วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เลี้ยงลูกให้แกร่ง… อย่างนกอินทรี

🦅 เลี้ยงลูกให้แกร่ง… อย่างนกอินทรี ✨
นกอินทรีเป็นพ่อแม่ที่สอนลูกให้ "แกร่ง" และ "เอาตัวรอด" ได้ตั้งแต่เกิด 🦅
พวกมันไม่ได้เลี้ยงลูกให้อยู่ใน "รังที่สบายตลอดไป" แต่เตรียมลูกให้พร้อมเผชิญโลกกว้าง 🌎
🔹 วิธีเลี้ยงลูกของพ่อแม่นกอินทรี 🔹
1️⃣ สร้างรังอย่างมั่นคง 
พ่อแม่นกช่วยกันทำรังด้วย แผ่นหิน กิ่งไม้ หนาม และขนนก
ชั้นสุดท้ายคือขนนุ่ม ๆ ให้ลูกนอนสบาย
2️⃣ เมื่อโตขึ้น… แม่ค่อย ๆ ทำให้รังไม่น่าอยู่ 
เอาขนนุ่ม ๆ ออก → ลูกต้องนอนบนใบไม้แข็ง ๆ
เอาใบไม้ออก → ลูกต้องทนหนามแหลม
เอาหนามออก → ต้องทรงตัวอยู่บนกิ่งไม้
สุดท้าย… เอาหินออก เหลือแค่กิ่งไม้ ไม่มีที่ให้อยู่สบายอีกต่อไป
3️⃣ ฝึกให้บิน แม้ยังบินไม่ได้ ✈️
แม่นกจับลูกไปที่สูง… แล้ว ปล่อยลงมา 
ลูกนกพยายามกางปีก แต่บินไม่เป็น
ก่อนตกถึงพื้น… แม่จะคว้าขึ้นไปปล่อยใหม่ 
ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนลูกนกเริ่มบินได้เอง
4️⃣ ฝึกหากินเอง จนเอาตัวรอดได้ 
เมื่อบินได้แล้ว… พ่อแม่พาออกหากินทุกวัน
พอถึงจุดหนึ่ง พ่อแม่นกก็จากไป… ไม่กลับมาอีก
เพราะพวกมันรู้ว่า ลูกต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง! 
💡 ข้อคิดจากนกอินทรี 🦅
✅ อย่าทำให้ลูก "สบาย" ตลอดไป 
เด็กที่เติบโตมาแต่ในความสะดวกสบาย จะอ่อนแอเมื่อเจอโลกจริง
การสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง คือ ของขวัญที่ดีที่สุด 🎁
✅ สอนให้ลูกเผชิญปัญหา ตั้งแต่ยังเล็ก 
ค่อย ๆ ให้ลูกเจอกับความท้าทายทีละนิด
เพราะโลกความจริง… ไม่ได้มีพ่อแม่คอยปกป้องตลอดไป
✅ พ่อแม่จากไป ลูกต้องอยู่รอด 
ไม่มีใครอยู่ตลอดไป… วันหนึ่งเราจะจากไป
สิ่งสำคัญคือ ลูกต้องเอาตัวรอดได้ แม้ไม่มีเรา
🚫 อย่าเลี้ยงลูกแบบ "นกกระจาบ" 🐦
🐦 นกกระจาบสร้างรังใหญ่ อยู่รวมกันเป็นฝูงตลอดชีวิต
🐦 ไปไหนก็ไปเป็นขบวน… ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
🐦 เวลาตกใจ วิ่งแตกตื่น… ไม่มีการควบคุมตัวเอง
 ลูกที่ถูกเลี้ยงแบบ "นกกระจาบ" มักอ่อนแอ
❌ ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอด
❌ เจอปัญหาแล้วตื่นตระหนก
❌ ไม่มีความกล้า… ไม่อดทน
🧑‍🏫 สรุปข้อคิด:
 จงเลี้ยงลูกให้เป็น "นกอินทรี" ไม่ใช่ "นกกระจาบ"
ให้ลูกรู้จัก "ความลำบาก" ตั้งแต่เด็ก 
ฝึกให้ลูกช่วยตัวเอง… ไม่ใช่พึ่งพาพ่อแม่ตลอด 
ปล่อยให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาเอง ไม่ใช่แก้ให้ทุกเรื่อง 
เมื่อถึงวันหนึ่ง… ลูกจะบินได้เอง ไม่ต้องรอให้ใครมาจับมือพาไป ✈️
🖐️ "อย่าให้ลูกอยู่ในรังที่สบายตลอดไป… เพราะโลกความจริงไม่มีที่ให้อยู่แบบนั้น" ❤️

