ปัญหาสำคัญในการบริหารสัญญาจ้างก่อสร้างของหน่วยงานภาครัฐคือ “ใครเป็นผู้แจ้งค่าปรับแก่ผู้รับจ้างเมื่อส่งมอบงานล่าช้า?” 🤔 หลายหน่วยงานยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหน้าที่ในการแจ้งค่าปรับ ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หน่วยงานอาจสูญเสียสิทธิ์เรียกค่าปรับจากผู้รับจ้าง
💡 เพื่อให้เกิดความชัดเจน เราจะมาดูกันว่าระเบียบข้อ 181 และข้อ 17 ของสัญญาจ้างก่อสร้างระบุไว้ว่าอย่างไร และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องคืออะไร
🔹 ข้อกำหนดตามระเบียบและสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งค่าปรับ
1️⃣ ระเบียบข้อ 181 ของกระทรวงการคลัง
📌 ระบุว่า
“เมื่อครบกำหนดส่งมอบงาน และมีค่าปรับเกิดขึ้น ให้หน่วยงานของรัฐแจ้งการเรียกค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากคู่สัญญาภายใน 7 วันทำการ นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบ และเมื่อคู่สัญญาได้ส่งมอบพัสดุ ให้หน่วยงานของรัฐบอกสงวนสิทธิ์การเรียกค่าปรับในขณะที่รับมอบพัสดุนั้นด้วย” 
📌 สรุปเงื่อนไขสำคัญ:
✅ หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งค่าปรับแก่ผู้รับจ้าง ภายใน 7 วันทำการ หลังครบกำหนดส่งมอบงาน
✅ เมื่องานถูกส่งมอบล่าช้าและได้รับมอบแล้ว ต้องแจ้งสงวนสิทธิ์ค่าปรับในขณะรับมอบงาน
✅ หากหน่วยงาน ไม่แจ้งค่าปรับภายใน 7 วัน อาจถูกตีความว่าสละสิทธิ์ในการเรียกค่าปรับ
2️⃣ ข้อ 17 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
📌 ระบุว่า
“หากผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา และผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่กำหนดต่อวัน นับจากวันที่ครบกำหนดเวลาแล้วเสร็จของงานตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายเวลาทำงานให้ จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จจริง”
“และถ้าผู้ว่าจ้าง ได้แจ้งข้อเรียกร้องไปยังผู้รับจ้างเมื่อครบกำหนดเวลาแล้วเสร็จของงาน ขอให้ชำระค่าปรับแล้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ ที่จะปรับผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิกสัญญาได้อีกด้วย” 
📌 สรุปเงื่อนไขสำคัญ:
✅ หากมีการแจ้งข้อเรียกร้องค่าปรับ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วเสร็จของงาน ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ปรับผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิกสัญญา
✅ หาก ไม่มีการแจ้งค่าปรับเมื่อครบกำหนดเวลาแล้วเสร็จของงาน จะไม่มีสิทธิ์ปรับผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิกสัญญา
🔹 วิเคราะห์ว่าผู้ใดมีหน้าที่แจ้งค่าปรับแก่ผู้รับจ้าง?
✅ 1. หน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบแจ้งค่าปรับ
📌 จากระเบียบข้อ 181 และข้อ 17 ของสัญญา ข้อความระบุชัดว่า “หน่วยงานของรัฐ” และ “ผู้ว่าจ้าง” ต้องเป็นผู้แจ้งค่าปรับ
📌 หน่วยงานของรัฐ หรือ ผู้ว่าจ้าง หมายถึง ฝ่ายพัสดุ หรือหน่วยงานที่เป็นคู่สัญญากับผู้รับจ้าง ไม่ใช่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
🚨 ข้อสรุป:
✅ ฝ่ายพัสดุ หรือหน่วยงานผู้ว่าจ้าง ต้องเป็นผู้แจ้งค่าปรับแก่ผู้รับจ้าง
✅ หากฝ่ายพัสดุหรือผู้ว่าจ้างไม่แจ้งค่าปรับภายใน 7 วันทำการ อาจเสียสิทธิ์ในการเรียกค่าปรับ
✅ 2. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีหน้าที่แจ้งค่าปรับหรือไม่?
📌 ข้อ 176 ของระเบียบกระทรวงการคลัง กำหนดว่า
✅ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีหน้าที่ตรวจรับ ตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจรับให้หน่วยงานของรัฐทราบ
✅ หากพบว่างานล่าช้า ต้องรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านฝ่ายพัสดุเพื่อพิจารณาสั่งการ
🚨 ข้อสรุป:
✅ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ไม่มีหน้าที่แจ้งค่าปรับโดยตรง แต่ต้องแจ้งข้อมูลการล่าช้าให้ฝ่ายพัสดุทราบ
🔹 แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง: ทำอย่างไรไม่ให้รัฐเสียสิทธิ์?
✅ 1. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ต้องแจ้งข้อมูลความล่าช้าให้ฝ่ายพัสดุหรือหน่วยงานผู้ว่าจ้างทราบ
📌 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่มีอำนาจแจ้งค่าปรับ แต่ต้องแจ้งฝ่ายพัสดุทันทีเมื่อพบว่าผู้รับจ้างส่งมอบงานล่าช้า
✅ 2. ฝ่ายพัสดุ หรือหน่วยงานผู้ว่าจ้าง ต้องแจ้งค่าปรับเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 7 วันทำการ
📌 หากแจ้งล่าช้า อาจถูกตีความว่าสละสิทธิ์ในการเรียกค่าปรับ
✅ 3. ฝ่ายพัสดุ ต้องแจ้งสงวนสิทธิ์ค่าปรับในขณะที่รับมอบงานล่าช้า
📌 หากไม่มีการแจ้งสงวนสิทธิ์ค่าปรับ อาจถูกตีความว่า รับงานโดยไม่มีค่าปรับ
✅ 4. หน่วยงานต้องกำหนดระเบียบปฏิบัติภายในให้ชัดเจน
📌 ควรกำหนดให้ “ฝ่ายพัสดุเป็นผู้แจ้งค่าปรับ และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเป็นผู้รายงานข้อมูลความล่าช้า”
🔹 บทสรุปสำคัญ: ใครต้องเป็นผู้แจ้งค่าปรับ?
📢 1. ฝ่ายพัสดุ หรือหน่วยงานผู้ว่าจ้าง ต้องเป็นผู้แจ้งค่าปรับโดยตรง
📢 2. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ต้องแจ้งข้อมูลการล่าช้าให้ฝ่ายพัสดุทราบ ไม่ใช่ผู้แจ้งค่าปรับเอง
📢 3. หน่วยงานต้องแจ้งค่าปรับภายใน 7 วันทำการ มิฉะนั้นอาจเสียสิทธิ์เรียกค่าปรับ
📢 4. ต้องแจ้งสงวนสิทธิ์ค่าปรับในขณะที่รับมอบงาน เพื่อป้องกันปัญหาการโต้แย้ง
💡 สรุปง่ายๆ: การแจ้งค่าปรับเป็นหน้าที่ของฝ่ายพัสดุ ไม่ใช่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ! 💡
✅ อย่าปล่อยให้หน่วยงานรัฐเสียสิทธิ์เพราะความเข้าใจผิด!
📢 แชร์โพสต์นี้ให้ทุกหน่วยงานรู้! เพื่อป้องกันการสูญเสียค่าปรับจากผู้รับจ้าง และรักษาผลประโยชน์ของประเทศ! 🚧
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
✏️✏️✏️✏️✏️
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น