กรที่ไม่เพียงแต่อยู่รอด แต่ยังเป็นสะพานที่ดีให้กับอนาคตที่สวยงามของเรา
.
หนังสือ ‘คู่มือมนุษย์ยุค AI: Infinte Scaler’ ชี้ว่าคำตอบอยู่ที่ ‘AAA’ สามคุณสมบัติของนายจ้างที่จะพาคุณโตไปพร้อมยุค AI
.
🤖 Adoption – นำ AI มาใช้จริง ไม่ใช่แค่โชว์
นายจ้างที่กล้าลอง ให้คนของตัวเองลอง และกล้าปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้ AI เข้ามาเสริมงานแทนที่จะทำลายงาน คือผู้ที่มีสิทธิ์จะไปได้ไกล
.
อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะบริษัทมีอีเวนต์โชว์ AI สุดล้ำ หรือใช้คำว่า POC (Proof of Concept) เท่ๆ เพราะ AI Economy ไม่ได้ให้รางวัลกับคนที่ดูเหมือนปรับตัว แต่ให้รางวัลกับคนที่กล้าลงมือ
.
บริษัทระดับซูเปอร์สตาร์ส่วนใหญ่ในสหรัฐเริ่มต้นจากจุดนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่ติดตั้งเทคโนโลยี แต่ปล่อยให้พนักงานเข้าถึง AI ได้จริง ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นระบบ เพื่อทดลอง ใช้ และเรียนรู้ร่วมกัน
.
⚙️ A ตัวที่สอง: Automation – ลดงานซ้ำซาก เพื่อเติมงานที่มีคุณค่า
นายจ้างที่ดีจะไม่เอางานที่เหนื่อยแต่ไม่พัฒนาให้พนักงานแบกโดยไม่จำเป็น และเมื่อสามารถลดต้นทุนได้จากการทำให้บางกระบวนการเป็นอัตโนมัติ บริษัทเหล่านี้กลับเอากำไรที่ได้ มาจ้างคนเพิ่ม สเกลธุรกิจใหม่ หรือสร้างแผนกใหม่
.
AI ที่นำมาใช้ ต้องพัฒนาไปถึงจุดที่ ‘อัตโนมัติ’ ได้จริง ไม่ใช่แค่ลดงาน แต่เปลี่ยนวิธีคิดงานไปเลย
.
Substitution Effect หรือการเอาปัญญาประดิษฐ์มาแทนปัญญามนุษย์อาจฟังดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริง งานที่ AI มาแทนได้ มักไม่ใช่งานที่พนักงานภูมิใจจะใส่ในเรซูเม่อยู่แล้ว
.
💪 A ตัวสุดท้าย: Augmentation – เสริม ไม่แทน ด้วยเทคโนโลยี
Augmentation คือการยกระดับคนให้เก่งกว่าขีดจำกัดเดิม เจ้านายที่ดีควรมองว่าการมี ‘คน’ ยังจำเป็นอย่างมากในองค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างแท้จริง เพราะ AI ที่ดีที่สุด ไม่ใช่ AI ที่ทำแทนเราได้หมดจด แต่คือ AI ที่ทำให้เราทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม
.
เช่น เมื่อทีมกฎหมายใช้ AI มาช่วยร่างสัญญา เวลาที่เคยหมดไปกับเอกสาร กลับถูกเปลี่ยนมาใช้กับการดูแลผลประโยชน์บริษัทได้มากขึ้น หรือทีมขายที่ใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูลลูกค้า ก็กลายเป็นทีมที่ปิดดีลได้เร็วขึ้น
.
👑 ที่สุดของการปรับตัว คือปรับเพื่อคน ไม่ใช่แค่เพื่อเทคโนโลยี
เจ้านาย AAA อาจช่วยให้องค์กรอยู่รอด แต่เจ้านายแบบ AAA+ คือองค์กรที่โตไปด้วยกันกับคนของเขา
.
พวกเขาใช้ AI โดยไม่เอา AI เป็นศูนย์กลาง แต่เอาความเป็นมนุษย์เป็นหัวใจ พวกเขาวางแผนว่าอะไรควรอัตโนมัติ อะไรควรเสริม และอะไรควรปล่อยให้มนุษย์ทำ เพราะ Human Touch ยังเป็นสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ และลูกค้าก็ยังเลือกซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ซื้อระบบ
.
🎯 ข้อเสนอแนะจากโลก AI: อย่าอยู่นิ่งในวันที่โลกเคลื่อนที่เร็ว
🔸 อย่าเป็นแรงงานทักษะกลาง เพราะคุณคือกลุ่มแรกที่ AI จะแทนที่ได้ง่ายที่สุด
🔸 ปลดล็อกงานรูทีนให้ AI ช่วย ก่อนที่ AI จะเก่งจนไม่ถามเราอีกต่อไป
🔸 กล้ายอมรับความไม่เก่งของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่คู่แข่ง
.
สุดท้าย ลองถามตัวเองดูว่า คุณกำลังทำงานให้บริษัทที่สนับสนุนให้คุณฉายแสงในฐานะมนุษย์ที่มีศักยภาพเต็มเปี่ยมหรือเปล่า หรือคุณกำลังเป็นแค่กลุ่มคนที่บริษัทรอจะให้ AI มาแทนที่อยู่?
.
หนังสือ คู่มือมนุษย์ยุค AI: Infinite Scaler เขียนโดยดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ เปิดจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเพียง 490 บาท✨
.
🟡 สั่งซื้อได้ตาม LINE SHOP 👉 https://shop.line.me/@thestandard
.
#InfiniteScaler #คู่มือมนุษย์ยุคAI #TheSecretSauce

10 สิ่งที่โคตรเสียเวลาชีวิต

1. เถียงเพื่อชนะคนที่ไม่อยากเข้าใจ เขาใช้พลังไปกับการอธิบายให้คนที่ไม่ตั้งใจฟังเข้าใจทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้อยากเข้าใจตั้งแต่แรกแล้...