เรียบเรียง โดย #ฟังนะ

"ข อ ง ดี มี อ ยู่ กั บ ตั ว"



🍀ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอาทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิมนต์พระมากุสลามาติกา ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้ คือ "เร่งทำความดีแต่บัดนี้"

จะได้หายห่วงอะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล สมบัติในโลกเราแสวงหามา หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริง ๆ

 "ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย"

🍀ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา

 "ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทอง เครื่องหวงแหน" เป็นคนร่ำรวย สวยงามเฉพาะสมัย จึงพากันรัก พากันห่วง จนไม่รู้จักเป็นรู้จักตาย

"สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว"

 เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว 
.
.
โอวาทธรรมคำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
.
ที่มาของบทความ: คัดมาจาก "ของดีมีอยู่กับตัว"หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ นิตยสารธรรมจักษุ ปีที่ ๘๒ ฉบับที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๐
.
ทานานํ ยทิทํ ธมฺมทานํ เอตทคฺคํ
ธรรมทานเลิศกว่าทานทั้งหลาย

 Cr. fbพระคุณเจ้า~Nirasho Bhikkhu~
.
..........................................
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

การเสริมสร้างวินัยนักเรียนในสถานศึกษา

#หนังสือดีแนะนำคุณครูเข้าไปอ่านฟรี 📕 หนังสือ ❝ คู่มือ การเสริมสร้างวินัยนักเรียนในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านการปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ รู้จักกาลเทศะและเคารพสิทธิผู้อื่น ❞ โดย สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
👉 อ่าน / ดาวน์โหลดฟรี ที่ https://backoffice.onec.go.th/uploads/Book/1690-file.pdf

🙏 ขอบพระคุณหนังสือคู่มือดีๆ จากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568

#อาการของเด็กที่ใช้หน้าจอเยอะเกินไป

พ่อโต้งขอเล่า #อาการของเด็กที่ใช้หน้าจอเยอะเกินไป จนไม่มีสมาธิและทำสิ่งที่น่าเบื่อนานๆ ไม่ได้ พร้อมกับคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย ช้าๆ ชัดๆ นะครับ
อาการที่ 1️⃣ สมาธิสั้น อยู่กับอะไรนานๆ ไม่ได้

▪️ฟังครูแค่ 5–10 นาทีก็เริ่มหันไปมองรอบตัว ในวัยที่ควรนิ่งได้แล้ว
▪️อ่านหนังสือยังไม่ถึงหน้าแรกก็ลุกไปหาอย่างอื่นทำ
▪️เปลี่ยนกิจกรรมบ่อย ทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง

 🧠 เพราะสมองคุ้นกับการเปลี่ยนสิ่งเร้าเร็วๆ จากหน้าจอ

อาการที่ 2️⃣ ไม่มีความอดทน  เบื่อง่าย หงุดหงิดง่าย

▪️เจอบทเรียนยากๆ หรือช้าๆ จะบ่นว่า "น่าเบื่อ"
▪️ถ้าไม่ได้ดูหน้าจอ จะหงุดหงิดหรืองอแง
▪️ไม่อยากรอ ไม่อยากทำซ้ำ ไม่อยากเริ่มใหม่

 ❗ เพราะโดพามีนจากหน้าจอทำให้เด็กคาดหวัง “ความสนุก” ตลอดเวลา

อาการที่ 3️⃣ อ่านหนังสือไม่เข้าใจ  แค่มองผ่าน แต่ไม่ซึมซับ  ไม่เข้าหัว

▪️อ่านไปเหมือนดูผ่านๆ ไม่รู้ว่าเนื้อหาคืออะไร
▪️ไม่สามารถจำหรืออธิบายสิ่งที่อ่านได้
▪️ข้ามบรรทัดหรือรีบอ่านให้จบโดยไม่เข้าใจ

