วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568

โรงเรียนคุณภาพที่ใช้จิตศึกษา PBL & PLC

วันนี้มีโอกาสได้อยู่พูดคุยกับ ai  เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย

Teacher : 5 ประเทศแรกที่ศึกษาระดับปฐมวัยได้ดี ?
ai : ฟินแลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ สิงคโปร์
Teacher : ช่วยแนะนำ โรงเรียน ในประเทศไทยที่จัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัยได้ดีมีคุณภาพ ?
Teacher : รายชื่อตามภาพ ...🦋🕊️🌿
การจัดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาปฐมวัยที่ดีที่สุดอาจแตกต่างกันไปตามเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่มีอยู่ ประเทศที่มักได้รับการยอมรับว่ามีระบบการศึกษาปฐมวัยที่มีคุณภาพสูง ได้แก่:
 1. ฟินแลนด์ (Finland): ฟินแลนด์มีระบบการศึกษาปฐมวัยที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่น โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์ของเด็ก มากกว่าการเน้นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในช่วงแรก
ฟินแลนด์: “เล่นอย่างมีจุดหมาย”
 • กิจกรรม: ให้เด็กเล่นบทบาทสมมุติ เช่น ร้านขายของ ห้องครัว โรงพยาบาล
 • เป้าหมาย: พัฒนาทักษะทางสังคม การคิดเชิงเหตุผล และภาษาผ่านการโต้ตอบกับเพื่อน
 • แนวทาง: ครูเป็น “ผู้นำทาง” ไม่ใช่ “ผู้สอน” ให้คำแนะนำเมื่อจำเป็น
ฟินแลนด์: การสังเกตเชิงคุณภาพ
 • เครื่องมือ: สมุดจดบันทึกพัฒนาการ, แบบบันทึกการมีส่วนร่วมของเด็ก, การพูดคุยกับผู้ปกครอง
 • วิธีการ: ครูจะสังเกตพฤติกรรมของเด็กระหว่างการเล่นและทำกิจกรรม แล้วบันทึกเป็นรายบุคคล
 • เน้น: ความสนใจ ความร่วมมือ การสื่อสาร ความมั่นใจ
 2. สวีเดน (Sweden): สวีเดนมีการบูรณาการการดูแลและการศึกษาเข้าด้วยกัน โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาปฐมวัยได้  
สวีเดน: “กิจกรรมกลางแจ้งทุกวัน”
 • กิจกรรม: เดินป่า ทำแปลงปลูกผัก เล่นอิสระในสวนสาธารณะ
 • เป้าหมาย: สร้างความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ส่งเสริมสุขภาพกาย-ใจ
 • แนวทาง: แม้อากาศหนาว เด็กก็จะมีกิจกรรมนอกห้อง เพราะเชื่อว่า “ไม่มีอากาศที่แย่ มีแต่การแต่งตัวที่ไม่เหมาะสม”
สวีเดน: บันทึกเล่าเรื่อง (Learning Stories)
 • เครื่องมือ: Learning Stories (บันทึกเรื่องราวของเด็ก), รูปถ่ายผลงาน
 • วิธีการ: ครูจะเขียนเล่าเรื่องของเด็กเวลาที่เขาเรียนรู้บางอย่าง เช่น “วันนี้อลิซาก่อกองทรายด้วยเพื่อน 3 คน เธอแบ่งหน้าที่และช่วยกันออกแบบ”
 • เน้น: ความคิดสร้างสรรค์ ความร่วมมือ ความยั่งยืนในการเรียนรู้

 3. เดนมาร์ก (Denmark): เดนมาร์กให้ความสำคัญกับการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยเด็ก ๆ จะได้ใช้เวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางกายและจิตใจ
เดนมาร์ก: “การเรียนรู้แบบเปิด”
 • กิจกรรม: ก่อสร้างจากวัสดุธรรมชาติ สร้างบ้านต้นไม้ ระบายสีด้วยนิ้ว
 • เป้าหมาย: กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฝึกกล้ามเนื้อและความร่วมมือ
 • แนวทาง: ไม่เน้นผลงานสวย แต่เน้นกระบวนการเรียนรู้
เดนมาร์ก: Portfolio พัฒนาการ
 • เครื่องมือ: แฟ้มสะสมงาน (Portfolio) ซึ่งรวมงานศิลปะ ภาพถ่าย กิจกรรมเด่น ๆ
 • วิธีการ: ใช้ร่วมกับการพูดคุยกับเด็ก ให้เด็กอธิบายสิ่งที่ทำ เพื่อดูความเข้าใจ
 • เน้น: การสะท้อนคิด การพัฒนาต่อเนื่อง และความสามารถหลากหลาย