📱 เพราะสมองเคยชินกับภาพเคลื่อนไหวและเสียง ไม่ชินกับตัวหนังสือเรียบๆ เงียบๆ

อาการที่ 4️⃣ ใจลอย ตัวอยู่ตรงนี้แต่ใจไปที่อื่น

▪️เวลานั่งเรียนเหมือนร่างกายอยู่แต่ใจไม่อยู่
▪️คิดถึงเกม มือถือ หรือยูทูบอยู่ตลอดเวลา
▪️ชอบวาดรูป เขียนเล่น หรือกดปากกาไปมา

😶 เพราะสมองไม่สามารถโฟกัสสิ่งที่ไม่มีการกระตุ้นสูงได้

อาการที่ 5️⃣ ร่างกายอยู่นิ่งไม่ได้จะกระสับกระส่าย

▪️นั่งไม่ติดที่ ขยับตลอดเวลา
▪️ลุก เดิน ยืดตัว หมุนเก้าอี้ ทั้งที่เรียนอยู่
▪️บางครั้งมีพฤติกรรมเหมือน ADHD (แม้จะไม่ได้เป็นจริงๆ)

🚨 เกิดจากการเสพสิ่งกระตุ้นตลอดเวลา ทำให้ร่างกายต้องเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้เบื่อ

อาการที่ 6️⃣ พูดเร็ว คิดไว แต่คิดวิเคราะห์ไม่เป็น

▪️เด็กบางคนจะพูดเก่ง ตอบไว
▪️แต่ถ้าให้วิเคราะห์ คิดต่อยอด หรืออธิบายเหตุผล จะทำไม่ได้
▪️ขาดความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เพราะเคยชินกับข้อมูลสั้นๆ เร็วๆ

💡 สะท้อนว่าการใช้หน้าจอแบบสั้นๆ เช่น คลิปสั้น ทำลายการคิดแบบลึกซึ้ง

อาการที่ 7️⃣  นอนหลับยาก เหนื่อยง่าย อารมณ์ไม่คงที่

▪️สมองตื่นตัวเกินไปเพราะโดนแสงฟ้าและภาพกระตุ้น
▪️ส่งผลให้นอนหลับยาก พอหลับไม่เต็มอิ่ม
▪️ทำให้เด็กง่วงตอนกลางวัน หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน

😴 ร่างกายไม่ได้พักจริงๆ เพราะสมองทำงานตลอดเวลา

เมื่อเราทราบอาการแล้ว ต่อไปพ่อโต้งจะอธิบายช้าๆ ชัดๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆว่า… #ทำไมเด็กที่ใช้หน้าจอเยอะๆ ถึงไม่มีสมาธิในการเรียนหรืออ่านหนังสือนานๆ 

🔴 เพราะสมองของเด็กถูกกระตุ้นมากเกินไป

หน้าจอ เช่น มือถือ แท็บเล็ต หรือเกมออนไลน์
จะเปลี่ยนภาพ เสียง และข้อมูล "เร็วมาก"
ทำให้สมองคุ้นเคยกับ "สิ่งเร้าที่เร็วและตื่นเต้น"

เมื่อถึงเวลาที่ต้อง อ่านหนังสือ หรือฟังครูพูด
สิ่งเหล่านั้นดู “ช้า” และ “น่าเบื่อ” สำหรับสมอง
เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนเร็วๆ หรือสนุกเหมือนหน้าจอ

 ❗ เปรียบเทียบง่ายๆ นะครับ 
ถ้ากินอาหารเผ็ดจัดตลอดเวลา พอมากินรสจืดก็จะรู้สึกว่า "ไม่อร่อย"
สมองก็เช่นกัน ถ้าชินกับสิ่งเร้าเร็วๆ จะทนสิ่งที่ช้าหรือเงียบไม่ได้

🔵 เพราะระบบสมาธิในสมองแย่ลงหรือเด็กบางคนถึงขั้นพัง 

การใช้งานหน้าจอมากเกินไป (โดยเฉพาะสื่อที่เปลี่ยนเร็วๆ เช่น TikTok หรือ YouTube Shorts)
จะทำให้ "วงจรสมาธิ" ในสมองอ่อนแอ

สมาธิ คือ ความสามารถในการ "โฟกัสกับสิ่งเดิม" นานๆ แต่หน้าจอสอนสมองให้ "เปลี่ยนสิ่งที่ดู" ตลอดเวลา  พอมาอ่านหนังสือหรือเรียนในห้อง สมองจึง "ทนไม่ได้"

 🔄 หน้าจอ = เปลี่ยนไปเรื่อยๆ → สมองชอบเปลี่ยน
📘 การเรียน = อยู่กับสิ่งเดิม → สมองเบื่อ

🟣 เพราะฮอร์โมนโดพามีน ที่เป็นสารเคมีที่หลั่งออกมาจากสมองเวลาที่เรา รู้สึกดี, สนุก, ตื่นเต้น, หรือ ได้รางวัล ......  มันหลั่งมากเกินไป 

เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ

😆เวลาเด็กเล่นเกมแล้วชนะ → สมองหลั่งโดพามีน → "รู้สึกฟิน"

😁เวลาได้ไลก์จากโพสต์ → โดพามีนหลั่ง → "รู้สึกภูมิใจ"

😃เวลาเปิดคลิป TikTok ใหม่ → โดพามีนหลั่งทันที → "อยากดูอีก"

 💥 โดพามีน = ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกว่า “เอาอีก!”

แต่เมื่อไปทำอะไรที่ไม่มีรางวัลทันที เช่น อ่านหนังสือ หรือทำการบ้าน
สมองจะรู้สึกว่า “ไม่สนุก” “ไม่มีแรงจูงใจ”
เพราะมันไม่ได้รางวัลเร็วแบบที่เคยได้จากหน้าจอ

⚫️ เพราะหน้าจอลดทักษะการอดทนต่อความเบื่อ (Boredom Tolerance)

เด็กที่ใช้หน้าจอบ่อย จะไม่เคยฝึก "การอดทนต่อความเบื่อ" แต่การเรียน การอ่าน หรือการทำงานในชีวิตจริง ล้วนต้องใช้ความอดทน และมีช่วงที่ "น่าเบื่อ"

ถ้าเด็กไม่เคยฝึกสิ่งนี้ เขาจะลุกหนี หยุด หรือขอเปลี่ยนกิจกรรมทันที ทำให้ ขาดความอดทน และ ทำอะไรต่อเนื่องไม่ได้

✅️ ดังนั้นเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  ถ้าเราอยากให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น ถอนพิษโดพามีนของหน้าจอจากสมองลูก ควรทำอย่างไร?

#จำกัดเวลาใช้หน้าจอ เช่น ไม่เกินวันละ 1–2 ชั่วโมง

#ให้เด็กมีเวลาว่างจริงๆโดยไม่ต้องดูจอ เช่น เล่นของเล่น อ่านหนังสือ วิ่งเล่น

#ฝึกให้ทำสิ่งเดิมนานๆทีละนิด เช่น อ่าน 5 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่ม

#ใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบไม่มีหน้าจอ เช่น เล่นกระดาน อ่านนิทาน ทำอาหารด้วยกัน

และ #สร้างความสุขจากกระบวนการ  ค่อยๆสร้าง ค่อยๆทำ รอความสำเร็จ ไม่ใช่จาก “รางวัลทันที" นะครับ 😊