 4. นิวซีแลนด์ (New Zealand): นิวซีแลนด์ใช้กรอบหลักสูตร Te Whāriki ที่เน้นการพัฒนาเด็กในทุกด้าน ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม  
นิวซีแลนด์: “โครงสร้างยืดหยุ่น” (Te Whāriki)
 • กิจกรรม: เด็กเลือกกิจกรรมเอง เช่น ดนตรี ศิลปะ เล่านิทาน ร้องเพลง
 • เป้าหมาย: สร้างความมั่นใจ เคารพตนเองและผู้อื่น
 • แนวทาง: ครูสังเกตและบันทึกพัฒนาการรายบุคคลแบบ Portfolio
นิวซีแลนด์: Te Whāriki Assessment
 • เครื่องมือ: แนวทางการประเมิน 5 ด้าน (Wellbeing, Belonging, Contribution, Communication, Exploration)
 • วิธีการ: ประเมินจากกิจกรรมประจำวัน พร้อมสะท้อนผ่านการเขียน Learning Stories และสื่อสารกับครอบครัว
 • เน้น: ความเป็นตัวของตัวเอง การมีส่วนร่วม และความสุขในการเรียนรู้

 5. สิงคโปร์ (Singapore): สิงคโปร์มีหลักสูตรที่มีโครงสร้างชัดเจน โดยผสมผสานการเรียนรู้ทางวิชาการเข้ากับการพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์ของเด็ก
สิงคโปร์: “ผสมผสานระหว่างอิสระและวิชาการ”
 • กิจกรรม: เรียนผ่านสื่อการสอน เช่น บัตรคำ ตัวเลข นิทาน เกมการศึกษา
 • เป้าหมาย: ปูพื้นฐานวิชาการควบคู่กับทักษะชีวิต
 • แนวทาง: จัดตารางมีกิจกรรมทั้งแบบเสรีและแบบมีเป้าหมาย

สิงคโปร์: การประเมินสมรรถนะ (Holistic Development Profile)
 • เครื่องมือ: แบบประเมินสมรรถนะเด็ก (Competency Checklist), Portfolio
 • วิธีการ: ครูใช้ checklist ดูทักษะที่เด็กควรมีในแต่ละช่วงวัย (ภาษา กล้ามเนื้อ สังคม ฯลฯ)
 • เน้น: สมรรถนะรอบด้าน พร้อมเตรียมตัวเข้าสู่ระดับประถมศึกษา

สรุปเครื่องมือที่นิยมใช้ร่วมกัน:
 • การสังเกต (Observation)
 • Learning Stories
 • Portfolio
 • แบบประเมินเชิงพฤติกรรม
 • การพูดคุยกับผู้ปกครอง

แนวทางการจัดกิจกรรมปฐมวัยจากประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดมักมีจุดร่วมคือ การเรียนรู้ผ่านการเล่น, ส่งเสริมความเป็นอิสระ, และ เชื่อมโยงกับชีวิตจริง นี่คือตัวอย่างวิธีจัดกิจกรรมคร่าว ๆ จากประเทศชั้นนำ:
การจัดอันดับนี้อ้างอิงจากคุณภาพของหลักสูตร การฝึกอบรมครู และการสนับสนุนจากรัฐบาลในแต่ละประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

10 สิ่งที่โคตรเสียเวลาชีวิต

1. เถียงเพื่อชนะคนที่ไม่อยากเข้าใจ เขาใช้พลังไปกับการอธิบายให้คนที่ไม่ตั้งใจฟังเข้าใจทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้อยากเข้าใจตั้งแต่แรกแล้...