#ดีต่อลูก #หน้าจอ

รถไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ อาจเป็นจริง


.
ทีมนักวิจัยจาก Martin Luther University Halle-Wittenberg ในเยอรมนี ได้เปิดตัวเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงได้สูงขึ้นถึง 1,000 เท่า 
.
นวัตกรรมนี้อาจทำให้ แผงโซลาร์เซลล์ ในอนาคตมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีขนาดเล็กลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
.
นวัตกรรมวัสดุโซลาร์เซลล์ยุคใหม่
การค้นพบนี้เกิดจากการนำผลึกคริสตัลต่างชนิดมาซ้อนกันเป็นชั้นบางพิเศษ โดยมีวัสดุหลักคือ แบเรียมไททาเนต (BaTiO3​) ซึ่งเป็นวัสดุที่เปลี่ยนแสงเป็นไฟฟ้าได้ แต่นักวิจัยพบว่าเมื่อนำมาสร้างเป็นโครงสร้างสลับชั้นกับวัสดุอื่นอีก 2 ชนิด จะเกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้ประสิทธิภาพพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล
.
Dr. Akash Bhatnagar ผู้นำทีมวิจัยอธิบายว่า การสลับชั้นของวัสดุที่มีคุณสมบัติต่างกัน ทำให้โครงสร้างโดยรวมสามารถดูดซับแสงและปล่อยให้อิเล็กตรอนไหลผ่านได้ง่ายขึ้นอย่างมหาศาล
.
จากการทดลองฉายแสงเลเซอร์ไปยังวัสดุใหม่นี้ พบว่าสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้แรงกว่าการใช้ แบเรียมไททาเนตบริสุทธิ์ในความหนาเท่ากันถึง 1,000 เท่า ทั้งที่ใช้วัสดุหลักน้อยลงถึง 2 ใน 3 และยังมีความเสถียรยาวนานเกือบ 6 เดือน
ความสำเร็จครั้งนี้มีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรม พลังงานสะอาด อย่างยิ่ง เพราะจะนำไปสู่
.
แผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูง ผลิตไฟได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม
ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ เหมาะอย่างยิ่งกับการติดตั้งในเมืองหรือบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก
ความทนทานและต้นทุนการผลิต โดยวัสดุมีความทนทานสูงและผลิตง่ายกว่าเซลล์แสงอาทิตย์แบบซิลิคอนในปัจจุบัน
.
แม้จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจกลไกอย่างสมบูรณ์ แต่การค้นพบเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ใหม่นี้ ก็ได้เปิดประตูสู่อนาคตที่มนุษย์จะสามารถใช้ประโยชน์จาก พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้นครับ
.
ที่มา
https://www.techhub.in.th/scientists-discover-new-solar-cell-technology-that-increases-efficiency-by-1000-times/
.
#TechhubUpdate #Solarcell 
.
——————
 ติดตามอัปเดตข่าวไอที How To , Tips เทคนิคใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
ค้นหาข่าวที่อยู่ในความสนใจได้ที่ >> www.techhub.in.th

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการบอกทาง พร้อม คำอ่าน และ คำแปล:

🚞คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับการบอกทาง🚉
Turn left : เทิร์น เลฟท์ : เลี้ยวซ้าย
Turn right : เทิร์น ไรท์ : เลี้ยวขวา
Go straight : โก สเตรท : ตรงไป
Cross the road : ครอส เดอะ โรด : ข้ามถนน
Intersection : อิน-เทอร์-เซค-ชัน : สี่แยก
Traffic light : แทรฟ-ฟิก ไลท์ : ไฟจราจร
Roundabout : เรา-นดะ-เบาท์ : วงเวียน
Corner : คอร์-เนอร์ : มุมถนน
Street : สตรีท : ถนน
Avenue : แอฟ-เว-นิว : ถนนใหญ่
Lane : เลน : ซอย
Block : บลอค : ช่วงตึก
Next to : เน็กซทฺ ทู : ถัดจาก
Opposite : ออพ-โพ-ซิท : ตรงข้าม
Behind : บิ-ไฮนด์ : ข้างหลัง
In front of : อิน ฟรอนทฺ ออฟ : ข้างหน้า
Between : บิ-ทวีน : อยู่ระหว่าง
Near : เนียร์ : ใกล้
Far : ฟาร์ : ไกล

🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸

คำศัพท์สถานที่สำคัญ (ใช้ร่วมกับการบอกทาง)🚇
Bank : แบงก์ : ธนาคาร
Hospital : ฮอส-พิ-ทอล : โรงพยาบาล
Police station : โพ-ลีซ สเท-ชัน : สถานีตำรวจ
Bus stop : บัส สตอป : ป้ายรถเมล์
Train station : เทรน สเท-ชัน : สถานีรถไฟ
Airport : แอร์-พอร์ต : สนามบิน
Hotel : โฮ-เทล : โรงแรม
School : สคูล : โรงเรียน
Market : มาร์-เก็ต : ตลาด
Mall : มอล : ห้างสรรพสินค้า
Restaurant : เรส-เตอ-รองท์ : ร้านอาหาร

🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸🚸

ตัวอย่าง ประโยคเกี่ยวกับการบอกทาง 📍🚸

🚇ประโยคบอกทางทั่วไป🚇
 1. Go straight for about 200 meters.
โก สเตรท ฟอร์ อะ-เบาท์ ทู-ฮัน-เดรด มี-เทอร์ส
แปล: ตรงไปประมาณ 200 เมตรล

 2. Turn left at the traffic light.
เทิร์น เลฟท์ แอท เดอะ แทรฟ-ฟิก ไลท์
แปล: เลี้ยวซ้ายที่ไฟจราจร

 3. Turn right at the next intersection.
เทิร์น ไรท์ แอท เดอะ เน็กซทฺ อิน-เทอร์-เซค-ชัน
แปล: เลี้ยวขวาที่สี่แยกถัดไป

 4. The bank is on your left.
เดอะ แบงก์ อิส ออน ยัวร์ เลฟท์
แปล: ธนาคารอยู่ทางซ้ายมือของคุณ

 5. The hotel is next to the police station.
เดอะ โฮ-เทล อิส เน็กซทฺ ทู เดอะ โพ-ลีซ สเท-ชัน
แปล: โรงแรมอยู่ติดกับสถานีตำรวจ

🚉ประโยคถามทาง🚉
 1. Excuse me, how can I get to the train station?
เอ็กซ์-คิ้วส์ มี, ฮาว แคน ไอ เก็ท ทู เดอะ เทรน สเท-ชัน?
แปล: ขอโทษครับ/ค่ะ ไปสถานีรถไฟต้องไปทางไหน?

 2. Is there a hospital near here?
อิส แดร์ อะ ฮอส-พิ-ทอล เนียร์ เฮียร์?
แปล: แถวนี้มีโรงพยาบาลไหม?

 3. Can you show me on the map?
แคน ยู โชว์ มี ออน เดอะ แมพ?
แปล: คุณช่วยชี้ให้ดูบนแผนที่ได้ไหม?

 4. How far is it from here?
ฮาว ฟาร์ อิส อิท ฟรอม เฮียร์?
แปล: มันอยู่ไกลจากที่นี่แค่ไหน?

#twannapha
#สอนภาษาอังกฤษออนไลน์
#englishwithTookata
#privateclass
#ภาษาอังกฤษง่ายๆ

ถอด 18 บทเรียน ฉลาดรอบด้านด้วยวิถีสามก๊กเลือกม้าเร็วไม่เลือกม้าสวย



1. วางแผนก่อนลงมือ – เรียนจากขงเบ้ง
ก่อนที่ขงเบ้งจะรบหรือเจรจา เขามักจะวางหมากไว้ล่วงหน้าเสมอ เหมือนเราจะสมัครงานหรือเริ่มโปรเจกต์ใหญ่ อย่าลุยก่อนคิด คิดก่อนลุยจะปลอดภัยกว่าเยอะ

2. รู้เขารู้เรา – แบบซุนกวน
ซุนกวนไม่เคยประมาทแม้มีพันธมิตร เพราะเขารู้ว่าศัตรูเปลี่ยนใจได้เสมอ ชีวิตจริงก็เหมือนกัน อย่าไว้ใจใครจนลืมดูแลตัวเอง

3. รู้จังหวะถอย – เหมือนเล่าปี่
เล่าปี่กล้าถอยเพื่อรอเวลาที่เหมาะ การถอยไม่ได้แปลว่าแพ้ บางครั้งคือการรักษาพลังเพื่อสู้ให้ดีกว่าเดิม

4. เลือกคนให้เป็น – ขงเบ้งเลือกม้าเร็วไม่เลือกม้าสวย เวลาเราทำงาน อย่ามองแค่เปลือก คนเก่งอาจไม่พูดเยอะ แต่ลงมือเมื่อไรคือ เป๊ะทุกที

5. กล้ารับผิด – อย่างกวนอู
กวนอูแม้จะพลาด แต่เขาไม่เคยโยนความผิดให้ใคร การยอมรับความผิดคือความกล้าของคนที่มีวุฒิภาวะ

6. ใช้จิตวิทยา – แบบโจโฉ
โจโฉรู้วิธีอ่านใจคน พูดคำเดียวก็สั่นทั้งก๊ก บางทีในชีวิตเรา พูดให้น้อยแต่ลึก อาจได้ผลกว่าพูดยาวแต่ไม่มีน้ำหนัก

7. ไม่ยึดติด – ขงเบ้งเคยวางมือจากการเมืองเพื่อความสงบ บางครั้งชีวิตต้องเลือกความสงบก่อนชื่อเสียง ไม่ใช่ทุกเวทีที่เราต้องขึ้นไปยืน

8. สร้างสัมพันธ์มากกว่าศัตรู – ซุนกวนเลือกเจรจาก่อนรบ ก่อนจะทะเลาะกับใคร ลองคุยดูดีๆ เผื่อจะกลายเป็นทีมที่แข็งแรงแทนที่จะเป็นคู่แข่ง

9. อย่าดูถูกคนเงียบ – เล่าปี่เงียบแต่แกร่ง
คนที่ไม่พูด ไม่ได้แปลว่าไม่คิด พวกเงียบๆ นี่แหละ ถ้าขยับคือเปลี่ยนเกมได้เลย

10. ยอมเสียเล็กเพื่อได้ใหญ่ – ขงเบ้งยอมปล่อยเมืองหนึ่งเพื่อได้ชัยระยะยาวบางครั้งต้องยอมเสียเวลา เงิน หรืออารมณ์นิดหนึ่ง เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในอนาคต

11. รู้จักฟัง – เล่าปี่มักฟังขงเบ้งก่อนตัดสินใจในยุคที่ทุกคนแย่งพูด คนที่ยอมฟังกลับได้เปรียบ เพราะฟังมากขึ้น = เข้าใจมากขึ้น

12. สร้างภาพลักษณ์ให้เป็น – โจโฉรู้จักใช้ภาพลักษณ์นำเกมไม่ใช่การหลอก แต่คือการรู้ว่าคนมองเราแบบไหน แล้วใช้มันสร้างโอกาส

13. ซื่อสัตย์ต่อคุณธรรม – กวนอูไม่ยอมรับสินบนแม้ถูกล่อลวง ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่เชื่อ ถึงจะไม่รวยเร็ว แต่สบายใจได้นาน

14. อย่าใช้แต่อารมณ์ – ซุนกวนยอมอดกลั้นแม้จะโกรธจนลุกเป็นไฟอารมณ์อาจทำลายสิ่งที่เราสร้างมานาน ลองหายใจลึกๆ แล้วค่อยพูด หรือค่อยทำ

15. ชนะใจคนด้วยความจริงใจ – แบบเล่าปี่ เล่าปี่ไม่ต้องใช้เงินซื้อใจใคร แค่จริงใจ คนก็พร้อมอยู่ข้างเขาแล้ว

16. หาคนที่ต่างจากเรา – ขงเบ้งไม่ใช่คนเหมือนเล่าปี่ แต่เป็นทีมที่ลงตัวอย่ามองหาแต่คนที่คิดเหมือนกัน บางครั้งคนที่คิดต่างคือคนที่เติมเต็มเราได้ดีที่สุด

17. ใช้จุดอ่อนเป็นพลัง – โจโฉโดนมองเป็นคนร้าย แต่ใช้มันสร้างอำนาจอย่าเสียใจที่ไม่เหมือนใคร จุดที่เราโดนมองว่า “แปลก” อาจกลายเป็นจุดแข็งของเราได้

18. ปิดเกมให้สวย – ขงเบ้งตายแต่แผนยังเดินต่อ ชีวิตไม่ใช่แค่เริ่มต้นดี แต่ต้องจบดีด้วย อย่าทิ้งอะไรไว้ครึ่งๆ กลางๆ ให้คนอื่นต้องมาเก็บ

#สามก๊ก #กวนอู

เลี้ยงลูกให้แกร่ง… อย่างนกอินทรี

🦅 เลี้ยงลูกให้แกร่ง… อย่างนกอินทรี ✨ นกอินทรีเป็นพ่อแม่ที่สอนลูกให้ "แกร่ง" และ "เอาตัวรอด" ได้ตั้งแต่เกิด 🦅 พวกมันไม่...